วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเศรษฐกิจ การเงิน“ลัมโบร์กินี” ลดราคากว่า 15% ปี 2569  ต้อนรับภาษีใหม่จาก 24.95 ล้านบาทลดเหลือ 21.5

“ลัมโบร์กินี” ลดราคากว่า 15% ปี 2569  ต้อนรับภาษีใหม่จาก 24.95 ล้านบาทลดเหลือ 21.5

เผยแพร่

spot_img

บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ Lamborghini อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ประกาศปรับราคาจำหน่ายรถลัมโบร์กินีทุกรุ่นในไทยลดลงเฉลี่ย 15% ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป หลังจากภาครัฐจะเริ่มบังคับใช้โครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ซึ่งเอื้อต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 3,000 ซีซี

อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริษัทฯ เปิดเผยว่า โครงสร้างภาษีใหม่ที่จะมีผลปีหน้า (2569) จะแยกประเภทภาษีตามระบบขับเคลื่อนของรถยนต์ในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ โดยรถยนต์แบบ ICE (เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน) จะถูกปรับขึ้นภาษีจาก 40% เป็น 50% ขณะที่รถแบบ PHEV จะลดภาระภาษีลงเหลือ 30% ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีผลโดยตรงต่อราคาขาย

“ปัจจุบันลัมโบร์กินีที่เราจำหน่ายในไทยเป็นรถ PHEV ทั้งหมด และติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร ซึ่งเข้าข่ายได้สิทธิภาษีลดลงตามโครงสร้างใหม่นี้โดยตรง ทำให้ต้นทุนลดลง ส่งผลให้ราคาขายสามารถปรับลดได้เฉลี่ยถึง 15%”

ราคาปรับลด 3–4 ล้านบาทต่อคัน ตัวอย่างเช่น

•Lamborghini Urus SE เดิมราคาเริ่มต้น 24.95 ล้านบาท ภายใต้โครงสร้างภาษีใหม่จะลดลงเหลือเพียง 21.5 ล้านบาท

•Lamborghini Temerario รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเดือนมิถุนายน เปิดราคามาแล้วภายใต้โครงสร้างภาษีใหม่ที่ 23.76 ล้านบาท

ส่วนรถรุ่นที่กำหนดส่งมอบในปี 2568 อย่าง Revuelto และ Urus SE บริษัทเปิดโอกาสให้ลูกค้าชะลอการรับรถออกไปจนถึงปี 2569 เพื่อให้สามารถรับรถในราคาที่ถูกลงตามโครงสร้างภาษีใหม่ โดยรถจะถูกจัดเก็บไว้ในโซนปลอดภาษี (Free Zone) จนกว่าจะถึงกำหนดส่งมอบ ทั้งนี้ลูกค้าบางรายที่ต้องการรับรถทันที ก็ยังสามารถเลือกรับในราคาปัจจุบันได้เช่นกัน

ในปี 2569 บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 50 คัน โดยจะมีรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ TEMERARIO ที่จะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการดันยอดขาย ด้วยจุดขายด้านสมรรถนะและเทคโนโลยีล่าสุดของลัมโบร์กินี

TEMERARIO ใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังรวม 920 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 343 กม./ชม. และยังสามารถเร่งรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุด 10,000 รอบ/นาที ซึ่งสูงที่สุดสำหรับรถซูเปอร์สปอร์ตที่ผลิตขายจริงในโลก

TEMERARIO ถือเป็นรุ่นที่ 2 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ HPEV (High Performance Electrified Vehicle) ต่อจาก Revuelto ที่ใช้เครื่องยนต์ V12 ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว และเกียร์ DCT 8 สปีด เช่นเดียวกัน

ที่มา https://mgronline.com/motoring/detail/9680000075119

ข่าวล่าสุด

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภา ความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิป สนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภาความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิปสนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

 รู้ไหมว่า… อีกา “เข้าหามด” เวลาป่วย?

รู้ไหมว่า... อีกา "เข้าหามด" เวลาป่วย? แม้จะฟังดูประหลาด แต่นี่คือสัญชาตญาณอันชาญฉลาดของนกอีกา!

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงและคำมั่นต่อเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชายังคงถูกกล่าวหาว่าละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการวางทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วงเป็นครั้งที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี พฤติกรรมเช่นนี้กำลังบั่นทอนความไว้วางใจ และอาจทำให้กัมพูชาเผชิญแรงกดดันรอบด้านจากประชาคมโลก

ข่าวอื่นๆ

ปลดล็อกเพาะพันธุ์ตัวเงินตัวทอง สร้างโอกาสผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ไทยยั่งยืน

คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าเพิ่มรายการ ตัวเงินตัวทอง ให้ผู้ได้รับอนุญาตสามารถเพาะพันธุ์ได้ โดยต้องซื้อพ่อแม่พันธุ์จากกรมอุทยานฯ ในราคาตัวละ 500 บาท เพื่อเปิดช่องทางให้สามารถสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ได้ในอนาคต

เปิดรับสมัครแล้ว กิจกรรมดีๆสำหรับคนรักการถ่ายภาพ ลงไปสนุกสนานแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันที่จังหวัดตรัง 

เปิดรับสมัครแล้ว กิจกรรมดีๆสำหรับคนรักการถ่ายภาพ ลงไปสนุกสนานแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันที่จังหวัดตรัง

“สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ระบุว่า เริ่มแล้ว! โครงการ “30 บาทรักษาทุกที่”จ้างงานผู้ช่วยดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงทั่วประเทศ 1 ปีกว่า 1 แสนคน

เริ่มแล้ว! โครงการ “30 บาทรักษาทุกที่” จ้างงานผู้ช่วยดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงทั่วประเทศ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน