บางที่บางแห่งในโลก…!
ซ่อนความจริงที่คุณไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่..!
คุณเชื่อไหม…ว่า “การทำลายล้าง”
บางครั้ง…อาจเป็นเสียงแรกของการเกิดใหม่?
เมืองแห่งนี้ไม่ใช่เพียง “สถานที่” หากแต่คือ “จังหวะลมหายใจของโลกเก่า”
ทุกตรอกซอกซอย ทุกเสียงสวดมนต์ มีบางอย่างซ่อนอยู่ ราวกับว่าทุกอณูอากาศเฝ้ารอให้คุณหลุดเข้าไปในมิติอีกชั้น
เมืองพาราณสี
เช้าตรู่…ที่นั่น
แสงแดดยามอรุณค่อย ๆ ฉาบลงบนสายน้ำคงคา
กลิ่นควันกำยานเจือปนเสียงสวด ……
“โอม นมัส ศิวายะ Om Namah Shivaya
โอม นมัส ศิวายะ”
เสียงดังก้องเหนือบันไดหินริมฝั่ง….แม่น้ำคงคา
อินเดียน ฮินดู โดยเฉพาะผู้เคร่งครัดในลัทธิไศวะ ซึ่งบูชาพระศิวะ. ชุมนุมอยู่ที่นั่น
มนตร์นี้มีความหมายว่า “ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระศิวะ” หรือ “การสักการะแด่ผู้เป็นมงคล”.
ภาพนักบวชทาเถ้าขาวเต็มร่าง นั่งนิ่งดั่งรูปสลัก…
เบื้องหน้า คือวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งพระศิวะ พระนางปารวตี ที่ผู้แสวงบุญทั้งโลกต้องการมาให้เห็นด้วยตาตนเองสักครั้งในชีวิต
กลิ่นธูปควันหนา ปะปนกับกลิ่นดอกไม้บูชา
เสียงสวดมนต์ก้องสะท้อนกำแพงศิลา
ทำให้ทุกลมหายใจ…ราวกับเดินอยู่ในมิติของพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น
คุณไปมาแล้วใช่ไหม ?
เมื่อคราวไป 4 สังเวชนียสถาน….
หรือยังไม่ได้ไป !
จะไปมาแล้ว หรือยังไม่ได้ไป….
ตามผมมา…!
สุวรรณภูมิ บินไป พาราณสี สี่ชั่วโมงครึ่ง
ลงเครื่องแล้ว จะใช้แท็กซี่ หรือรถตุ๊กตุ๊ก หรือรถรับจ้างไปวิหาร ได้ทั้งนั้น
จ่ายสัก 300–500 รูปี ก็ไม่เกิน 150 บาท ถึงแล้ว
คุณจะมีความสุขกับเสียงแตรไปตลอดทาง
แล้วคุณก็ต้องกินของอร่อยหน้าวิหารก่อนซี
โรตีร้อน ๆ สักแผ่น โดยฝีมืออินเดียนแท้ที่เป็นมือวิเศษตบแป้งให้บางแล้วทอดได้กรอบ กับชากาหล่ามจ๋าย อันหอมกลิ่นเครื่องเทศเข้มข้นละมุนลิ้น แค่นี้ก็อิ่มแล้ว
อย่าไปสนใจ ถ้าคุณเห็นคนขายยืนฉี่อยู่ใกล้ ๆ แล้วสะบัดมือนิด ๆ ก่อนจะจับแป้งคลึงแป้งโรตีให้รายอื่นต่อ
ไป..เข้าไปข้างในกัน
นักบวชหลายสิบคน ร่ายรำท่าทางศักดิ์สิทธิ์ นุ่งห่มผ้าพลิ้วปลิวไสวด้วยสีสดสว่าง เทิดบูชาอย่างตั้งใจ
แขนหมุนวนเป็นวงกลม
เท้ากระแทกพื้นพร้อมเสียงกลองดังก้อง
ดวงตาเบิกกว้าง ราวกับมองทะลุเข้าไปในจิตใจผู้ชม
ย่อตัวเอี้ยวซ้ายแล้วหันกลับมาทางขวาอย่างรุนแรง
กลิ่นธูปควันหนาคลุ้งไปทั่ว พัดสัมผัสใบหน้าและผมของผู้คน
ทุกก้าว…เหมือนเดินอยู่กลางสายลมพลังงานที่มองไม่เห็น
ผมถอยห่าง เหมือนถูกพลังบางอย่างดึง หลายคนขยับเข้าไปใกล้เหมือนถูกเชิญชวน
บางคนยืนตาไม่กะพริบ…จดจ้องการร่ายรำด้วยความกลัวปนศรัทธา
ใกล้ ๆ กันนั้น ผมเห็น…
ศิวลึงก์…!
แท่งศิลาที่ดูเรียบง่าย แต่แท้จริงคือสัญลักษณ์แห่งจักรวาลและพลังสร้างสรรค์อันไร้สิ้นสุดของพระศิวะ
มันไม่ได้เป็นเพียงวัตถุศักดิ์สิทธิ์ หากแต่คือการย่อโลกทั้งจักรวาลลงมาอยู่ในรูปทรงเดียว รูปทรงที่ผสานทั้ง “กำเนิด” และ “การทำลาย” เอาไว้พร้อมกัน
คนอินเดียเชื่อว่า ศิวลึงก์ ไม่ใช่เพียงหินศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็น สัญลักษณ์ของพระศิวะ เทพผู้สร้างและผู้ทำลายจักรวาลในเวลาเดียวกัน
การกราบไหว้ศิวลึงก์ในวิหาร จึงเท่ากับการขอพลังคุ้มครอง ขอพรด้านความอุดมสมบูรณ์ กำลังใจ และการเริ่มต้นใหม่ในชีวิต
ทุกปีจะมีคืนแห่งพระศิวะ จึงมีเทศกาล มหาศิวราตรี ที่ผู้คนหลั่งไหลไปวิหารศิวะทั่วอินเดีย เพื่อทำพิธีบูชาศิวลึงก์ทั้งคืน เชื่อกันว่าคืนนี้คำอธิษฐานจะถึงพระศิวะโดยตรง
เห็นไหม ว่าเขาไปกันทำไม ?
ผมฟังมาแล้วแล้วชวนให้น่าคิด !!
เมืองนี้…ไม่ได้ให้คุณมา “เที่ยว” แต่มา “เผชิญหน้า”
ทุกจังหวะกลอง…เหมือนสวรรค์เคาะประตูบอกว่าโลกนี้ไม่ใช่ของคุณ
ศรัทธา…บางครั้งคือใบมีดที่กรีดวิญญาณโดยไม่รู้ตัว
ความศักดิ์สิทธิ์…ไม่ได้โอบกอด แต่ทิ่มแทง
ผู้รู้ที่นั่นสรุปให้ฟังว่า….
พาราณสี…คือเส้นแบ่งของ “คนที่ยังอยู่” และ “คนที่ถูกเลือกให้หายไป”
เจ้าหน้าที่วิหารเล่าให้ฟัง…
“หากพระศิวะร่ายรำตัณฑวะครบ 108 จังหวะ…โลกจะ
ดับสลายทันที
และบางพิธี…ผู้เข้าร่วมถึงกับล้มตายตรงนั้น
ราวกับพลังนั้นดึงวิญญาณออกไปจริง ๆ”
มีนักท่องเที่ยวเล่าปากต่อปากว่า ขณะพิธีดำเนินไป จู่ ๆ ได้ยินเสียงสวดแผ่ว ๆ กลายเป็นเสียงกระซิบใกล้หู
เห็นเงาร่างดำค่อย ๆ เคลื่อนไหวรอบตัว
ฝันเห็นชายสวมพวงมาลาเข้ามาเคาะอก 3 ครั้ง
การทำลายล้าง…ไม่ได้เป็นด้านลบเสมอไป
มันคือการสร้างใหม่ ฟื้นฟูจักรวาล
บางครั้ง…ผู้ที่อยู่ในพิธี ได้สัมผัสพลังนี้เต็ม ๆ
และพลังนั้น…สามารถเรียกวิญญาณหรือทำให้ผู้เข้าร่วมถึงกับหมดสติได้จริง
ขากลับ…จากวิหาร ผมกำลังคิด
การทำลายล้าง…ไม่ได้เป็นด้านลบเสมอไป
มันคือการสร้างใหม่ ฟื้นฟูจักรวาล
เหมือนชีวิตเราเศร้าหมอง…ลองไปสักครั้ง พลังที่ได้รับทำให้ได้ชีวิตแจ่มใส เหมือนอย่างที่ใคร ๆ เขาทำกัน
ก้าวออกจากวิหาร….พลันเห็น
ชายชราหน้าวิหารจ้องหน้า ยังคงยื่นมือมาหาเหมือนขาเข้าแล้ว พูดพึมพำจนมีคนข้าง ๆ แปลให้ฟังว่า
“ทุกคนที่ได้ยินเสียงกลองนี้…ต่างถูกเรียกมาโดยเจตจำนงบางอย่าง….
คืนนั้นผมฝันเห็นพระศิวะร่ายรำตรงหน้า
และในความฝัน…
จังหวะนั้นดำเนินไปเรื่อย ๆ เหมือนนับถอยหลังบางสิ่งที่ผมยังไม่รู้คำตอบ…..!
มืดแล้วสว่าง…สว่างแล้วอาจสว่างจ้า
แล้วคุณจะเข้าใจ…ว่าทำไมผมถึงอยากให้คุณมาด้วย
คุณคิดอะไรอยู่ !