วันพุธ, สิงหาคม 13, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกบทความ-ความเห็น"วินทร์ เลียววาริณ"

“วินทร์ เลียววาริณ”

เผยแพร่

spot_img

หลายวันนี้ผมเขียนบทบาทด้านลบของการเมืองสหรัฐอเมริกาหลายตอน ขอบอกว่าผมไม่ได้เขียนเพราะเกลียดอเมริกัน ว่ากันตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ล้วนๆ และก็ไม่ได้สรุปว่าสหรัฐฯเลวทั้งประเทศ

แค่บอกว่านักการเมืองของเขาเลวใช้การได้เลย

ผมเคยไปเรียนและทำงานที่สหรัฐฯ เรียนรู้มากมายจากประเทศนี้ ยุคที่ผมไปอยู่ที่นั่น ยังไม่มีกระแส Asiaphobic ผลักชาวเอเชียตกรางรถไฟ อเมริกันที่ผมรู้จักก็เป็นคนที่ฉลาด นิสัยดี คบหาได้

สหรัฐฯมีนักคิด นักวิทยาศาสตร์ คนทำงานสร้างสรรค์นับไม่ถ้วน สร้างประโยชน์ให้ชาวโลกมหาศาล อเมริกามีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก มหาวิทยาลัย Top 10 เป็นของสหรัฐฯเสียกว่าครึ่ง อเมริกันคิดค้นอะไรใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา เพราะสังคมแบบ American Dream เอื้อให้คนคิดสร้างสรรค์เต็มที่ เพราะรู้ว่ามีสิทธิ์รวยได้

นี่คือจุดแข็งของอเมริกา

แต่จุดอ่อนคือนักการเมือง ในมุมมองที่ผมเห็น การเมืองสหรัฐฯดูเหมือนไปทิศทางเดียวมาตลอด สกปรกโสมมสม่ำเสมอ

ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะเมื่อเทียบกับประเทศจีนที่ล้าหลังกว่าหลายปีแสง จีนใช้เวลา 40 ปีสร้างประเทศจากศูนย์ ดึงคนพ้นความยากจนหลายร้อยล้านคน สร้างทางรถไฟ สร้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ เปลี่ยนทะเลทรายเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ฯลฯ แต่ 40 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง (bullet trains) สักสายเดียว ยาเสพติดระบาด ปืนเกลื่อนเมือง ฆ่าหมู่เป็นประจำ ความเหลื่อมล้ำในสหรัฐฯสูงมาก (อาจเพราะเหตุนี้หรือไม่ที่ประเทศนี้เต็มไปด้วยซูเปอร์ฮีโร?)
ในเมื่อสหรัฐฯเต็มไปด้วยคนเก่ง วิทยาการสูงส่ง ทำไมบ้านเมืองจึงเป็นอย่างที่เป็น?
ในคหสต. คำตอบก็น่าจะคือนักการเมือง เพราะแทนที่จะเอาสมองชั้นยอดไปพัฒนาประเทศ กลับไปพัฒนาอาวุธ ก่อสงครามทุกมุมโลก นักการเมืองกระเหี้ยนกระหืออยากทำสงคราม ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าทำไปทำไม เหมือนได้รับใบสั่งมา
สหรัฐฯมีฐานทัพนอกประเทศอย่างน้อย 128 แห่งทั่วโลก สหรัฐฯวีโต้คว่ำทุกมติของนานาชาติ (โดยเฉพาะมติที่ไม่เป็นผลดีต่ออิสราเอล) ส่งอาวุธไปร่วมโรงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ถอนตัวจากการแก้ปัญหาโลกร้อน ไม่แยแสกฎระเบียบนานาชาติ ไม่สนใจความชอบธรรม ความยุติธรรม มนุษยธรรม
นี่ไม่ได้พูดเพราะอารมณ์พาไป นี่ว่าตามหลักฐานที่ปรากฏ นี่ก็คือภาพที่ชาวโลกเห็น
เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นไม่ว่าที่มุมไหนในโลก โฆษกทำเนียบขาวก็มักจะโผล่หน้ามาเอ่ย “เราเป็นห่วงสถานการณ์ที่ประเทศยูจังเลย”
แต่กลับไม่ห่วงประเทศตัวเอง ไม่ได้ห่วงว่าทำไมชาวอเมริกันจ่ายภาษีไปเป็นค่าอาวุธไปให้ชาติอื่นเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
จะรู้ว่ามันเริ่มต้นมาได้อย่างไร ก็ต้องศึกษาประวัติศาสตร์
สงครามโลกครั้งที่สองน่าจะเป็นจุดเปิด Pandora’s box เมื่อประเทศในยุโรปพังพินาศ ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกล้มระเนระนาด แต่อเมริกาปลอดภัย ด้วยแสนยานุภาพทางทหาร ทันใดนั้นอเมริกาก็มองเห็นโอกาสที่จะเป็นเจ้าโลก
สหรัฐฯต่อสู้กับโซเวียตในช่วงสงครามเย็นยาวนาน สมัยผมเป็นเด็ก สำนักข่าวสารอเมริกันพิมพ์นิตยสารแจกคนไทย มีทั้งความรู้และโฆษณาชวนเชื่อผสมกัน โดยเฉพาะเรื่องภัยคอมมิวนิสต์ ตอนนั้นเด็กไทยกลัวคอมมิวนิสต์ คิดว่าเป็นผีชนิดหนึ่ง จับเด็กไปฆ่า
เด็กไทยก็โตมาแบบนี้ มีภาพว่าอเมริกาคือมหามิตร
จนเมื่อโซเวียตล้ม (เพราะตัวมันเอง ไม่ใช่เพราะสหรัฐฯ) สหรัฐฯก็กลายเป็น Unipolar power ใหญ่แต่เพียงผู้เดียวในโลกา แต่ไม่สบายใจเมื่อจีนมาหายใจรดต้นคอ ซึ่งเป็นภาคบังคับ เพราะเศรษฐกิจจีนจะใหญ่กว่าสหรัฐฯในไม่กี่ปีข้างหน้า
นี่ก็คือเหตุผลที่ผู้นำสหรัฐฯต้องตีประเทศจีนสามเวลาหลังอาหาร เสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการเพิ่มรอบเช้า 10.00 น.
และนี่ส่งผลย้อนกลับ (backfire) เช่น การสกัดจีนเรื่องชิปยิ่งทำให้จีนรีบพัฒนาชิปเร็วขึ้นกว่าเดิม
อเมริกาเป็นประเทศที่รวมทั้งคนดีและคนไม่ดี มีบริษัทยาที่ค้ากำไรเกินควร แต่ก็มีคนอย่าง โจนาส ซอล์ค (Jonas Salk) ที่คิดค้นวัคซีนโรคโปลิโอสำเร็จ แล้วมอบให้ชาวโลกโดยไม่รับสิทธิบัตร มีคนอย่าง จอร์จ โซรอส ที่คนไทยจดจำได้ดีจากเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง แต่ก็มีคนใจบุญอย่าง ชัค ฟีนีย์ (Chuck Feeney) ที่สร้างมหาวิทยาลัยไปทั่วโลก
ความสัมพันธ์ของชาวโลกกับสหรัฐฯจึงเป็น love-hate relationship เรายอมรับความเก่งของเขา แต่เราก็กลัวความบ้าของเขา ไม่มีชาติใดในโลกอยากรบกับอเมริกัน ไม่มีใครอยากสู้กับหมาบ้า
ลีกวนยูเคยบอกว่า “ถามว่าผมอยากเหมือนอเมริกาไหม ใช่ ในด้านความสามารถประดิษฐ์คิดค้น ในด้านความคิดสร้างสรรค์… แต่อเมริกาที่ไร้ความสามารถควบคุมปัญหายาเสพติด – ไม่อยาก! หรือปัญหาปืน ไม่อยาก!”
ในปี 1961 สิงคโปร์จับซีไอเอสามคนข้อหาล้วงความลับ อเมริกาเสนอให้เงินสินบนหนึ่งล้านแก่พรรค PAP ของลีกวนยูเพื่อให้ปล่อยตัวคนของตน ลีกวนยูบอกว่า “อเมริกาซื้อผู้นำเวียดนามและประเทศอื่น ๆ มากจนคิดว่าผู้นำทุกคนในโลกซื้อได้หมด”

ลีกวนยูบอกว่าปัญหาของพวกตะวันตกคือ “hubris” (กร่าง โอหัง) hubris นี่จะทำลายตัวเอง
คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่ไม่ต่างจากไทยหรือประเทศอื่นๆ จะพัฒนาการเมืองอเมริกาได้ ก็ต้องพัฒนาคนก่อน
ในคหสต. ปัญหาของคนอเมริกันคือความรู้รอบตัวต่ำมาก เมื่อได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน นักการเมืองพันธุ์กระหายเลือดก็ยังคงอยู่ได้ต่อไป และทำให้โลกป่วน สหรัฐฯสามารถยุติสงครามใหญ่ๆ ในวันนี้ได้ในอึดใจเดียว แต่เลือกไม่ทำ
โลกเรากว้างใหญ่พอที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ แต่ไม่ใหญ่พอสำหรับพวกที่มีอีโก้สูงกว่าภูเขาเอเวอเรสต์ และความโลภลึกกว่า Mariana Trench
ไม่ว่าจักรวรรดิอเมริกาจะยิ่งใหญ่แค่ไหน วันหนึ่งมันก็เสื่อมและล้ม (บางคนว่ามันอยู่ในช่วงสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว) นี่ไม่ได้แช่ง แต่มันเป็นสัจธรรมโลก ประวัติศาสตร์หลายพันปีนี้สอนเราว่า ทุกจักรวรรดิล่มสลายเสมอ จำนวนมากล่มเพราะตัวเอง จักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิอังกฤษ (“อาทิตย์ไม่เคยตกดิน”) ล้วนล่มสลายไปเรียบร้อยแล้ว
มันเป็นสัจธรรมเช่นนั้นเอง
วินทร์ เลียววาริณ
25-6-25
(ภาพจาก Apocalypse Now)
https://www.facebook.com/share/1EyVCwATHx/

ข่าวล่าสุด

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภา ความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิป สนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภาความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิปสนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

 รู้ไหมว่า… อีกา “เข้าหามด” เวลาป่วย?

รู้ไหมว่า... อีกา "เข้าหามด" เวลาป่วย? แม้จะฟังดูประหลาด แต่นี่คือสัญชาตญาณอันชาญฉลาดของนกอีกา!

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงและคำมั่นต่อเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชายังคงถูกกล่าวหาว่าละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการวางทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วงเป็นครั้งที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี พฤติกรรมเช่นนี้กำลังบั่นทอนความไว้วางใจ และอาจทำให้กัมพูชาเผชิญแรงกดดันรอบด้านจากประชาคมโลก

ข่าวอื่นๆ

สื่อต่างชาติมองการรบไทย-เขมร      

ไทยรบเขมรครั้งนี้สื่อต่างประเทศเช่น Jane Defense Weekly, Military Watch Magazine and The Diplomat ล้วนมีทัศนะและข้อคิด เกี่ยวกับสถานะ การสู้รบและประเมินกองทัพไทย ตลอดจนการวางแผน, ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีและอาวุธที่เราใช้อย่างน่าสนใจ

การก่อสร้างทางรถไฟสมัยรัชกาลที่ 5-รัชกาลที่ 7 แม้มีอุปสรรคแต่ได้ระยะทางรวมกว่า 3 พันกม.

การคมนาคมในสยามยุคก่อนนั้นเป็นสิ่งที่ยากลำบากอยู่พอสมควร ดังนั้นการพัฒนารูปแบบการเดินทางจึงมีความสำคัญไม่น้อย เมื่ออิทธิพลของตะวันตกแผ่ขยายมายังดินแดนในแถบเอเชียตะออกเฉียงใต้ สังคมสยามก็ก้าวเข้าสู่สมัยใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เทคโนโลยี ความรู้ความคิดของผู้คนเปลี่ยนไปก่อให้เกิดการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่ทำให้สังคมสยามเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง และ รถไฟ ก็เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัยในสมัยนั้นและได้กลายเป็นทางเลือกหนึ่งของการเดินทางแบบใหม่ คนไทยเห็นรถไฟครั้งแรกมาจากอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2389...

เหตุการณ์รุนแรงสงบ แต่ ‘ความเกลียดชัง’ รุนแรงไม่มีวันจบ

1) จากเหตุการณ์ความไม่สงบ #ชายแดนไทยกัมพูชา อย่างที่ผมได้วิเคราะห์ไปในบทความก่อนหน้า ตามหลักจิตวิทยาของการใช้ความรุนแรง เมื่อทุกอย่างจบลง สิ่งที่ทิ้งไว้หลังจากความขัดแย้ง จะทวีความรุนแรง และน่ากลัวกว่าเดิม แต่เป็นการใช้ "สงครามทางจิตวิทยา" ระหว่างคน 2 ประเทศ 2)...