วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกบทความ-ความเห็น“พายเรือให้หนูนั่งนายกฯ” โดย “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์”

“พายเรือให้หนูนั่งนายกฯ” โดย “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์”

เผยแพร่

spot_img

อนุทินอยากเป็นนายกฯ มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ จึงย่อมมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ 

แต่ด้วยเงื่อนไขของพรรคประชาชนที่เสนอให้เวลา 4 เดือนแล้วยุบสภา 

ภายใน 4 เดือน นายอนุทินจะไปแก้ไขปัญหาประเทศอะไรได้? 

แต่จะเป็นการพลิกเกมเรื่องปัญหาของตัวเอง ที่มีสำนวนคดีกองไว้เต็มโต๊ะของ DSI และ กกต. ล้วนเป็นคำถามที่ประชาชนอดสงสัยไม่ได้

คดีสำคัญๆ ทั้งนั้น เหมือนภูเขาไฟรอระเบิด

การรับข้อเสนอของนายอนุทินเพียงแค่ต้องการอำนาจ และใช้มนต์เป่าคดีที่อีนุงตุงนังให้หายไป ทั้งเรื่องเขากระโดง และฮั้ว ส.ว.

ทุกๆ เรื่องเป็นสิ่งที่นายอนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะอ้างว่า “ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ“ ไม่ได้ เพราะบางเรื่อง DSI ได้แจ้งข้อกล่าวหานายอนุทินด้วย

พรรคประชาชนต้องตระหนักว่า การโหวตให้นายอนุทินประเทศชาติจะได้ประโยชน์ใด?

ที่ว่า “อยู่แค่ 4 เดือน” เอาอะไรไปคิด มีข้ออ้างสารพันที่จะต้องอยู่สะสางต่อ จะไปยุบยังไง?

ต้องเสียสัตย์เพื่อชาติ

พรรคประชาชนอย่าเสียเหลี่ยมคูการเมืองไปอีกเป็นรอบสอง 

การเมืองของพรรคประชาชนเป็นการเมืองใหม่ ต่างจาก DNA ลีลาของพรรคภูมิใจไทยอยู่มากโข

ที่เห็นมาก็มีทั้งงูเห่า มีทั้งกล้วย มีทั้งพวกหักหลัง มีทั้งนอมินี 

แม้จะเสนอเงื่อนไขให้ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเสนอเข้าสภาต้องผ่าน ส.ว. ก็โดนคว่ำอยู่ดี

ส.ว. ของใคร?

พรรคประชาชนจะทำอะไรได้?

นี่มันเป็นการที่พรรคประชาชนเชื้อเชิญให้บรรดานักการเมืองลีลาดึกดำบรรพ์ทั้งหลายขนกล้วยเสบียงกรังขึ้นบนเรือที่ตัวเองเป็นคนพายแท้ๆ 

อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมพรรคประชาชนจะไป “อินโนเซนท์“ ได้ขนาดนั้น?

หรือมี ”ดีลฮั้ว“ อะไรที่อยู่เบื้องหลัง?

เหลี่ยมนักการเมืองร้อยแปดเล่มเกวียน ลีลาการเมืองของแท้ ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากไปตายเอาดาบหน้า 

เงื่อนไขอะไรก็รับกันหมด ทั้งภูมิใจไทย และเพื่อไทย เพราะอยากเป็นนายกฯ

แต่พรรคประชาชนจะเลือกใคร? 

หรือจะตกเป็นเครื่องมืออีกครั้ง?

โดยครั้งนี้จะมีผลถึงคะแนนเสียงในเมืองจากการเลือกตั้งอันใกล้นี้ 

คะแนนของพรรคจะตกต่ำกว่าเดิม หากตัดสินใจผิดในครั้งนี้

จะพังเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยพังมาแล้วในอดีต 

ยุบสภา ล้างไพ่ใหม่ คืนอำนาจให้ประชาชน คือเงื่อนไขเดียวที่พรรคประชาชนนำเสนอตามที่เคยบอกไว้ 

ล่าสุด พรรคกล้าธรรมทิ้งเพื่อไทยไปซบภูมิใจไทยเรียบร้อย 

ได้กระทรวงมหาดไทยมาแลก เลียนแบบภูมิใจไทยในอดีต

เป็นพรรคกล้าหัก หักลุงตู่ หักลุงป้อม หักทักษิณ หักดะไม่ไว้หน้าใคร

แบบนี้ใช่การเมืองใหม่ที่พรรคประชาชนต้องการหรือ?

อย่ามั่นใจเกินไป ว่าการพายเรือให้บรรดานักการเมืองเขี้ยวลากทั้งหลายนั่ง จะอยู่รอดปลอดภัย ไม่แว้งมากัดคนพายเมื่อถึงฝั่ง

มันไม่มีสัจจะในหมู่นักการเมือง

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

คุณอาจอยู่ถึงร้อยปี แต่เงินคุณจะอยู่ถึงไหม

The Longevity Paradox: เมื่อคนอยู่ได้นานกว่าเงินที่ตัวเองวางแผนไว้ วันนั้นฉันนั่งประชุมกับลูกค้าคู่สามีภรรยาวัย 75 ปี เขาหันมาพูดกับฉันว่า “Annabel ตอนเราวางแผนเกษียณ เราคิดว่าจะอยู่ถึง 85 ก็เยอะแล้ว” ฉันยิ้มแล้วถามกลับว่า “แล้วตอนนี้คิดว่ายังไงคะ?” เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบว่า “หมอบอกเราน่าจะอยู่ถึงร้อย…” แล้วเขาก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดช้า...