วัยเจ็ดสิบเป็นหมุดหมายสำคัญของชีวิต มุมมองใดก็ตามที่พิจารณา มนุษย์เมื่อก้าวพ้นเจ็ดสิบย่อมนับว่าเป็นผู้สูงวัยโดยแท้ ณ จุดนี้ พระอาทิตย์อัสดงอันงดงามเริ่มลับขอบฟ้า ชีวิตอันเปี่ยมสีสันก็ร่อยหรอลง จากข้อมูลทางการเปิดเผย มีเพียง **44%** ของประชากรทั้งหมดที่สามารถก้าวข้ามวัยชราได้ แล้วหันเหชีวิตมุ่งสู่เส้นทางแห่งการ “มุ่งสู่แปดสิบ”
**ทศวรรษแห่งความยากลำบากที่สุด:**
ช่วงอายุ **70 ถึง 80 ปี** เป็นสิบปีที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต เป็นห้วงยามเต็มไปด้วยเรื่องราววุ่นวายแห่งวัยชรา
1. **ความเสื่อมถอยเร่งรุด:**
อวัยวะทุกส่วนเสื่อมสลายและสึกหรออย่างไม่อาจย้อนคืน เปรียบดังเครื่องจักรเก่าที่ใกล้หมดอายุการใช้งาน ยังคงดำเนินต่อไปอย่างเชื่องช้า
2. **ยุคทองของโรคภัย:**
ภูมิต้านทานร่างกายที่อ่อนแอและแปรปรวน ทำให้ต่อต้านเชื้อโรคได้ยาก “เจ็บเล็กน้อยมีทุกวัน เจ็บหนักมาได้ทุกเวลา” กลายเป็นสภาพปกติ
3. **อุบัติเหตุคุกคาม:**
สมองตอบสนองช้า แขนขาคล่องแคล่วลดลง อาการวิงเวียน สำลัก ชนล้ม หรือพลัดตกหกล้ม อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ละครั้งล้วนนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่รับมือได้ยาก
4. **การสูญเสียและความโดดเดี่ยว:**
ต้องเผชิญความเจ็บปวดจากการสูญเสียเพื่อน ญาติ เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนรุ่นเดียวกัน วงสังคมหดแคบลง เพื่อนสนิทที่พูดคุยระบายใจมีน้อยลง ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวทวีคูณ
5. **การสูญเสียความสามารถขั้นรุนแรง:**
อันตรายยิ่งคือ บางคนอาจสูญเสียการได้ยิน ความจำ หรือแม้แต่ความสามารถในการดูแลตนเองขั้นพื้นฐาน ทำให้ทั้งต้องทนทุกข์จากการนอนติดเตียงยาวนาน และเป็นภาระหนักแก่ลูกหลาน
6. **ความไม่แน่นอนสูง:**
เหตุการณ์คาดเดาไม่ได้มากมายอาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจพลิกผันชีวิตบั้นปลายได้
**ความจริงอันโหดร้าย:**
“ชีวิตบั้นปลายของผู้ใดล้วนเผชิญพายุโหมกระหน่ำ” นี่ไม่ใช่คำกล่าวเกินจริง เพลงโบราณ “老来难” (ความยากลำบากยามแก่เฒ่า)บรรยายถึงความขมขื่นและอนาถใจของผู้สูงวัยได้อย่างถึงแก่น
**ข้อปฏิบัติบนเส้นทาง “มุ่งสู่แปดสิบ”:**
ในวัยชรานี้ เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมรุ่น และมิตรสหายมากมายต่างก็กำลังเดินบนเส้นทางอันยากลำบากนี้ไปสู่แปดสิบปีร่วมกัน จิตใจควรสงบเยือกเย็นขึ้น จิตวิญญาณสดชื่นขึ้น ไขว่คว้าน้อยลง มาตรฐานต่ำลง เคลื่อนไหวช้าลง แต่ก้าวอย่างมั่นคง ออกกำลังกายให้มากขึ้น รับประทานให้น้อยลง นี่คือหลักปฏิบัติที่เราควรยึดถือ
**ความหมายของแต่ละช่วงอายุ:**
* **ก้าวพ้นเจ็ดสิบ:** ผู้ที่สามารถก้าวข้ามยุคชราภาพ (เจ็ดสิบปี) มาสู่จุดเริ่มต้นของเส้นทาง “มุ่งสู่แปดสิบ” นับเป็นผู้โชคดีอย่างยิ่ง เพราะเพื่อนร่วมรุ่นกว่าครึ่งได้หลุดหายไปจากเส้นทางนี้แล้ว
* **วัยเจ็ดสิบห้า:** หากคุณมีอายุ **75 ปี** คุณคือผู้ชนะในชีวิต เพราะคุณได้ก้าวผ่านมาครึ่งหนึ่งของทศวรรษแห่งความยากลำบากที่สุดแล้ว เพื่อนร่วมรุ่นที่เหลือรอดมาเคียงข้างคุณมีไม่ถึงหนึ่งในสาม อายุขัยจริงของคุณได้บรรลุถึงค่าเฉลี่ยตามคาดหมายแล้ว ณ ป้ายหมายไมล์สำคัญนี้ คุณเพียงเงยหน้าขึ้นก็อาจแลเห็นป้ายชี้ทางสู่จุดสิ้นสุดของชีวิตได้อย่างเลือนราง
* **บรรลุแปดสิบปี:** หากคุณมุ่งมั่นจนบรรลุภารกิจ “มุ่งสู่แปดสิบ” ได้สำเร็จ คุณคือผู้พิชิตชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เพราะคุณได้มาถึงค่ายฐานของการปีนยอดเขาชีวิตแล้ว สามารถนอนพักทบทวนเส้นทางชีวิตที่ผ่านพายุฝนมาอย่างสงบ
**ชีวิตหลังจากนั้น:**
จากนี้ คุณอาจไม่แยแสเป้าหมายอันเลือนรางอย่างเก้าสิบหรือร้อยปีอีกต่อไป สามารถตัดสินใจเดินหน้าต่อหรือหยุดพักเมื่อใดก็ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ฟังตามแต่โชคชะตา
**ปรัชญาสุดท้าย:**
ในพจนานุกรมชีวิตของเรา คำว่า “เวลายังเหลืออีกยาวไกล” หาได้มีอีกไม่ สิ่งเดียวที่เราควบคุมได้คือ: **ไม่ต้องเสียใจกับวันวาน ไม่ต้องคาดหวังกับวันพรุ่ง จงทะนุถนอมวันนี้ ใช้ทุกวันในปัจจุบันให้ดีที่สุด**
บทความนี้ขอมอบให้แก่เพื่อนรักผู้กำลัง “มุ่งสู่แปดสิบ” ทุกท่าน!
V/S