1 กันยายน 2568 The Heritage Foundation องค์กรวิจัยด้านนโยบายสาธารณะชื่อดังของสหรัฐฯ เผยแพร่บทความเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยระบุว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายปลุกปั่นความขัดแย้งและเล็งโจมตีพื้นที่พลเรือนไทยด้วยจรวด BM-21 และแนะนำให้อเมริกาควรสนับสนุนไทย ซึ่งถือเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาและมีความร่วมมือทางทหารมายาวนาน
บทความของ วิลสัน บีเวอร์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคง ระบุว่า หลังเกิดเหตุยิงปืนใหญ่และจรวดที่ชายแดน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 รายและหลายแสนคนต้องอพยพ ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยมีบทบาทสำคัญของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการเจรจาเพื่อสันติภาพ
บทความระบุว่า กองทัพไทยแสดงประสิทธิภาพเหนือกว่ากัมพูชา ใช้เครื่องบิน F-16 ของสหรัฐฯ และ JAS 39 กริพเพนของสวีเดนโจมตีเป้าหมายทางทหาร รวมถึงเผยแพร่วิดีโอการใช้โดรนติดอาวุธเล่นงานคลังอาวุธและศูนย์บัญชาการของกัมพูชา
นอกจากนี้ The Heritage Foundation ยังชี้ว่ากัมพูชาใกล้ชิดกับจีนและเกาหลีเหนือ ปฏิเสธความร่วมมือกับสหรัฐฯ และเปิดทางให้จีนใช้ฐานทัพเรือในพนมเปญ ซึ่งเพิ่มความกังวลต่อการสอดแนมและอิทธิพลทางทหารในภูมิภาค
ในทางกลับกัน ไทยถือเป็นพันธมิตรที่สหรัฐฯ ไว้วางใจมายาวนาน ทั้งการเป็นพันธมิตรหลักนอกนาโต การใช้ยุทโธปกรณ์สหรัฐฯ และการร่วมซ้อมรบคอบร้าโกลด์กับกองทัพสหรัฐฯ โดยบทความแนะนำว่า ในขณะที่สหรัฐฯ ต้องการเสริมอิทธิพลในอินโด-แปซิฟิก การสนับสนุนไทยถือเป็นการให้ความสำคัญต่อพันธมิตรดั้งเดิมและสิทธิในการป้องกันตนเอง
บทความปิดท้ายว่า แม้ชาวกัมพูชาจะขอบคุณทรัมป์ที่ช่วยยุติความขัดแย้ง แต่ไทยยังคงเป็นพันธมิตรที่ยืนหยัดเคียงข้างอเมริกาตลอดหลายทศวรรษ