ISRA:เอ็กซ์คลูซีฟ! ป.ป.ช. ลงมติตั้งองค์คณะไต่สวน เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี – ครม. รวมชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล สมัยนั่งรองนายกฯ มท.1 พิจารณาอนุมัติโยกงบ’ใช้หนี้’3.5 หมื่นล.โปะ’ดิจิทัลวอลเล็ต’ ไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 แต่เป็นความผิด ป.อ. มาตรา 157 นำเงินกู้ไปใช้ผิดประเภท – แพทองธาร กมธ. , สส. , สว. รอด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้งองค์คณะไต่สวน กรณีกล่าวหา นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวก ร่วมกันแปรญัตติในทางลดหรือตัดทอนงบประมาณรายจ่ายของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFLs) จำนวน 5 แห่ง วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และรายจ่ายตามข้อผูกพันที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย แล้วนำไปเพิ่มเป็นงบประมาณรายจ่ายตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 รายจ่ายงบกลาง (5) ค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ (Digital Wallet)
โดยผู้ถูกกล่าวหาในจะถูกไต่สวนคดีนี้ ประกอบไปด้วย
1.นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี
2. คณะรัฐมนตรีในรัฐบาล นายเศรษฐา ที่เข้าร่วมประชุมและมีมติเห็นชอบกับการเสนอขอปรับลดหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ซึ่งมีชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยกเว้นรัฐมนตรี 3 ราย ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
3. นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (ตำแหน่งในขณะนั้น) นายกรณินทร์ กาญจโนมัย รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ในฐาะที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสนอขอปรับลดหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ 1.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 2.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 3.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย 4.ธนาคารออมสิน และ 5.ธนาคารอาคารสงเคราะห์
https://isranews.org/article/isranews/142732-invesnews-241.html
https://isranews.org/article/isranews/142742-invesnewsas-3.html



