วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกท่องโลก - ท่อง TWIST "กลาง..ลานเลือด"

 “กลาง..ลานเลือด”

เผยแพร่

spot_img

      “บางที่บางแห่งในโลก…!ซ่อนความจริงที่คุณไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่..”

เคยยืนจังก้า…ในสนามประจันหน้ากับวัวกระทิงที่พุ่งเข้าหาเร็วราวกับนักสู้วัวมืออาชีพไหม?

               หัวใจเต้นแรง ทุกก้าวถอยหลังคือชีวิต ทุกฝีเท้าที่วัวตะกุยฝุ่น…มันคือเสียงเรียกความกล้า !

               ลมพัดฝุ่นเข้าตา กลิ่นเลือดและเหงื่อผสมกันจนแทบลืมหายใจ

                นี่คือวันที่คุณจะรู้สึกว่า “การอยู่รอด” ไม่ใช่แค่โชค…แต่เป็นศิลปะแห่งความเร็วและสติ

         และเมื่อฝุ่นจาง วัวกลับไป…คุณยังยืนอยู่ได้

แต่หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด

เพราะบางครั้ง…ความกล้าหาญที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การต่อสู้กับวัว

แต่คือการเผชิญหน้ากับตัวเอง…ในวันที่คุณคิดว่าคุณอาจจะพลาด

คุณเคยยืนอยู่ท่ามกลางฝูงคนหลายพัน…

และรู้สึกว่า ทุกสายตากำลังจับจ้องคุณเอง หรือไม่

               คุณไปสเปนมาหลายครั้งแล้วใข่ไหม…

เที่ยวที่อื่นน่ะซี..

               แล้ว “ที่นี่” ล่ะ…

             เคยไปมาแล้วใช่ไหม

               แมดริด หรือ บาเซโลน่า บินจากสุวรรณภูมิไม่ได้

เราต้องไปเปลี่ยนเครื่อง แล้วแต่ความคุ้นเคยหรือจำเป็น

       ผมใช้ Transit ที่ปารีส ต่อเครื่องไปมาดริด  รวมเวลาเดินทาง 12–14 ชั่วโมง

       ออกจากสนามบิน Barajas นั่ง Metro สาย 5  ไป Ventas Station  เดินไม่กี่นาทีก็ถึงสนาม

       ตรงนี้เขาเรียกกันว่าย่านซาลามังกา มักจัดการต่อสู้วัวในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง 

                     อ้อ…รองท้องกันก่อนดีไหม…ดีซี่..

              ถ้าคุณกินง่าย ๆ นี่เลยครับ อาหารท้องถิ่น ๆ แซนด์วิชปลาหมึก Bocadillo de calamares  สัก 5-7  ยูโร

                 หลายปีแล้วผมยืนอยู่บนอัฒจันทร์ใน Las Ventas กรุงมาดริด สนามสู้วัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก

                 เห็นฝุ่นลอย กลิ่นเลือดและดินผสมกัน

เสียงฝีเท้าวิ่ง ผ้าคลุมหมุนวน

และหัวใจของนักสู้…รวมถึงวัว…เต้นราวกับจะทะลุหน้าอก

                  ผมยังไม่รู้ว่า วันนั้นผมจะได้เห็นอะไร…

และจะไม่ลืมมันไปตลอดชีวิต

                  และเมื่อฝุ่นจาง วัวกลับไป…คุณยังยืนอยู่ได้

แต่หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด

                  เพราะบางครั้ง…ความกล้าหาญที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การต่อสู้กับวัว

                  แต่คือการเผชิญหน้ากับตัวเอง…ในวันที่คุณคิดว่าคุณอาจจะพลาด

คุณเคยยืนอยู่ท่ามกลางฝูงคนหลายพัน…

และรู้สึกว่า ทุกสายตากำลังจับจ้องคุณเอง หรือไม่

                  Las Ventas   เหมือน “มหาวิหารเลือด” ของสเปน

กำแพงอิฐสีส้มอมแดงสูงใหญ่   ลานทรายกลม ๆ สีทองจาง

พื้นดินแห้งแข็ง แต่ฝุ่นบาง ๆ ลอยเหนือพื้นเสมอ

                   สนามนี้สามารถจุผู้ชมได้กว่า 23,000 คน

                  ที่นี่.. คือสัญลักษณ์ของศิลปะการสู้วัวในสเปน ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมาดริด สร้างขึ้นในปี 1929 ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์มูเดคา(Mudejar) ผสมผสานระหว่างอาหรับและสเปน

                   ผู้ชมรอบสนาม ใส่ชุดสารพัน  บางคนถือพัด บางคนถือเบียร์    ส่วนใหญ่ถือ ความคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรสักอย่าง

                  นักท่องเที่ยวมากมายหลายกลุ่มมากับไกด์

มีป้ายเล็ก ๆ แนะนำสถิติการสู้วัว  นักสู้ 3 คนต่อวัว 6 ตัว

บางครั้งนักสู้ล้มหรือโดนชนบาดเจ็บ แต่การเสียชีวิตน้อยมาก

                 กลิ่นผสมระหว่างดิน แป้งฝุ่น เลือด และเหงื่อผู้ชม

เสียงฝีเท้าวิ่งของวัวและนักสู้

                 เป็นการแสดงที่ทั้งน่ากลัวและน่าหลงใหล

                   สเปนมีสนามสู้วัว ที่เรียดว่า Plaza de Toros มากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอันดาลูเซียและมาดริด ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมการสู้วัวที่มีประวัติยาวนาน  จำนวนมากเลิกไปเพราะถผุกต่อต้าน

                  คราวหนึ่งแวะบาเซโลน่า พออกจากสนามฟุตบอลใหญ่จะเข้าไปดูสนามสู้วัวเขาเลิกไปแล้ว

          ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อปี 2008 วัวถูกนักสู้ฆ่าตายในสนามถึง

18,000 ตัว เดี๋ยวนี้เหลือสัก 7,000 ตัว

                 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การสู้วัวในสเปนเริ่มลดลง เนื่องจากการต่อต้านจากกลุ่มสิทธิสัตว์และการเปลี่ยนแปลงในทัศนคติของสังคม 

                คนในสนาม มีทั้งดูเพื่อศิลปของการต่อสู้  เพื่อการพนัน

เพื่อสังคมผสมวัฒนธรรมอีนยาวนาน  เพื่อพบปะสังสรรค์

               อย่างผมใช่ไหม….   !

      “บางที่บางแห่งในโลก…!

              ซ่อนความจริงที่คุณไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่..”

         ก็คราวนั้น  ผมยังไม่ลืม

         เสียงดังรอบสนาม…เสียงโห่กึกก้องจนแพนสายตาไม่ทัน

                   วัวตัวแรกออกมา

ฝุ่นลอย กลิ่นเลือด,ดิน,ขี้วัว,น้ำหอมปะปน

                    นักสู้หมุนผ้าคลุมอย่างแม่นยำ

วัววิ่งเร็ว พยายามแทงนักสู้

         ผมเห็นนักสู้ล้มครั้งหนึ่ง…

                    เขายืนขึ้น ใช้ผ้าและเท้าแก้ไขความสมดุล

วัวพุ่งชนอีกครั้ง

                     เขาเกือบล้มแต่หลบทัน

        และแล้ว…มันตื่นเต้นมาก  เด็กชายวัยรุ่นวิ่งลงไปในลาน

เจ้าหน้าที่พยายามจับไว้…

                     เด็กพลาดท่า…ล้ม

                    ทันใดนั้น ผู้ชายคนหนึ่งพลอยโจนลงไปช่วย

พลาดท่าเหมือนกัน  ตกลงสู่ทรายกลางลานวัว

                    ผู้ชมบางส่วนกรีดร้อง

บางส่วนเงียบ…ใจเต้นแรงเหมือนกับตัวอยู่ในลาน

                    ชายพลอยโจนใช้ ผ้าคลุมหมุนหลบวัว

หมุนตัว หลบหลีกฝีเท้าวัว  ฝ่าฝุ่น กลิ่น และแรงกดดัน

จนสามารถรอดออกมาได้

                    ผู้ชมลุ้นจนตัวเกร็ง

                    และแล้ว…ชายคนนั้นกลายเป็น “นักสู้วัวโดยไม่ได้ตั้งใจ”

                    ทุกสายตาหันมามอง

เสียงเชียร์ ผสมกับความตื่นกลัว

                    นี่คือตัวละครที่ปรากฏเพียงครั้งเดียว แต่ตรึงใจทุกคน

             ผมยังยืนอยู่บนอัฒจันทร์

             หัวใจเต้นแรง

                          ฝุ่น กลิ่น เลือด และเสียงเชียร์ผสมกัน

             แล้วผมก็เข้าใจ…

                           บางครั้ง ความตื่นเต้นที่สุดในชีวิต ไม่ได้เกิดจากตัวเรา แต่เกิดจากสิ่งที่เราได้เห็น…

                          คุณไม่จำเป็นต้องลงไป…

แค่ยืนอยู่ข้างบน ก็รู้สึกเหมือนกำลังสู้กับวัวจริง ๆ

                        คุณล่ะ…คิดอะไรอยู่ !

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

“Kai Tak Reborn สนามบินสู่โลกบันเทิง“

“ท่องโลก ท่อง Twist” “Kai Tak Reborn สนามบินสู่โลกบันเทิง“ ผมนั่งแนบหน้าต่างฝั่งซ้ายของเครื่อง ด้านนอกคือแนวตึกสูงเรียงชิดเหมือนกำแพงเมือง เอียงซ้ายทำมุม 45 องศา… จิกลงรันเวย์ที่ยื่นไปในอ่าวเกาลูน ปีกเครื่องเฉียดผ่านเสาไฟ มันใกล้พอจะเห็นชายชราตากผ้าอยู่บนระเบียง เงยหน้ามามอง เหมือนรู้ว่าเรากำลังตกอยู่ในชะตาเดียวกัน

 “ร่ายรำ 2 โลก”Kerala สู่ Chennai“ INDIA

เสียงกลอง Kathakali ดังขึ้นกลางแสงตะเกียง… ความหมายของเขา……. ที่เกรละ ความศรัทธาแสดงออกผ่าน “การร่ายรำ” ส่วนที่เจนไน ความเชื่อสะท้อนผ่าน “เสียงดนตรี”

Do-Re-Mi-   The Sound of Music

บางที่บางแห่งในโลก…ซ่อนความจริงที่คุณไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ Do, Re, Mi, Fa, So, La, Ti, Do โน้ตแรกจากเสียงเพลงที่ทุกคนจำได้ของ The Sound of Music คุณเห็น “มาเรีย” จูลี่ แอนดรูว์ส หมุนตัวกลางเนินหญ้า Mehlweg สีเขียวสด ไหม !