ตลาดบ้านใหม่ในอเมริกากำลังชะลอตัวลง โดยมียอดขายที่ลดลง สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น และราคาที่ลดลง ซึ่งสะท้อนถึงภาวะชะลอตัวในปัจจุบัน
บ้าน-ตลาดที่อยู่อาศัยในอเมริกากำลังอยู่ในภาวะชะงักงันอย่างหนัก แม้ราคาลดลงก็ไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวใจผู้ซื้อ
ตลาดบ้านใหม่ในอเมริกากำลังชะลอตัวลง โดยมียอดขายที่ลดลง สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น และราคาที่ลดลง ซึ่งสะท้อนถึงภาวะชะลอตัวในปัจจุบัน
รายงานยอดขายบ้านใหม่ (มิถุนายน 2568) ล่าสุดของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ( the U.S. Census Bureau ) แสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัวของยอดขายบ้านเดี่ยวใหม่ ขณะที่สินค้าคงเหลือและอุปทานเพิ่มขึ้นและราคาก็ลดลง
ขณะที่ผู้ซื้อลังเลกับราคาบ้านที่สูงและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ยังคงพุ่งสูงขึ้นเกือบ 7% รายงานล่าสุดของ Oxford Economics คาดการณ์ว่าจะมีผลกระทบมากขึ้นในอนาคต ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและความมั่นคงในการทำงาน หมายความว่าผู้ซื้อบ้านใหม่จำนวนมากเลือกที่จะปรับปรุงบ้านเพียงเล็กน้อยแทน
ยอดขายบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้นมักบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และแหล่งเงินทุนที่เข้าถึงได้ ในทางกลับกัน ยอดขายที่ลดลงชี้ถึงความสนใจของผู้ซื้อที่ลดลง ปัญหาความสามารถในการซื้อ หรือความเครียดทางเศรษฐกิจ
ราคา: ราคาขายเฉลี่ยของบ้านใหม่ในเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 401,800 ดอลลาร์สหรัฐ/หลัง ลดลง 4.9% จากเดือนพฤษภาคม 2568 และลดลง 2.9% จากเดือนมิถุนายน 2567 ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 501,000 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากเดือนก่อนหน้า แต่สูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย ปัจจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันด้านราคาที่ลดลง อาจเป็นผลมาจากสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นและความต้องการที่ลดลง
ความหมาย:ยอดขายที่ลดลง สินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้น และราคาที่ลดลง ชี้ว่าตลาดมีความต้องการที่ลดลง(weaker demand ที่และอุปทาน( supply)ที่เพิ่มขึ้น