วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกข่าวรอบโลกหลังจากภารกิจรบกริพเพนของไทย เกิดคำถามเกี่ยวกับการขายในอนาคตของสวีเดน

หลังจากภารกิจรบกริพเพนของไทย เกิดคำถามเกี่ยวกับการขายในอนาคตของสวีเดน

เผยแพร่

spot_img

กริพเพนของกองทัพสวีเดนสามลำได้เข้าร่วมภารกิจหน่วยปฏิบัติการทิ้งระเบิดพิสัยไกลเหนือน่านฟ้าสวีเดน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 การปฏิบัติการและการปฏิบัติการร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราแสดงให้เห็นถึงและเสริมสร้างความมุ่งมั่นร่วมกันของเราต่อความมั่นคงและเสถียรภาพระดับโลก (ภาพจากกองทัพสวีเดน)

สตอกโฮล์ม – กองทัพอากาศไทย (RTAF) ยืนยันว่าเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen ถูกใช้โจมตีกัมพูชาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการยิงอาวุธครั้งแรกเป็นที่รู้จักจากเครื่องบินรบสวีเดน

การโจมตีทางอากาศของไทย ขณะนี้ถูกระงับไว้ชั่วคราว หลังจากประกาศหยุดยิงเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ลำบากสำหรับสวีเดนและ Saab เพราะไทยกำลังเจรจาเพื่อขอซื้อเครื่องบิน Gripen รุ่นใหม่เพื่อเพิ่มจำนวนเครื่องบิน Gripen แบบ C/D จำนวน 11 ลำ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนให้สัมภาษณ์กับ Breaking Defense เมื่อวันจันทร์ที่ 28กรกฎาคมว่า สวีเดนยังไม่อาจให้คำมั่นว่าจะอนุมัติการซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่ของไทยได้หรือไม่

ทั้งนี้ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาปะทุขึ้นในวันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม นำไปสู่การยิงตอบโต้กันระหว่างทั้งสองฝ่าย การโจมตีดังกล่าว ไทยอ้างว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายทางทหาร “ที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” และดำเนินการอย่างสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิในการป้องกันตนเองของประเทศตามกฎบัตรสหประชาชาติ พลอากาศโทประภาส ศรใจดี โฆษกของกองทัพอากาศไทย ระบุบนเฟซบุ๊ก  

 ตามรายงานข่าวก่อนหน้านี้ เครื่องบินกริพเพนได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างแม่นยำร่วมกับเครื่องบินเอฟ-16 โดยใช้ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12 โจมตีปืนใหญ่และเป้าหมายภาคพื้นดินของกัมพูชาใกล้ชายแดน

เท่าที่ทราบ Saab JAS 39 Gripen ถูกนำไปใช้รบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การบินทดสอบของรุ่นแรกเมื่อ 37 ปีก่อนในปี พ.ศ. 2531 ก่อนหน้านี้ถูกใช้เฉพาะในการลาดตระเวนและภารกิจที่คล้ายคลึงกัน เช่น ปฏิบัติการของนาโต้ของสวีเดนในลิเบียในปี พ.ศ. 2554 และภารกิจตรวจการณ์ทางอากาศของนาโต้

คำถามในขณะนี้คือ การใช้เครื่องบินเจ็ทของไทยอาจส่งผลกระทบต่อการขายครั้งต่อไปของ Saab หรือไม่

เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 ประเทศไทยได้ประกาศแผนการจัดซื้อกริพเพนแบบ E/F จำนวน 12 ลำ โดยคาดว่าจะมีคำสั่งซื้อในเร็วๆ นี้ รัฐสภาสวีเดน (Riksdagen) ได้มอบอำนาจให้รัฐบาลทำข้อตกลงกับประเทศไทยเกี่ยวกับเครื่องบินกริพเพนใหม่สูงสุด 12 ลำ และระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญาดังกล่าว

 ข้อตกลงการส่งออกดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล โดยมีขั้นตอนทางราชการมากมายที่ต้องดำเนินการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาเรีย มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด ผ่านทางกรมลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธของหน่วยงานของเธอ และสำนักงานตรวจสอบผลิตภัณฑ์เชิงกลยุทธ์ (ISP) ของรัฐ

ที่น่าสังเกตคือ สเตเนอร์การ์ดไม่ยอมรับที่จะอนุมัติการซื้อครั้งใหม่ของไทย เมื่อถูก Breaking Defense ร้องขอเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม รัฐบาล “กำลังติดตามความคืบหน้าของความขัดแย้งชายแดนอย่างใกล้ชิด” เธอกล่าว

ตามกฎระเบียบควบคุมการส่งออกของสวีเดน ISP เป็นผู้ประเมินประเด็นที่เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตส่งออกยุทโธปกรณ์ก่อนที่รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการ

นายพอล จอนสัน โฆษกรักษาการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กับ Breaking Defense ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องพิจารณา

“สิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดคือการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเพื่อลดความตึงเครียด การเจรจา และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวในแถลงการณ์ต่อ Breaking Defense เมื่อวันอังคาร หลังจากที่ประเทศไทยยืนยันการใช้กริพเพนทำยุทธทางอากาศ

ปัจจุบัน สวีเดน แอฟริกาใต้ บราซิล ฮังการี และสาธารณรัฐเช็ก ต่างใช้งานกริพเพน Saab JAS 39 นอกประเทศไทย ส่วนรุ่น E/F กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อขายแก่โคลอมเบียและเปรู

ประเทศไทยยังใช้งานระบบเฝ้าระวังทางอากาศ Erieye ของ Saab “ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ผู้บังคับบัญชาของไทยสามารถรับรู้สถานการณ์ได้อย่างเต็มที่ทั่วประเทศ” ตามข่าวประชาสัมพันธ์ของ Saab ก่อนหน้านี้ บริษัท Saab ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 และก่อนหน้านี้เคยกล่าวไว้ว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญของ Saab”

ที่มา https://breakingdefense.com/2025/07/after-thailands-gripens-combat-mission-questions-of-future-sales/

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

‘ทรัมป์’ โยงยา ‘ไทลินอล’ เสี่ยงทำหญิงท้องมีลูกเป็นออทิสติก แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงข่าวร่วมกับนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีสาธารณสุข ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 ว่าการฉีดวัคซีนบางชนิดให้เด็ก และการที่ผู้หญิงตั้งครรภ์ใช้ยาไทลินอล มีความเสี่ยงทำให้เด็กเป็นออทิสติก

ทรัมป์เซ็นคำสั่งฝ่ายบริหาร ประกาศแอนติฟาเป็นองค์กรก่อการร้ายในสหรัฐฯ นักกฎหมายชี้อาจไร้อำนาจรองรับ

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ย. เพื่อประกาศขึ้นบัญชีกลุ่ม “แอนติฟา” (Antifa) เป็น “องค์กรก่อการร้ายในประเทศ” อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายฝ่ายชี้ว่าคำสั่งดังกล่าวอาจไม่มีอำนาจทางกฎหมายรองรับ

ชาวฟิลิปปินส์ หลายหมื่นคน ประท้วงต้านทุจริตโครงการน้ำท่วม “แคทริโอนา” มิสยูนิเวิร์ส 2018 ร่วมเดินขบวนด้วย

สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ตำรวจฟิลิปปินส์จับกุมผู้ต้องสงสัย 49 คน ฐานขว้างปาก้อนหิน ขวด และ ระเบิดเพลิงใส่เจ้าหน้าที่ ทั้งปิดกั้นถนน สะพาน ที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแน่นหนา มุ่งหน้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21กันยายน ขณะที่มีการชุมนุมต่อต้านการทุจริตอย่างสันติในเมืองหลวง