งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine (19 ส.ค. 2025) รายงาน ผู้ป่วยหญิงวัย 78 ปี ที่มีโรคประจำตัวหลายอย่าง และพบภาวะหัวใจเต้นผิดปกติแบบ atrial fibrillation (AF) ต่อเนื่อง ซึ่งผู้วิจัยเชื่อมโยงกับการบริโภคผงชูรสในปริมาณสูง (ประมาณ 6 กรัม/วัน) — หลังงดผงชูรส อาการหัวใจกลับเป็นจังหวะปกติภายใน 3 เดือนจนลด/หยุดยาบางชนิดได้ งานชิ้นนี้เป็นรายงานกรณี (case report) ที่ชวนให้ตั้งคำถามว่า MSG อาจเป็น “ตัวกระตุ้น” สำหรับผู้มีความเสี่ยงบางกลุ่มได้จริงหรือไม่
งานวิจัยและหลักฐานที่มีตอนนี้พูดว่าอะไร?
- งานที่ผู้ใช้ยกมาเป็น รายงานกรณี ที่พบความสัมพันธ์เชิงเวลาระหว่างการบริโภค MSG ปริมาณสูงกับ AF — หลังหยุด MSG อาการดีขึ้นจนหัวใจกลับเป็นจังหวะปกติ. รายงานลักษณะนี้ชวนให้สนใจเพราะ “อาการหายหลังงด” แต่ยังไม่สามารถสรุปว่า MSG เป็นสาเหตุโดยตรงสำหรับคนทั่วไปได้ (ต้องการข้อมูลจากการทดลองแบบควบคุมหรือการศึกษาในกลุ่มใหญ่)
- มีงานวิจัยและรายงานก่อนหน้านี้ที่สังเกต “ความเชื่อมโยง” ระหว่างระดับกลูตาเมตในเลือดกับ AF หรือการเปลี่ยนแปลงของหัวใจ — ทั้งในระดับชีวเคมีและการแสดงออกของตัวรับ (receptors) ของกลูตาเมตใน เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจห้องบน (atrial cardiomyocytes) ซึ่งชี้เป็นไปได้ทางกลไกว่า glutamate อาจมีบทบาทต่อความตื่นตัวทางไฟฟ้าของหัวใจได้ แต่ยังต้องการงานวิจัยยืนยันในคนจำนวนมาก
กลไกที่นักวิจัยเสนอ สรุปแบบเข้าใจง่าย
- เส้นทางในสมอง: กลูตาเมตจากเลือดอาจถูกรับรู้ในบริเวณ CVOs หรือ hypothalamus ซึ่งเชื่อมกับการควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ (autonomic nervous system) ที่มีผลต่ออัตราการเต้นหัวใจและจังหวะการนำไฟฟ้า → อาจเพิ่มความเสี่ยง AF ในคนที่มีปัจจัยร่วม (โรคความดัน/肥胖/โรคเมตาบอลิก)
- การออกฤทธิ์ที่หัวใจตรง ๆ: มีงานแสดงว่าหัวใจ (โดยเฉพาะเซลล์ atrial) มีองค์ประกอบของระบบ glutamatergic — ตัวรับกลูตาเมต (glutamate receptors) และเอนไซม์ที่เกี่ยวข้อง — ซึ่งถ้าได้รับการกระตุ้นมากผิดปกติ อาจเปลี่ยนแปลงการนำไฟฟ้าและความต้านทานไฟฟ้าของหัวใจได้ (เป็นไปได้ว่ากระตุ้นการเกิด arrhythmia)
แล้วผงชูรสจำเป็นไหม?
ไม่จำเป็น สำหรับโภชนาการพื้นฐานของมนุษย์ — ผงชูรสเป็นเพียง “ตัวปรุงรส” ที่ช่วยเพิ่มความอร่อย (umami) ให้กับอาหารเท่านั้น ร่างกายไม่ได้ต้องการ MSG เป็นสารจำเป็น แต่มนุษย์ต้องการกลูตาเมตซึ่งมีอยู่แล้วในโปรตีนธรรมชาติของอาหารทั่วไป ดังนั้นการใช้หรือไม่ใช้ผงชูรสเป็นเรื่องของรสชาติและการเลือกบริโภค แต่ไม่ใช่ความจำเป็นทางโภชนาการ
ถ้าอยากลด/เลี่ยงผงชูรส มีทางเลือกอะไรบ้าง
หลายคนต้องการรสอูมามิแบบไม่เติมผงชูรส — ทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัยได้แก่
- สาหร่ายคอมบุ (kombu), ซุปสต็อกจากกระดูก/ปลา (dashi), น้ำซุปต้มจากเห็ดแห้ง (เช่น shiitake แห้ง) — ธรรมชาติอุดมกลูตาเมต
- มะเขือเทศสุก, ชีสแบบอายุ (เช่น Parmesan), เห็ดสดหรือผงเห็ด, ซอสถั่วเหลือง/น้ำปลา/มิโสะ — ให้รสอูมามิที่เข้มข้นจากแหล่งธรรมชาติ
- ยีสต์เอ็กแทร็กต์ (yeast extract) หรือนิวทริชั่นแนลยีสต์ — ให้รสอูมามิโดยไม่ต้องใช้ผงชูรสเชิงพาณิชย์ (แต่ก็มีกรดกลูตามิกตามธรรมชาติ)
ข้อสำคัญ: แหล่งธรรมชาติหลายอย่างเหล่านี้ก็มี กลูตาเมตตามธรรมชาติ อยู่ด้วย (เพราะ umami = กลูตาเมต) — ดังนั้นถ้าปัญหาจริง ๆ เกิดจากปริมาณกลูตาเมตที่เข้าสู่ร่างกาย ผู้ที่ไวต่อสารนี้อาจรู้สึกอาการได้แม้เลี่ยงผงชูรสโดยใช้วัตถุดิบธรรมชาติเป็นตัวเพิ่มรส ดังนั้นทางเลือกจึงไม่ได้ “ไม่มีผลต่อร่างกาย” เสมอไป แต่เป็นการลดการบริโภคผงชูรสสำเร็จรูปและเลือกแหล่งรสอูมามิที่มีประโยชน์ด้านโภชนาการอื่น ๆ แทน
ผงชูรสกับหัวใจเต้นผิดปกติ — ระดับความเชื่อมั่นทางวิทยาศาสตร์ตอนนี้
- มี รายงานกรณี (case reports) และการศึกษาเชิงสังเกตที่ระบุความเกี่ยวข้องระหว่างการบริโภค MSG กับอาการหัวใจเต้นผิดปกติ (รวมถึง AF) ในบางราย แต่หลักฐานยังไม่ถึงขั้นพิสูจน์ “เป็นสาเหตุแน่ชัด” สำหรับประชากรทั่วไป — เพราะยังขาดการทดลองแบบสุ่มขนาดใหญ่ที่ควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่นอย่างครบถ้วน
- ข้อสังเกตทางชีววิทยาบางชิ้นชี้ว่ากลูตาเมตอาจมีบทบาททั้งในสมอง (CVO/hypothalamus) และในหัวใจ (glutamate receptors ใน cardiomyocytes) ซึ่งเป็น “เส้นทางเชิงกลไก” ที่เป็นไปได้ — แต่ยังต้องการงานวิจัยเสริมเพื่อยืนยัน
ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้อ่าน (แนะนำปฏิบัติได้จริง)
- ถ้าคุณมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ หรือมี AF อยู่แล้ว — แจ้งแพทย์เกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน รวมถึงการบริโภคผงชูรสและอาหารที่มีรสอูมามิเข้มข้น — แพทย์อาจแนะนำให้ลด/งดเป็นช่วงทดลองและติดตามผล (เช่น รายงานกรณีที่อ้างถึง)
- ถ้าคุณไม่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ — การบริโภค MSG ในระดับที่พบโดยทั่วไปในอาหารเป็นที่ยอมรับว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ (หน่วยงานอย่าง FDA/JECFA ให้สถานะว่าใช้ได้ในระดับปกติ) แต่ก็ควรบริโภคอาหารให้หลากหลายและหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปมาก ๆ ที่มักมีโซเดียมสูงและสารเสริมอื่น ๆ
- ปริมาณสำคัญ — รายงานกรณีที่น่ากังวลมักเกี่ยวข้องกับการบริโภค ปริมาณสูง (เช่นกรณี ~6 g/day ในรายงาน) ซึ่งมากกว่าการบริโภคทั่วไปของคนส่วนใหญ่ (โดยเฉลี่ยประมาณ 0.5–2 g/day ในหลายประเทศ) — การจำกัดปริมาณและสังเกตตัวเองจึงเป็นแนวทางที่สมเหตุสมผล
- MSG ไม่ใช่สารจำเป็น และเป็นเพียง “ตัวปรุงรส” — คนส่วนใหญ่บริโภคได้อย่างปลอดภัยในระดับที่พบบ่อย แต่มีกรณีรายงานที่เชื่อมโยง MSG ปริมาณสูงกับภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ (เช่น AF) — โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงร่วม
- หลักฐานในปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปความเป็นสาเหตุทั่วไปได้ — ต้องการงานวิจัยเชิงทดลอง/การศึกษาในกลุ่มใหญ่ขึ้น แต่กลไกเชิงชีวภาพบางอย่างทำให้ความเชื่อมโยงนี้เป็น “ไปได้” ทางทฤษฎี (สมองและหัวใจตอบสนองต่อกลูตาเมต)
- ทางเลือกที่ปลอดภัย: ถ้าต้องการลด MSG ให้ใช้แหล่ง umami จากธรรมชาติ (เช่น kombu, เห็ด, มะเขือเทศสุก, Parmesan, ซอสถั่วเหลือง, yeast extract) แต่ต้องจำไว้ว่าแหล่งธรรมชาติเหล่านี้ก็มี กลูตาเมตตามธรรมชาติ — ดังนั้นหากคุณ “ไวจริง ๆ” ต่อกลูตาเมต อาจต้องลดทั้งจากผงชูรสและแหล่งธรรมชาติและปรึกษาแพทย์
ศัพท์เทคนิคที่ควรรู้ (และคำอธิบายสั้นๆ)
- Monosodium Glutamate (MSG; ผงชูรส) – เกลือโซเดียมของกรดแอมิโนกลูตาเมต ใช้เพื่อเพิ่มรส “อูมามิ” (umami) ให้กับอาหาร พบได้ทั้งในรูปเติม (ผง/เกลือ) และในรูปที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในอาหารบางชนิด เช่น สาหร่าย คอมบุ เห็ด ชีสและมะเขือเทศ
- Atrial fibrillation (AF) – ภาวะหัวใจห้องบน (atria) เกิดการสั่นพลิ้วไม่เป็นจังหวะ ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไม่เป็นประสิทธิภาพ เพิ่มความเสี่ยงเกิดลิ่มเลือดและสโตรก (stroke).
- Case report – รายงานทางการแพทย์ของผู้ป่วยรายเดียวหรือจำนวนจำกัด ช่วยชี้สัญญาณ/ความสัมพันธ์ แต่ไม่เพียงพอสำหรับสรุปสาเหตุ-ผลกระทบเชิงสาเหตุ (causation) ในวงกว้าง
- Circumventricular organs (CVOs) – โครงสร้างบางส่วนของสมองที่ “รั่วกว่า” (ไม่มี blood–brain barrier แน่น) ทำให้สามารถรับสัญญาณหรือโมเลกุลจากเลือดโดยตรงได้ และอาจเป็นช่องทางให้สารจากเลือดกระตุ้นสมองบางส่วน (เช่น ศูนย์ควบคุมอัตโนมัติ) ซึ่งอาจมีผลต่อการควบคุมหัวใจ/ความดัน