วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเมืองไทยวันนี้เปิดเหตุผล! ทำไม "7 ล้านคน" ที่เคยได้คนละครึ่งเฟส 5 อาจชวด "คนละครึ่ง 2568" รอบใหม่

เปิดเหตุผล! ทำไม “7 ล้านคน” ที่เคยได้คนละครึ่งเฟส 5 อาจชวด “คนละครึ่ง 2568” รอบใหม่

เผยแพร่

spot_img

โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ปี 2568 ที่รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนระหว่างวันที่ 20–26 ตุลาคม 2568 กำลังเป็นที่จับตาอย่างมากในสังคม เพราะมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีประชาชนถึง 7 ล้านคนที่เคยได้รับสิทธิ์ “คนละครึ่ง เฟส 5” ชวดสิทธิ์ในรอบใหม่นี้

* โครงการคนละครึ่ง 2568 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่

1.กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านคน

ได้รับเงินเพิ่มเติม 1,700 บาท/เดือน รวมกับสิทธิเดิมอีก 300 บาท เป็น 2,000 บาท/เดือน โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

2.กลุ่มคนทั่วไปที่อยู่นอกระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน

ได้สิทธิ์ แบบ 50:50 รัฐบาลสมทบ 2,000 บาท

ประชาชนเติมเงินเองอีก 2,000 บาท

ใช้จ่ายผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ได้ไม่เกินวันละ 200 บาท

3.กลุ่มคนทั่วไปที่อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน

ได้สิทธิ์ แบบ 60:40 รัฐบาลสมทบ 2,400 บาท

ประชาชนเติมเงินเอง 2,000 บาท

ใช้จ่ายผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ได้ไม่เกินวันละ 200 บาท

รวมแล้วจะมีประชาชนที่ได้สิทธิ์จาก “คนละครึ่งพลัส” ทั้งหมด ประมาณ 33 ล้านคน (เฉพาะกลุ่มที่เข้าเกณฑ์)

* ทำไมถึงมี “7 ล้านคน” อาจชวดสิทธิ์?

จากข้อมูลของเว็บไซต์ Kapook.com เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 พบว่า ในโครงการ คนละครึ่งเฟส 5 มีผู้เข้าร่วมสูงถึง 27 ล้านคน (ไม่รวมผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) แต่เมื่อเทียบกับโครงการ คนละครึ่งพลัส 2568 ที่กำหนดสิทธิ์รวมเพียง 20 ล้านคนในกลุ่มบุคคลทั่วไป จึงทำให้เกิดช่องว่างกว่า 7 ล้านสิทธิ์ ที่ “หายไป” จากระบบ

สาเหตุที่อาจทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ไม่ได้รับสิทธิ์มีดังนี้

* ไม่ผ่านเกณฑ์ภาษีหรือรายได้

บางคนมีรายได้เกินเกณฑ์ที่กำหนด หรืออยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี ทำให้ไม่เข้าเกณฑ์ “กลุ่มทั่วไป” ที่กำหนดสิทธิ์ไว้

* ไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์ในแอปฯ เป๋าตัง

แม้เคยได้รับสิทธิ์ในเฟสก่อน แต่หากไม่ยืนยันตัวตนหรือไม่ได้อัปเดตข้อมูลในรอบใหม่ ก็จะถือว่าสละสิทธิ์

* เสียชีวิต หรือพ้นคุณสมบัติจากอายุและสัญชาติ

มีบางส่วนเป็นผู้เสียชีวิต หรือไม่มีบัตรประชาชน/ไม่มีสัญชาติไทย ทำให้ระบบตัดสิทธิ์โดยอัตโนมัติ

* เปลี่ยนสถานะทางภาษีหรืองานทำ

บางคนอาจเข้าสู่ระบบประกันสังคมหรือกลุ่มข้าราชการ ซึ่งไม่สามารถรับสิทธิ์ซ้ำได้

* จำกัดจำนวนสิทธิ์เฉพาะผู้มีคุณสมบัติตามที่รัฐบาลกำหนด

รัฐบาลตั้งเป้าให้สิทธิ์เพียง 20 ล้านคนเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณ 44,000 ล้านบาท

* สรุปไทม์ไลน์ “คนละครึ่งพลัส 2568”

15 ต.ค. 68 : เปิดลงทะเบียนร้านค้าเข้าร่วมโครงการ

20–26 ต.ค. 68 : ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปฯ “เป๋าตัง”

29 ต.ค. 68 : เริ่มใช้สิทธิ์ “คนละครึ่งพลัส” ได้ทันที

31 ธ.ค. 68 : สิ้นสุดโครงการ

* หมายเหตุสำคัญ

ตัวเลข “7 ล้านคน” ที่อาจชวดสิทธิ์เป็นเพียงการคาดการณ์จากข้อมูลสถิติในอดีต ซึ่งอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากฐานข้อมูลประชากรเปลี่ยนแปลงไปจากช่วง “คนละครึ่งเฟส 5” (เมื่อราว 3–4 ปีก่อน)บางคนเปลี่ยนสถานะ เช่น เข้าระบบภาษี หรือเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ดังนั้น การเปิดลงทะเบียนวันที่ 20 ตุลาคม 2568 จึงเป็นช่วงสำคัญที่ประชาชนต้องรีบตรวจสอบสิทธิ์และยืนยันตัวตนในระบบ เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิ์ในโครงการนี้

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

“โฆษก กต.” เผย “สีหศักดิ์” ประท้วงไปยัง “ปรัก สุคน” แล้ว

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด บริเวณห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ

5 อรหันต์’ โต้ ป.ป.ช. ปมคดีงบ 3.5 หมื่นล้าน! ชี้’ครม.-กมธ.’ต้องรับผิดชอบด้วยกัน

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์, พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป, นายสมชาย แสวงการ, อ.เจษฎ์ โทณะวณิก, นายนิติธร ล้ำเหลือ แถลงข่าว

ศาลฎีกาตัดสินแล้ว! รับจ้างเปิด “บัญชีม้า” อ้างถูกหลอก… ศาลฎีกาไม่ฟัง!

แค่รับจ้างเปิดบัญชี ไม่ได้ไปหลอกเงินใคร จะผิดได้ยังไง? นี่คือคำถามที่หลายคนสงสัย วันนี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับล่าสุดมาเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดครับ คดีนี้จำเลยเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ได้รับเงิน 800 บาท เพื่อเปิด 2 บัญชีให้คนอื่น