วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเรื่องสั้นแดดยามบ่ายสาดส่องลงบนกำแพงเรือนจำชาย  แดนสีเทา

แดดยามบ่ายสาดส่องลงบนกำแพงเรือนจำชาย  แดนสีเทา

เผยแพร่

spot_img

ที่นั่น…ไม่ใช่สถานที่ ที่ใครอยากจะเข้าไป ไม่มีใครอยากจะพูดถึง   แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่และนักโทษ  ที่อยู่ในนั้นแล้วก็ตาม     

      แต่มีสุนัขตัวหนึ่ง… ที่เลือกจะอยู่ตรงนั้นโดยไม่คิดจะหนีไปไหน  นั่นก็คือ  เจ้าเพื่อน  หมาจรจัดขนสีน้ำตาลเข้ม ขนหยาบ หน้าตาเหมือนผ่านชีวิตที่ลำบากมาแล้วนักต่อนัก

      มันมักจะเดินวนอยู่รอบกำแพง เฝ้ามองผู้คุมที่เดินเข้าออก   บางวันมันก็วิ่งตามเสียงกุญแจโซ่กระทบกันราวกับว่า  นั่นคือสัญญาณเสียงของสมาชิกที่มันคุ้นเคย

      แรก ๆ ผู้คุมไม่ให้ความสนใจมัน  บางคนขับไล่มันไปด้วยซ้ำ  แต่เมื่อเวลาผ่านไป   พวกเขาก็เริ่มยอมรับไปโดยปริยายว่า  มันคือหนึ่งในสมาชิกที่อยู่ที่นั่น บางครั้งเขายังนำข้าวเหลือ ๆ จากโรงอาหารมาโยนให้มันกินทุกวัน

    “เจ้านี่…มันซื่อสัตย์กว่านักโทษบางคนอีกนะ”

      หนึ่งในผู้คุมพูดติดตลก ขณะเห็นมันนั่งเฝ้าประตูอยู่ที่เดิมทุกวัน

      คืนวันที่ฝนตกหนักคืนหนึ่ง   นักโทษหลายคนออกมาขุดลอกคูในเรือนจำที่น้ำขังเพราะน้ำกำลังจะท่วม   พวกเขาเจอเจ้าเพื่อนนอนซุกอยู่ใต้ชายคา

      นักโทษชายคนหนึ่งชื่อ “สันติ” ที่ไม่เคยยิ้มเลยตลอดเวลาที่ได้อยู่ที่นี่   แต่กลับเขากลับเผลอหัวเราะเบา ๆ   ตอนที่เจ้าเพื่อนวิ่งมาสะบัดน้ำใส่    แต่เขายิ้มได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น  รอยยิ้มของเขาก็หดหายไปเหมือนเดิม    กลายเป็นแววตาที่กังวลและสงสาร  เมื่อเขาเห็นเจ้าเพื่อนทรุดตัวลงนอนเหมือนเดิม  แต่มันมีอาการหนาวสั่นสะท้าน  ตัวร้อนจัด  เหมือนมันไม่สบาย  เขารีบเช็ดตัวให้มัน  หาที่อุ่นๆให้มันนอน  และดูแลมันจนมันมีอาการดีขึ้นทุกวันๆ

      จากนั้น สันติก็เริ่มแบ่งขนมปังในมื้อเย็นให้มันทุกครั้ง  และพูดคุยกับมันเหมือนคุยกับเพื่อน   จนเพื่อนนักโทษคนอื่นๆเริ่มแปลกใจ  ที่คนเย็นชาอย่างสันติ กลับมีรอยยิ้มเพราะหมาเพียงตัวเดียว  และบางทีมีการแซวแรงๆเกิดขึ้นว่า  “ไม่พูดกับคน แต่คุยกับหมารู้เรื่อง  มันต้องเป็นหมาเหมือนกันแน่ๆว่ะ” แล้วทุกคนก็พากันหัวเราะ  แต่สันติเมื่อได้ยินดังนั้น  เขาไม่ตลก  เขาลุกขึ้นจะไปมีเรื่องกับคนพูดเพราะขาดสติ  แต่เจ้าเพื่อนกระโดดเข้ามาอยู่ตรงกลางและเห่ากรรโชก  จนสันติตั้งสติได้  และเขาต้องขอบใจมัน  ถ้ามันไม่ห้ามและเตือนสติเขาเอาไว้  เขาจะต้องโดนลงโทษและยืดระยะเวลาแห่งการกลับคืนสู่อิสรภาพ

       เวลาผ่านไปหลายปี

       หมาจรที่ไม่มีใครเคยเหลียวแล กลับกลายเป็นเพื่อนของทั้งผู้คุมและนักโทษในเรือนจำ  โดยเฉพาะสันติ   และชื่อเล่นที่ทุกคนเรียกมันเสมอคือ “ไอ้เพื่อนไอ้ผู้คุม” เพื่อนผู้เป็นมิตรกับทุกคน    

       วันหนึ่งมีการพูดคุยกันถึงผู้ที่จะพ้นโทษในต้นเดือนหน้า  หนึ่งในนั้นมีสันติอยู่ด้วย  ในที่สุด  วันคืนแห่งอิสรภาพก็กลับคืนมาเสียที  มันเป็นความยินดีของสันติเป็นอย่างมาก  สันตินำขนมปังมาให้เจ้าเพื่อนตามปกติ  แต่วันนี้เจ้าเพื่อนได้แต่นอนหมอบ  ไม่กินขนมปังที่สันตินำมาให้  มันนอนเหม่อน้ำตาคลอ  สันติสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของมัน  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  คนอื่นๆอาจจะมองมันแค่เพียงหมาตัวหนึ่ง  ตลกขบขันมันบ้าง  แกล้งมันบ้าง  แต่น้อยคนนักที่จะใส่ใจมันจริงจังอย่างสันติ  มันจึงรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก   หรือมันจะได้ยินและเข้าใจเรื่องราวที่หลายๆคนพูดกันถึงเรื่องคนที่พ้นโทษในต้นเดือนนี้  

     และหลังจากวันนั้นเจ้าเพื่อนก็ได้แต่หงอยเหงา  กินน้อยลง  ไม่หยอกล้อกับสันติเหมือนครั้งก่อนๆ แต่มันก็มองสันติด้วยแววตาเศร้าเหมือนไม่อยากละจากสายตาคู่นั้น  เหมือนจะไม่ได้เห็นกันอีกแล้ว  มันเคยอยู่ได้ครั้งยังไม่เจอสันติ  แต่พอมันเจอเขาแล้ว  และคราวนี้เมื่อจะไม่มีเขา  มันกลับเศร้า  สันติกอดมันแน่นและบอกมันว่า  “ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ชะตากรรมในชีวิตนอกเรือนจำว่าจะเป็นเช่นไร  เอ็งอยู่ที่นี่น่ะดีแล้ว  อย่างน้อยก็มีข้าวให้กิน  มีที่ให้อยู่  มีเพื่อนๆ มีคนที่คุ้นเคยที่นอกจากข้า  ข้าเองก็ไม่รู้จะไประเหเร่ร่อนอยู่ที่ไหน” ระหว่างที่สันติพูดนั้น  มันนอนหมอบราบกับพื้นโดยไม่มองหน้าสันติเลย  แต่น้ำตาของมันไหลออกมา..

      และแล้ววันที่สันติพ้นโทษก็มาถึง เขาเดินออกมาที่ประตู   เขาเห็นเจ้าเพื่อนหมาแก่ตัวนั้นนอนรออยู่   เหมือนมันรู้ว่าวันนี้   สันติจะไปจากที่นี่แล้ว   มันลุกขึ้น เดินตามต้อย ๆ ไปจนสุดรั้ว  มันตั้งใจจะมาส่งสันติเป็นครั้งสุดท้าย

      สันติเดินออกมาโดยไม่ทัก  ไม่แม้แต่จะหันมามองมัน  เพราะเขาสงสารมันอย่างสุดหัวใจ  เขาไม่สามารถทนดูแววตาคู่นั้นได้   แต่ถ้าเขาจะหันกลับไปมอง  เขาจะเห็นหมาตัวหนึ่ง  ยืนมองเขาด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าเช่นกัน   

       แต่แล้ว…  เขาก็หยุดเดิน   แล้วหันหลังกลับมามองมันด้วยตาที่แดงก่ำ   ก่อนจะย่อตัวลงกอดมันแน่น  และเหมือนอ้อมกอดนั้น คืออ้อมกอดสุดท้ายของมัน  แต่..

     “ไปกับฉันไหม…  อยากออกไปลำบากด้วยกันไหม  ออกไปฉันก็ไม่ได้อยู่ดีมีสุขอะไรมากมายนักหรอก  แต่ฉันก็ไม่อยากทิ้งให้แกอยู่ที่นี่จนตายลำพัง”

     เจ้าเพื่อนเหมือนจะเข้าใจและดีใจ มันกระดิกหางช้า ๆ และก้าวออกจากกำแพงคอนกรีตอย่างไม่ลังเล  มันเดินไปพร้อมกับสันติชายผู้พ้นโทษ

      ตั้งแต่นั้นมา  เรือนจำดูเงียบลงไป  ตั้งแต่เจ้าเพื่อนไม่อยู่ที่นี่  แต่ทุกครั้งที่มีคนพูดถึง “ผู้คุมเพื่อน” พวกเขาจะยิ้มและนึกถึงภาพชายคนหนึ่งกับหมาจรตัวนั้นที่เดินเคียงข้างกันตลอดที่อยู่ที่นี่… ภาพจำท่ามกลางรั้วซึ่งไร้อิสรภาพ

หมาเป็นเพื่อน…บางทีก็ดีนะ

The end

แต่งและเรียบเรียงโดย Cr.Tangkwa เรื่องเล่าน้องหมาStoryDog #story #dog #กดติดตาม #share

ข่าวล่าสุด

ญี่ปุ่นสร้างประวัติศาสตร์! 

วงการแพทย์ทั่วโลกจับตามอง! ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น นำโดย ดร.เรียวทาโร ฮาชิซูเมะ ประสบความสำเร็จครั้งแรกในการ “ลบ” โครโมโซมคู่ที่ 21 ส่วนเกิน ซึ่งเป็นต้นเหตุของ ดาวน์ซินโดรม ด้วยเทคโนโลยี CRISPR-Cas9 สุดล้ำ

ตำรวจเกาหลีเร่งสอบ 64 ผู้ต้องสงสัยคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์กัมพูชา

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ (NPA) แถลงภายหลังการส่งตัวชาวเกาหลี 64 คนจากประเทศกัมพูชากลับถึงสนามบินนานาชาติอินชอน เทอร์มินัล 2 หลังถูกควบคุมตัวในคดีฉ้อโกงออนไลน์ข้ามชาติ

หนึ่งในประเทศที่มีสวัสดิการสำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) น้อยมาก

รัฐสภาฯสวีเดนมี สส.ทั้งหมด 349 มีวาระ สี่ปี มีเงินเดือนที่ SEK 73,00/เดือน (ประมาณ 235,000 บาท) หรือ ประมาณสองเท่าของเงินเดือนครูสวีเดน

เปิด 41 รายชื่อ ทีมใหม่มาร์ค นั่งกรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์ 

ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จัดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ จำนวน 41 คน โดยที่ประชุมมีมติ ดังนี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค

ข่าวอื่นๆ

ฟรันซ์ คาฟคา (Franz Kafka, ค.ศ. 1883–1924)

“เรื่องสั้น” เมื่อฟรันซ์ คาฟคา (Franz Kafka, ค.ศ. 1883–1924) อายุได้ 40 ปี เขายังไม่เคยแต่งงานและไม่มีบุตร วันหนึ่งเขาเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่กรุงเบอร์ลิน และบังเอิญพบกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่กำลังร้องไห้ เพราะเธอทำ “ตุ๊กตาตัวโปรด” หาย

“รองเท้า..คู่นี้ !”

เรื่องสั้น “รองเท้า..คู่นี้ !” ฝนเทกระหน่ำตลอดคืน น้ำไหลเป็นลำยาวตามร่องถนน พื้นลื่นเป็นมัน เสียงหยดน้ำกระทบหลังคาและพื้นถนนดังไม่สม่ำเสมอ ชายหนุ่มส่งของวัยยี่สิบ ผมยาวสะพายกล่องเดินลัดซอยแคบที่เต็มไปด้วยกลิ่นขยะเหม็นฉุนกลับห้องพักเหมือนทุกคืน ฝนซาเม็ดกลับมีหมอกหนา เพ่งมองข้างหน้า เหมือนร่างชายชรา…กำลังลอยเข้าไปในกลุ่มควัน สองมือไขว่าคว้าตาจ้องมาอย่างวิงวอน….

เรื่องเล่าจากมุมมืด

เรื่องสั้น ขอเล่าเรื่องของเพื่อนให้ฟังครับ เรื่องเล่าจากมุมมืด มันเป็นอีกวันหนึ่งวัน ที่ผมเศร้าใจ.... ใครมีลูกมีหลาน ควรอ่านเรื่องนี้ไว้เป็นอุทธาหรณ์.