วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกบทความ-ความเห็นสถานการณ์บ่งชี้ประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่ภายใน 40 วัน

สถานการณ์บ่งชี้ประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่ภายใน 40 วัน

เผยแพร่

spot_img

สถานการณ์การเมืองในสภาฯ ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาและผู้นำมีปัญหาทางกฎหมายบ่งชี้ว่า ประเทศไทยจะมีรัฐบาลใหม่ก่อนตุลาคม หรือเร็วกว่านั้น

พิเคราะห์จากการประชุมสภาที่ล่มแล้วล่มเล่าผู้เป็นประธานฯต้องเลิกการประชุมบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุอันควร และความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ทำให้ความนิยมในกองทัพและทหารสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับความนิยมรัฐบาลที่ดิ่งเหวลงนรก

คลุกคลีข่าวการเมืองไทยมา 50 ปี พบว่า เมื่อไรก็ตามที่รัฐบาลอ่อนแอ นักการเมืองสร้างปัญหาให้ประเทศชาติคนไทยหันไปสนับสนุนทหาร ให้กอบกู้ชาติบ้านเมือง

การยึดอำนาจ ปี 2549 และ ปี 2557 ล้วนมีมูลเหตุมาจากรัฐอ่อนแอ คอร์รัปชั่นในรัฐบาลนั้นๆ ประชาชนนับล้านเดินขบวนประท้วงขับไล่ รัฐบาลคอร์รัปชั่น ก็ใช้เผด็จการสภา ดื้อด้านอยู่ในอำนาจนานเท่าที่ทำได้ และมีกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายสังหารประชาชน ประเทศชาติวุ่นวายเกือบกลายเป็นรัฐล้มเหลว

ถึงจุดหนึ่งทหารจำเป็นต้องกอบกู้ชาติด้วยการยึดอำนาจ ประชาชนก็นำดอกไม้ น้ำดื่มไปให้ทหาร ที่แล้วมาประชาชนได้แต่แสดงความดีใจมอบดอกไม้ให้เป็นกำลังใจทหาร

แต่การสนับสนุน ยกย่องทหารในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพราะคนไทยรัก ศรัทธา ทหารที่กล้าสวนทางรัฐบาล ปกป้องอธิปไตยแบบถวายชีวิต ในขณะที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่เต็มใจให้ทหารทำ และคนไทยสนับสนุนทหาร เพราะสงสัยว่า ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา มีคนในรัฐบาลรู้เห็นเป็นใจกับศัตรูหรือไม่?

คนไทยหลายล้านคนเชื่อว่าความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เกิดจากครอบครัวของผู้นำรัฐบาลทั้งสองฝ่าย ที่บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ

นี่คือมูลเหตุสำคัญที่คนไทยสนับสนุนทางทหารทุ่มเทกำลังใจ และปัจจัยที่จำเป็นเร่งด่วนให้ทหาร จัดหายุทธปัจจัย และสิ่งของที่จำเป็นให้ทหาร เพราะรัก ชื่นชม และศรัทธา ที่รู้ว่าระเบียบราชการเป็นอุปสรรคเบิกงบประมาณมาใช้ในภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน

เช่น กองทัพภาคที่ 2 ขอรับบริจาค ลวดหนามหีบเพลงหลายร้อยม้วน เพื่อไปวางตามชายแดนป้องกันเขมรรุกล้ำอธิปไตย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯแทนที่จะภูมิใจ ที่คนไทยมีส่วนร่วมในการปกป้องอธิปไตย กลับแสดงอาการฉุนเฉียวใส่ทหารว่า ทำไมต้องรับบริจาค “ต้องการอะไรก็บอกมาจะจัดให้”นายภูมิธรรมฉุนเฉียวเพราะขายหน้า หรือ ขัดขวางยุทธวิธีทหารอย่างมีเลศนัย ที่ปรามไม่ให้รับบริจาคในกรณีจำเป็นเร่งด่วน

รักษาการนายกฯขัดขวางยุทธวิธีทหารเหมือนกับที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขัดขวางทหารเข้มงวดด่านชายแดน โดยทำเสียงเขียวใส่ผู้ว่าฯสุรินทร์ ในที่ประชุมความมั่นคงว่า “เปิดด่านพร้อมกันได้ไหมเพื่ออำนวยความสะดวกการค้า” เป็นการพูดสวนทางกับมาตรการทหารกดดันเขมร และห้ามไม่ให้คนไทยข้ามชายแดนไปเล่นการพนันในกัมพูชา

น่าสนใจที่รัฐบาลขัดขวางสิ่งใด คนไทยสนับสนุนให้ทหารทำสิ่งนั้น เมื่อคนไทยต้องการให้ทหารปิดด่านถาวร 6 แห่งในพื้นกองทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ลงมาถึงด่านสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กองทัพภาคที่ 2 ก็จัดให้

การปิดด่านถาวร 6 แห่ง ทำให้สมเด็จฮุนเซนเดือดพล่าน เป็นเหตุให้น.ส.แพทองธาร โทรศัพท์ไปเคลียร์ กับ ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา และเมื่อเห็นว่านายกฯไทยอ่อนข้อให้ ฮุน มาเนตก็นำคำพูดกับนายกฯไทยไปโพสต์บนเฟซบุ๊ก

น.ส.แพทองธาร คงขายหน้าเลยโพสต์ข้อความสวนไปว่า “ฮุน มาเนต ไม่เป็นมืออาชีพที่นำการสนทนาส่วนตัวไปเผยแพร่ในที่สาธารณะ” ข้อความของแพทองธาร ทำให้ฮุนเซนพ่อนายกฯเขมรด่าว่า นายทักษิณไม่สอนลูกสาว ที่เหิมเกริมดูหมิ่นนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

สงครามน้ำลายระหว่างตระกูลฮุน กับ ตระกูลชิน เปิดฉากตั้งแต่นั้นมา โดยที่นายกฯไทยไม่สำเหนียกว่า การอ่อนข้อต่อเพื่อนพ่อ จะนำความหายนะมาสู่ประเทศชาติ เธอยังโทรศัพท์ไปหาตระกูล ฮุน ตลอดเวลาโดยที่กองทัพไทยและคนไทยไม่รู้ว่าตระกูลฮุน กับ ตระกูลชินสมคบกันทำอะไร

กระทั่งวัน 18 มิถุนายน ฮุนเซน ปล่อยคลิปเสียงอัปยศออกมา สร้างความตะลึงงันให้กองทัพไทยและคนไทยทั่วประเทศ ประชาชนผู้รักชาติและอธิปไตยพากันประณามนายกฯว่า เป็นผู้นำชาติสู่หายนะ คณะ สว.ก็นำคลิปเสียงอัปยศขึ้นร้องศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาให้ น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกฯในความผิดฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง

ขณะที่นายกฯถูกศาลฯสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ฮุนเซน เมื่อเห็นว่าสหายในประเทศไทย ไม่สามารถทำตามที่ตกลงกันไว้ ก็ระดมทหารกัมพูชาประชิดชายแดน เปิดฉากสงครามกับกองทัพไทย

ในสงคราม 5 วัน ที่ทหารป่าเขมรปะทะกับกองทัพไทยผู้อัจฉริยะใช้อาวุธล้ำสมัย ทำลายกองทัพกัมพูชาย่อยยับจวนล่มสลาย ทหารเขมรหลายพันนายกลายเป็นศพเกลื่อนป่า ฝ่ายกัมพูชาเมื่อพบว่าเพลี่ยงพล้ำก็สมคบกับไส้ศึกในไทยขอให้สหรัฐอเมริกากับมาเลเซียเป็นคนกลางเจรจาหยุดยิง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯบินไปตกลงหยุดยิงกับพลเอก เตีย เซยอา รมต.กลาโหมกัมพูชาในประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ท่ามกลางความคลางแคลงใจของคนไทยที่ไปตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่ 24.00 น.ของวันที่ 28 กรกฎาคม

คนไทยสงสัยว่า ไปตกลงหยุดยิงในขณะที่ สหรัฐ กัมพูชา กับมาเลเซียได้กำหนดล่วงหน้าว่าต้องหยุดยิงเวลา 24.00 น.หรือไม่? ทำให้กัมพูชารู้เวลาหยุดยิงล่วงหน้า ฉวยโอกาสเสริมทหารเข้าพื้นที่ปะทะนับหมื่นนายไม่นานก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง

ที่เลวร้ายกว่านั้น ขณะที่ทหารไทยกำลังยึดยุทธภูมิสำคัญปราสาทตาควายได้ มีไอ้โม่งสั่งการให้ทหารไทยหยุดยิง ทำให้ทหารเขมร มุดเข้าไปใช้ปราสาทตาควายเป็นป้อมปราการ  อย่างไรก็ตาม ทหารไทยยังตั้งมั่นอยู่ห่างจากตัวปราสาทประมาณ 30 เมตร

ปราสาทตาควายเป็นยุทธภูมิสำคัญ เพราะฝ่ายกัมพูชาตั้งเป้าหมายใช้เป็นเส้นเขตแดนลากตรงลงไปในทะเลอ่าวไทย ที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน พื้นที่ตรงนั้นมีแหล่งแก๊สธรรมชาติและน้ำมันมูลค่ามากมายมหาศาล

มีรายงานตลอดมาว่า ฮุนเซน ตกลงกับสหายคนไทย แบ่งผลประโยชน์จากแก๊สธรรมชาติและน้ำมันกัน 50-50

เรื่องพื้นที่ทับซ้อนคนไทยสงสัย ตั้งแต่ทหารไทยขับไล่ทหารเขมรที่ขุดคูเลต ล้ำเข้ามาที่ช่องบกกว่า 200 เมตร ซึ่งทหารไทยยืนยันว่าเป็นดินแดนของประเทศไทยไม่ยอมให้เขมรรุกล้ำได้

ตอนนั้นทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯผู้มีอิทธิพลบารมีเหนือรัฐบาลเพื่อไทย พูดสวนทางกับทหารไทยว่า “พื้นที่ตรงนั้นเป็น No Man’s Land หยวนๆกันได้ก็คุยกัน หรือไม่ก็ใช้พื้นที่ตรงนั้นเป็นสนามเล่นตะกร้อร่วมกัน”

คำนั้นมันบาดใจทหารและคนไทย นี่คงเป็นเหตุสำคัญทำให้คนไทยรักและศรัทธาทหาร ในเวลาเดียวกันคนไทยรังเกียจ ชิงชังรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

เรื่องเขตแดนที่เป็นของไทย ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนนั้น น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรีเคยพูดเหมือนบิดาว่า “ส่วนพื้นทับซ้อนนั้นก็เจรจาแบ่งผลประโยชน์กัน 50-50”

จึงพูดได้ว่า ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาที่ระเบิดเป็นสงคราม 5 วัน เริ่มต้นจากความขัดแย้งครอบครัวสหายไทย-กัมพูชา ที่บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประเทศ เนื่องจากสหายฝ่ายไทยไม่สามารถควบคุมทหารไม่ให้ขัดขวางแผนการแย่งดินแดนไทยของฝ่ายกัมพูชาได้

พฤติกรรมและการกระทำของรัฐบาลเพื่อไทย ที่สมคบกับรัฐบาลพรรคประชาชนกัมพูชา สร้างสถานการณ์เลวร้ายทั้งในที่แจ้งและที่ลับ ซึ่งรัฐบาลเพื่อไทยไม่สามารถทำให้คนไทยหายคลางแคลงใจได้ ถึงแม้นายกฯพยายามแก้ตัวฟอกขาวในศาลฯว่า ปรารถนาดีต่อประเทศชาติ

วันที่ 29 สิงหาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกฯหรือไม่ รัฐบาลนี้ก็ไปต่อไม่ได้อยู่แล้ว การบริหารล้มเหลวทุกด้านทั้ง เศรษฐกิจ ความมั่นคง การเมืองและสังคม ตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมารัฐบาลนำพาประเทศล่มจมเกินกว่าคนไทยจะรับได้

ความพยายามขัดขวางทหารของพระราชาผู้สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตย เป็นปัจจัยเสริมสำคัญทำให้รัฐบาลล่มสลาย นายกรัฐมนตรีลาออกก่อนวันที่ 29 สิงหาคมหรือไม่ รัฐบาลชุดนี้ก็ต้องไปอยู่แล้ว

วันที่ 9 กันยายน หากมีอภินิหารกฎหมาย นายทักษิณรอดคุกได้ ก็ไม่สามารถกอบกู้ความนิยมจมดิ่งลงเหวของรัฐบาล และหากปะเหมาะเคราะห์ร้าย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองมีคำสั่งให้เทวดาชั้น 14 รับโทษตามคำสั่งศาล ถึงตอนนั้นเจ้าของคอกหมาก็หายไปจากเมืองไทย

ถึงเวลาแล้ว ที่นักการเมืองในสภาต้องหารือกันว่าจะจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่รูปแบบใด เป็นรัฐบาลร่วมกันผลาญชาติต่อไป หรือ คิดใหม่ทำใหม่ล้างบาปที่ทำกับประเทศไทย ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อกอบกู้ประเทศไทยไปสักสองปี โดยไม่ต้องรอ 29 สิงหาคม และไม่ต้องรอ 9 กันยายน เนื่องจากว่าพระสยามเทวาธิราชไม่ทนกับรัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป

หากนักการเมืองในสภายังไม่สามารถร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ภายในเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาอาถรรพณ์ เวลานั้นจะไม่มีที่พล่ามในสภา จะหาว่าไม่เตือนไม่ได้นะ

( Cr: สุทิน วรรณบวร 26 สิงหาคม 2568 )

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

เปิดเสียงผี หมาหอน เครื่องบินรบ ทำให้ชาวกัมพูชากลัว นอนไม่ได้

กรณีที่คุณกันจอมพลัง ได้เปิดเสียงผี หมาหอน เครื่องบินรบ ทำให้ชาวกัมพูชากลัว นอนไม่ได้ จนรัฐบาลกัมพูชายื่นร้องเรียนการกระทำดังกล่าวต่อ UN

ทรัมป์พลาดโนเบลสันติภาพ ถูกมองเป็นคนหลงตัวเองแห่งศตวรรษ

รศ.ดร.เสรี พงศ์พิศ อดีตอธิการบดีสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Seri Phongphit ระบุว่า... #รางวัลโนเบลสันติภาพที่มีคนอยากได้ใจจะขาด สะใจโก๋ที่นายทรัมป์ไม่ได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ที่เจ้าตัว “เรียกร้อง” อย่าง “หน้าด้าน” อ้างว่าไม่มี

“ศาลเตี้ย”  ของสื่อกับหลักของ Presumption of Innocence ความสมดุลระหว่าง เสรีภาพสื่อ กับ สิทธิจำเลย

การที่สื่อบางรายการนำประเด็นที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี มาถกเถียงอย่างเผ็ดร้อน โดยเฉพาะการเชิญ "แขกรับเชิญ" ที่มีส่วนได้ส่วนเสียหรือมีความคิดเห็นที่ชี้ขาด มา "ยำ" หรือซักไซร้ไล่เลียงอย่างหนักก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น ถือเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่กระทบต่อหลักการพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตย ทั้งจริยธรรมสื่อ และธรรมาภิบาล