วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเรื่องสั้น“นาที…มรณะ !”

“นาที…มรณะ !”

เผยแพร่

spot_img

แสงแดดเอียงลู่ปลายอาคารคอนกรีตสีซีด  อ่อนแสงโรยแรงไปทางสุดขอบตึกด้านโน้น

                              เขาลงจากรถกระบะเก่า  มองผนังด้านข้างที่มีรอยร้าวทอดยาวเหมือนเส้นเลือดแข็งตายตามอายุของโกดัง  แล้วกวาดสายตาไปรอบ ๆ ที่เรียงรายด้วยอาคารเก่ารอรื้อ

                              ลูกน้องรี่ไปหยุดยืนตรงประตูเหล็กแผ่นหนาที่ปิดสนิท ริมประตูพ่นสีซีดอักษรบริษัทรับฝากสินค้าเก่าที่เพิ่งล้มละลาย

                              กลิ่นฝุ่นเก่าเข้าปากทุกครั้งที่หายใจ ความเงียบในลานกว้างนั้นหนักอึ้งเกินเหตุ เขามองลูกน้องที่ยกสมุดจดสัญญา ชี้ให้ดูรายการ “ปลดระบบไฟฟ้า,รื้อกล่องจ่ายไฟ,เตรียมเดินไฟใหม่”

                              งานธรรมดาที่เคยทำมาหลายครั้ง

            แต่“เบื้องหลัง”  ….เขายิ้มกับตัวเองที่กุมมันไว้

                                     ที่นี่เคยมีเรื่องทุจริตโกงกัน มีหลักฐานที่ลูกน้องพบและเก็บไว้    มันสำคัญที่จะแปลงเป็นเงินได้มากทีเดียว

            เสร็จงานหน้าฉาก…เขาจะตลุยเรียกเงินทันที….

                                     คนเฝ้าโกดังแอบบอกแหล่งซุกของผิดกฎหมาย  เขาเก็บงำไว้เพื่อรอเวลา …เท่านั้น

                             บอกลูกน้องให้รอที่รถ รอดูสถานการณ์รอบข้าง  จะไว้ใจใครไม่ได้ 

เสร็จงานคราวนี้   มีรางวัลให้อย่างจุใจทีเดียว

                             เตรียมเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้ไว้ให้พร้อม   หากต้องรื้อสายไฟฟ้าชุดแรกในบ่ายวันนี้  ก็จะได้จัดการตามแผนที่คุยกันไว้…

                            ไม่ต้องห่วงเขา  ที่จะเข้าไปสำรวจหน้างานตามลำพังก่อน

                             เสียงบานพับเหล็กดังเอี๊ยดสนั่นในความเงียบขณะประตูเหล็กบานใหญ่ถูกงัดเปิดออก

                             กลิ่นอับชื้นของห้องใต้ดินตีกับกลิ่นฝุ่นเก่า ๆ จากผนังซีเมนต์ที่ผุพัง ไฟเพดานกระพริบเป็นจังหวะเหมือนหัวใจเต้นผิดจังหวะ

                            เดินย่ำข้างทางจนถึงทางเข้า  เหลียวมองไปรอบ ๆ ฝุ่นหนาทึบจนแสบตา  จึงดึงผ้าปิดจมูก สวมไฟฉายคาดหัว และตัดสินใจเดินเข้าประตูคนเดียว

                           พ้นธรณีประตู สัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบที่เกาะตามต้นคอ เงาในโกดังทอดยาวจนเหมือนโพรงว่างไม่มีที่สิ้นสุด แสงไฟแผ่วที่ลอดจากรอยแตกผนังช่วยให้เห็นเพียงแนวลังไม้และท่อนเหล็กพิงกำแพง

                            ก้าวระวังทีละก้าว ลากสายไฟฉายคาดหัวให้ไม่พันกับแขนเสื้อ ไฟค่อยๆ ส่องไปถึงผนังชั้นใน ด้านขวามือมีบานประตูเหล็กอีกชั้น 

       คาดว่านั่นคงเป็นห้องควบคุมไฟ

                           เมื่อดึงที่จับประตูเหล็ก กลอนด้านในขยับด้วยเสียงแหลมแห้ง บานประตูค่อยๆ แง้มเผยห้องสี่เหลี่ยมแคบที่เต็มไปด้วยสายไฟพันยุ่งเหมืินจับขยุ้ม  กล่องจ่ายไฟขนาดใหญ่ฝุ่นจับหนาหนักอยู่มุมห้อง

                           ลังเลชั่วครู่แล้วก้าวเข้าไป   เสียงประตูปิดช้าๆ ตามแรงถ่วง เขาไม่ใส่ใจนัก เพราะตั้งใจจะรื้ออุปกรณ์ด้านหน้าที่เห็นให้เสร็จแล้วออกไปขนอุปกรณ์เครื่องมือกลับมาอีกครั้งพร้อมลูดน้อง

                           บรรยากาศในห้องแคบหนาแน่นราวกลิ่นสนิมกับร่องรอยอับชื้นสะสมมานานหลายปี เส้นสายไฟจำนวนมากห้อยระโยงระยางเหมือนร่างสัตว์ตาย หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อยจากแรงประหม่าในที่คับแคบ

                          เหลีอบมองไปรอบ ๆ แล้วย่อเข่าลงตรวจกล่องไฟ มือไล่คลำหากลอนยึดเพื่อลองง้างฝาให้เปิด   คลำนำทางไปทีละนิด….

                          แต่ปลายนิ้วกลับไปสะกิดสวิตช์ขนาดเท่าเหรียญที่ฝังอยู่บนแผงควบคุม

                          เสียงคลิกเบาๆ ดังในความเงียบ ก่อนไฟสีแดงดวงเล็กบนตัวกล่องติดขึ้นทันที

                          เขาผงะ…ขยับถอยหลังจนล้มกับพื้น….!!

                          แสงไฟนั้นกระพริบสองครั้ง ก่อนจอดิจิทัลตัวใหญ่เหนือกล่องแสดงตัวเลขสีแดงเข้ม

                          เขาตื่นตระหนกทันที…..!!

00:29:59    …..เวลาของนาฬิกาดิจิตอล

                          เสียงนับถอยหลังเริ่มขึ้นด้วยจังหวะสม่ำเสมอ

                          ลมหายใจเขาขาดห้วง เขายกมือปาดเหงื่อที่ผุดเต็มไรผม ความเย็นจากพื้นคอนกรีตเปลี่ยนเป็นความร้อนวูบจนแสบขมับ เขาจ้องตัวเลขที่เคลื่อนลดลงเหมือนถูกตอกย้ำว่ากำลังเผชิญกับอะไร

              หรือมันอาจเป็นระเบิด…ที่ตั้งเวลาไว้….

                          เขาไม่รู้ว่าเป็นระเบิดชนิดไหน ไม่มีคำเตือน ไม่มีเอกสารใดติดไว้ มีเพียงเสียงกลไกนับวินาทีอย่างเย็นชา

                         ลุกขึ้นช้าๆ ขยับเท้าไปสำรวจด้านหลังกล่องไฟ พยายามหาวงจรสำรอง เขาจำใจต้องแก้ปัญหาโดยไม่รู้แน่ชัดว่าถูกต้องหรือไม่

                        00:28:45

                                         มือทั้งสองเริ่มแยกสายไฟออกจากกัน สายแต่ละเส้นพันกันจนแยกไม่ออกว่าเชื่อมกับวงจรใด เขาหยิบไขควงกรีดฉนวนเบาๆ ลมหายใจขาดห้วงเป็นจังหวะ

                        00:25:32

                                        ในความเงียบหนาหนัก เสียงกลไกนับถอยหลังทำให้หัวใจเขากระแทกอกเป็นจังหวะ

                                       เมื่อปลอกฉนวนจนเห็นแกนทองแดง เขาหยิบมัลติมิเตอร์วัดแรงดันไฟ ตัวเลขบนหน้าจอแสดงไฟยังจ่ายเต็ม หากตัดผิดเส้นเดียวอาจจบชีวิต

                        00:21:18

                                       มือเขากดปลายคัตเตอร์ลงอย่างช้า สายไฟเส้นแรกถูกตัดในจังหวะเดียว

                        ไฟดิจิทัลยังคงนับถอยหลังต่อ

                                       เสียงฝีเท้าเคลื่อนมาถึงประตูด้านนอก เขาเหลือบมองผ่านช่องลูกกรงหวังเห็นลูกน้อง แต่เงาที่โผล่มาคือร่างสูงในชุดคลุมสีเข้ม

                         เสียงฝีเท้านั้นหยุดชั่วครู่ ก่อนมีเงาวูบเหมือนยกบางสิ่งขึ้น

            ใครตามมา….!

                                       “โป้ง”

                         กระสุนแรกทะลวงช่องลูกกรง กระแทกกล่องไฟจนฝุ่นกระจาย

                                        เขาทิ้งตัวลงกับพื้น แผ่นหลังแนบคอนกรีตขณะกระสุนอีกสองนัดเฉี่ยวผนัง เศษปูนร่วงกราวบนแขน

                                        โป้ง…โป้ง

                        00:18:06

                         เสียงฝีเท้าเคลื่อนอ้อมห้อง เสียงฝุ่นถูกรองเท้าเหยียบแกร่งในความเงียบ

                         เขากัดฟัน คืบตัวไปอีกมุมหลบเงา ในใจสวดคำขออย่าให้กระสุนเจาะเข้ามาลึกกว่านี้

                          เสียงฝีเท้าห่างออกไปแล้ว  ไฟบนจอดิจิทัลยังคงเคลื่อนลดลงอย่างระทึก

            ใครตามมาล่าเขา….ลูกน้องเขาอยู่ไหน

                        00:15:01

                         เขาผละกลับไปที่กล่องไฟ ก้มลงใช้คัตเตอร์งัดสายไฟอีกเส้น ลมหายใจสั้นขาดเกินจะควบคุม

           โป้ง..โป้ง…..

                       “.…ลูกพี่”

                        เสียงปืนลั่นอีกสองนัดจากด้านนอก เขาสะดุ้งจนเกือบตัดสายไฟพลาดคัตเตอร์ตกลงบนพื้น  เสียงลูกน้องของเขาคงถูกยิงตายไปแล้ว

00:11:23

                      ก้มหยิบขึ้นมาถือไว้  แล้วประคองมือที่สั่นจนชา  ตัดสายไฟเส้นต่อไป ความเงียบกลับมาอีกครั้ง

00:08:45

                                      เสียงฝีเท้าใหม่ดังขึ้นตรงประตู เงาร่างเคลื่อนในแสงไฟอ่อนเหมือนครั้งก่อน

                    คนร้ายคงไม่ลดราวาศอก  ตามมาอีก หัวใจเต้นแรงจนแน่น-อก

                    พยายามฝืนมือจับมัลติมิเตอร์ มืออีกข้างประคองคัตเตอร์จนเกือบจะสี่นเทา

             เหงื่อท่วมใบหน้าและแขน  สองมือเปียกชุ่ม  

                   เสียงโลหะฝืดลากพื้น บานประตูค่อยๆ ถูกงัดจากด้านนอก ใจอึกทึกเหมือนย่ำกลอง

00:03:09

                 หรือมือปืนกำลังตามมาล่าชีวิตเขาที่รู้เห็นการทุจริต

                  เสียงกระแทกประตูเหล็กจนโยกไหว และดูเหมือนจะพังทลายในไม่ช้า

00:02:00

                 มือสั่นระริกจับเครื่องมือ….

                 โป้ง……

00:01:15

                 เงยหน้าจากนอนแผ่ราบ  ลุกขึ้นไปที่เสา

        ประตูโยกสั่นคลอนและกำลังจะพังราบมาแล้ว

00:00:04

                 เขาขบฟัน หลับตา ตัดสายไฟเส้นสุดท้ายจนเสียงขาดดังแกร็ก  

        ไฟกระพริบเป็นจังหวะ พร้อมเสียงแหลม

00:00:00

       ไฟดับสนิท…..!!

            ทันใดนั้น….

                    เสียงระเบิดดังกึกก้อง…. ตูมมมม!!!

แรงสั่นสะเทือนสะท้านจนร่างของเขากระเด็นชนผนังแข็งอย่างแรง

                    ฝุ่นควันตลบหนา หูอื้อจนแทบไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง

เขานอนแผ่หงาย ชั่วขณะนั้นสับสนท่วมท้น

                    เงาหนึ่งโผล่เข้ามาทางประตูที่ถูกงัดเปิดออก   

ลูกน้อง …ถือกระเป๋าเครื่องมือที่มีกลิ่นดินปืนคละคลุ้งเข้ามา

                   เขาลุกขึ้นอย่างลำบาก  ถอนหายใจโล่งอก

อ้าปากกว้างตะโกนด้วยความดีใจ  กระโดดขึ้นชูมือ

                 เขาทำสำเร็จจนทุกคนรอดชีวิต….!

                 เดินกระย่องกระแย่งตามลูกน้องออกไปอย่างทุลักทุเลด้วยความกระหยิ่ม

หยุดหน้าอาคารที่ควันยังคละคลุ้งฝุ่นตลบ  ทำหน้าฉงน….

                “ระเบิดจริงอยู่ตรงนี้  ผมหยุดมันเองครับ 

ส่วนตรงลูกพี่… ไม่ใช่ !“

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

เรื่องสั้น “ภรรยาผู้ภักดี”

มีชายคนหนึ่งทำงานมาตลอดชีวิต...  อดออมเงินทุกบาททุกสตางค์  และเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวมากเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง  ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต....  เขาบอกกับภรรยาว่า “ที่รัก… ตอนฉันตาย ฉันอยากให้เธอเอาเงินทั้งหมดของฉัน ใส่ลงไปในโลงศพด้วย ฉันอยากเอาเงินของฉันไปใช้ในปรโลก” และเขาก็ทำให้ภรรยาสัญญากับเขา ด้วยหัวใจทั้งหมดของเธอว่า  เมื่อเขาตาย เธอจะเอาเงินทั้งหมดใส่ลงไปในโลงกับเขาจริงๆ ในที่สุดเขาก็เสียชีวิต...  เขานอนอยู่ในโลงอย่างสงบ ภรรยาของเขานั่งอยู่ข้างๆ ในชุดดำสนิท  ข้างๆ กันมีเพื่อนสาวของเธอนั่งอยู่ด้วย เมื่อพิธีศพดำเนินมาจนใกล้เสร็จ....  และก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดฝาโลง  ภรรยาพูดขึ้นว่า...  “เดี๋ยวก่อนค่ะ!”  แล้วเธอก็เดินถือกล่องโลหะใบเล็กๆ ไปวางลงในโลง  ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดฝาโลงและนำโลงศพไป เพื่อนของเธอหันมาพูดด้วยความตกใจว่า... “เธอจะไม่บอกฉันนะ  ว่าเธอโง่พอจะใส่เงินทั้งหมดไปในโลงกับเขาจริงๆ น่ะ?” ภรรยาผู้จงรักภักดีตอบว่า... “ฟังนะ...  ฉันให้สัญญากับเขาไว้แล้ว ฉันจะผิดคำพูดไม่ได้  ฉันสัญญากับเขาว่าจะเอาเงินทั้งหมดใส่ลงไปในโลงด้วยจริงๆ” “หมายความว่าเธอเอาเงินทั้งหมดใส่ไปให้เขาจริงๆ น่ะเหรอ?” ภรรยาตอบกลับอย่างเรียบเฉยว่า... “ใช่สิ...  ฉันรวบรวมเงินทั้งหมด โอนเข้าบัญชีของฉัน...

เพื่อนบ้านเลว ?

ในสมัยโบราณของจีน ชาวนาคนหนึ่ง มีเพื่อนบ้านเป็นนายพราน และเลี้ยงสุนัขล่าสัตว์ที่ดุร้าย และ ถูกฝึกมาอย่างดี สุนัขเหล่านี้มักจะกระโดดข้ามรั้ว และไล่ตามฝูงแกะของชาวนา ชาวนาขอร้องให้เพื่อนบ้าน ควบคุมสุนัขของเขา แต่เรื่องนี้ถูกเพิกเฉย

 เรื่องราวสวยงามที่อยากแบ่งปัน…

เรื่องสั้น..ขอให้เรื่องนี้ได้ส่งต่อถึงหัวใจของใครอีกหลายคน ฉันชื่อ เวโรนิก้า อายุ 80 ปี อยู่คนเดียวในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ชั้นบนของร้านขายอุปกรณ์ช่างในไบรตัน ฉันไม่มีอะไรมาก แต่ก็อยู่ได้ มีเงินบำนาญนิดหน่อย เงินเก็บเล็ก ๆ กับสวนกระถางบนระเบียง สะระแหน่ ไธม์ และต้นมะเขือเทศจอมดื้อหนึ่งต้น