วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกข่าวรอบโลกหลังจากภารกิจรบกริพเพนของไทย เกิดคำถามเกี่ยวกับการขายในอนาคตของสวีเดน

หลังจากภารกิจรบกริพเพนของไทย เกิดคำถามเกี่ยวกับการขายในอนาคตของสวีเดน

เผยแพร่

spot_img

กริพเพนของกองทัพสวีเดนสามลำได้เข้าร่วมภารกิจหน่วยปฏิบัติการทิ้งระเบิดพิสัยไกลเหนือน่านฟ้าสวีเดน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 การปฏิบัติการและการปฏิบัติการร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราแสดงให้เห็นถึงและเสริมสร้างความมุ่งมั่นร่วมกันของเราต่อความมั่นคงและเสถียรภาพระดับโลก (ภาพจากกองทัพสวีเดน)

สตอกโฮล์ม – กองทัพอากาศไทย (RTAF) ยืนยันว่าเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen ถูกใช้โจมตีกัมพูชาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการยิงอาวุธครั้งแรกเป็นที่รู้จักจากเครื่องบินรบสวีเดน

การโจมตีทางอากาศของไทย ขณะนี้ถูกระงับไว้ชั่วคราว หลังจากประกาศหยุดยิงเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ลำบากสำหรับสวีเดนและ Saab เพราะไทยกำลังเจรจาเพื่อขอซื้อเครื่องบิน Gripen รุ่นใหม่เพื่อเพิ่มจำนวนเครื่องบิน Gripen แบบ C/D จำนวน 11 ลำ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนให้สัมภาษณ์กับ Breaking Defense เมื่อวันจันทร์ที่ 28กรกฎาคมว่า สวีเดนยังไม่อาจให้คำมั่นว่าจะอนุมัติการซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ของไทยได้หรือไม่

ทั้งนี้ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาปะทุขึ้นในวันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม นำไปสู่การยิงตอบโต้กันระหว่างทั้งสองฝ่าย การโจมตีดังกล่าว ไทยอ้างว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายทางทหาร “ที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” และดำเนินการอย่างสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิในการป้องกันตนเองของประเทศตามกฎบัตรสหประชาชาติ พลอากาศโทประภาส ศรใจดี โฆษกของกองทัพอากาศไทย ระบุบนเฟซบุ๊ก  

 ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ เครื่องบินกริพเพนได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างแม่นยำร่วมกับเครื่องบินเอฟ-16 โดยใช้ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12 โจมตีปืนใหญ่และเป้าหมายภาคพื้นดินของกัมพูชาใกล้ชายแดน

เท่าที่ทราบ Saab JAS 39 Gripen ถูกนำไปใช้รบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การบินทดสอบของรุ่นแรกเมื่อ 37 ปีก่อนในปี พ.ศ. 2531 ก่อนหน้านี้ถูกใช้เฉพาะในการลาดตระเวนและภารกิจที่คล้ายคลึงกัน เช่น ปฏิบัติการของนาโต้ของสวีเดนในลิเบียในปี พ.ศ. 2554 และภารกิจตรวจการณ์ทางอากาศของนาโต้

คำถามในขณะนี้คือ การใช้เครื่องบินเจ็ทของไทยอาจส่งผลกระทบต่อการขายครั้งต่อไปของ Saab หรือไม่

เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 ประเทศไทยได้ประกาศแผนการจัดซื้อกริพเพนแบบ E/F จำนวน 12 ลำ โดยคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อในเร็วๆ นี้ รัฐสภาสวีเดน (Riksdagen) ได้มอบอำนาจให้รัฐบาลทำข้อตกลงกับประเทศไทยเกี่ยวกับเครื่องบินกริพเพนใหม่สูงสุด 12 ลำ และระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญาดังกล่าว

 ข้อตกลงการส่งออกดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล โดยมีขั้นตอนทางราชการมากมายที่ต้องดำเนินการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาเรีย มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด ผ่านทางกรมลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธของหน่วยงานของเธอ และสำนักงานตรวจสอบผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ (ISP) ของรัฐ

ที่น่าสังเกตคือ สเตเนอร์การ์ดไม่ยอมรับที่จะอนุมัติการซื้อครั้งใหม่ของไทย เมื่อถูก Breaking Defense ร้องขอเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม รัฐบาล “กำลังติดตามความคืบหน้าของความขัดแย้งชายแดนอย่างใกล้ชิด” เธอกล่าว

ตามกฎระเบียบควบคุมการส่งออกของสวีเดน ISP เป็นผู้ประเมินประเด็นที่เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตส่งออกยุทโธปกรณ์ก่อนที่รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการ

นายพอล จอนสัน โฆษกรักษาการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กับ Breaking Defense ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องพิจารณา

“สิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดคือการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อลดความตึงเครียด การเจรจา และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวในแถลงการณ์ต่อ Breaking Defense เมื่อวันอังคาร หลังจากที่ประเทศไทยยืนยันการใช้กริพเพนทำยุทธทางอากาศ

ปัจจุบัน สวีเดน แอฟริกาใต้ บราซิล ฮังการี และสาธารณรัฐเช็ก ต่างใช้งานกริพเพน Saab JAS 39 นอกประเทศไทย ส่วนรุ่น E/F กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อขายแก่โคลอมเบียและเปรู

ประเทศไทยยังใช้งานระบบเฝ้าระวังทางอากาศ Erieye ของ Saab “ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ผู้บังคับบัญชาของไทยสามารถรับรู้สถานการณ์ได้อย่างเต็มที่ทั่วประเทศ” ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของ Saab ก่อนหน้านี้ บริษัท Saab ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 และก่อนหน้านี้เคยกล่าวไว้ว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญของ Saab”

ที่มา https://breakingdefense.com/2025/07/after-thailands-gripens-combat-mission-questions-of-future-sales/

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

 ‘ยุโรปกำลังแพ้สงครามเทคโนโลยี’ ให้จีนและสหรัฐฯ

นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลเตือน 'ยุโรปกำลังแพ้สงครามเทคโนโลยี' ให้จีนและสหรัฐฯ SCMP รายงานว่า ฟิลิปป์ อากีญง (Philippe Aghion) นักเศรษฐศาสตร์ชาวฝรั่งเศส  ได้ออกคำเตือนที่ชัดเจนต่อยุโรป หลังจากที่เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2025 โดยระบุว่าทวีปยุโรปกำลังสูญเสียสนามแข่งขันทางเทคโนโลยีให้กับ จีน ...

เกาหลีใต้ สั่งห้ามเข้ากัมพูชา หลังคดีนักศึกษาถูกลักพาตัว–ทรมาน–เสียชีวิต ถูกบังคับใช้แรงงาน ใน“เมืองแคมป์โกงออนไลน์”

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้ ‘รหัสดำ’ (code-black) ห้ามพลเมืองเดินทางเข้า “พื้นที่เสี่ยง” ในกัมพูชา ได้แก่ Bokor Mountain, Poipet, และ Bavet ซึ่งถูกระบุว่าเป็นจุดศูนย์กลางเครือข่ายโกงออนไลน์ข้ามชาติ