บทความดังกล่าวเป็นถ้อยคำความในใจของทหารกัมพูชานายหนึ่ง ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่บริเวณแนวหน้าชายแดนติดประเทศไทย ทหารนายนี้ได้เล่าถึงความสิ้นหวัง ความกลัว และความไม่สมดุลของสงครามที่กำลังเผชิญอยู่ โดยระบุว่า…
……..
เผยแพร่วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 | แหล่งที่มา: Vietnamnews24h (TikTok)
ความในใจของทหารกัมพูชาในสงครามที่ไม่สมดุล
> “ผมเป็นทหารกัมพูชา กำลังสู้รบบริเวณแนวหน้าชายแดนใกล้ไทย ทุกวันที่ผ่านไป สำหรับผมไม่ได้วัดกันด้วยเวลา แต่คือการนับวินาทีแห่งการมีชีวิตรอด
ทุกครั้งที่เรายิงตอบโต้ไทยด้วยปืนใหญ่และอาวุธหนัก ไม่นานหลังจากนั้น เครื่องบิน F-16 ของไทยก็คำรามบนท้องฟ้า ทิ้งระเบิดเป็นชุดๆ หลายครั้งเรายังไม่ทันรู้ตัวหรือมองเห็นทิศที่มา เครื่องบินก็โผล่มาแล้ว ระเบิดก็ตกลงมา เราไม่มีระบบต่อต้านอากาศยานที่ทันสมัย แม้แต่คลังเสบียงของเราก็อาจกลายเป็นจุดที่ถูกบดขยี้ในพริบตา
ผมเห็นเพื่อนร่วมรบเสียชีวิตเพียงเพราะหลบหนีไม่ทัน หลังโดน UAV ของไทยตรวจจับและทิ้งระเบิดอย่างแม่นยำเป็นเมตรๆ UAV พวกนั้นบินเหนือฟ้าเหมือนล่องลอยเล่น ส่วนพวกเราเหมือนเงามืดที่คอยหลบซ่อนอย่างสิ้นหวัง
แย่ไปกว่านั้น เราแทบไม่สามารถติดต่อกันได้เลย เหมือนว่าไทยใช้อุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์รบกวนสัญญาณ ทำให้การสื่อสารทุกอย่างขาดสะบั้น
ผมเคยมีหัวใจกล้าหาญต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อพรมแดน แต่วันนี้ ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงคำรามของ F-16 หรือเสียงหึ่งของ UAV ผมแค่หวังว่าจะมีชีวิตรอดไปอีกวัน
ผมไม่อยากสู้ต่ออีกแล้ว สงครามนี้ไม่เท่าเทียมและโหดร้ายเกินไป เราแพ้ไทยทุกด้าน – ทั้งเทคโนโลยี อาวุธ และการจัดระบบ
ผมหวังว่าจะมีคำสั่งหยุดยิง ไม่ใช่เพราะกลัวตาย แต่เพราะไม่อยากเห็นเพื่อนล้มลงในสงครามที่เราไม่มีทางชนะ หากมันยังดำเนินต่อไป ผมเกรงว่าจะไม่มีใครเหลือให้สู้แล้ว…”
—
ข้อความดังกล่าวได้รับการแชร์ต่อในโลกออนไลน์ พร้อมแฮชแท็ก #vietnamnews24h #campuchia #thailand #f16 โดยผู้คนจำนวนมากแสดงความเห็นใจต่อความรู้สึกของทหารแนวหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายและความแตกต่างทางกำลังรบระหว่างสองฝ่ายในสถานการณ์ปัจจุบัน