วันพุธ, สิงหาคม 13, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกปกิณกะ“เงินเฟ้อทางการแพทย์” กำลังทำให้ค่ารักษาแพงกว่าผ่อนบ้านทั้งหลัง

“เงินเฟ้อทางการแพทย์” กำลังทำให้ค่ารักษาแพงกว่าผ่อนบ้านทั้งหลัง

เผยแพร่

spot_img

ทุกวันนี้คนเราวางแผนเรื่องเงินแทบทุกอย่าง ไม่ว่าอาจจะผ่อนบ้าน 20 ปี ผ่อนรถ 7 ปี และต้องลงทุนเก็บเงินเกษียณระยะยาว แต่กลับไม่มีแผนรับมือเรื่อง สุขภาพ ที่อาจ “พังทั้งชีวิต” แค่ครั้งเดียว เพราะ “ค่ารักษาพยาบาล” ตอนนี้ไม่ได้ขึ้นแค่ปีละนิดๆ แต่อยู่ภายใต้ เงินเฟ้อทางการแพทย์ (Medical Inflation) ที่โตเฉลี่ย 8-10% ต่อปี ซึ่งบอกเลยสูงกว่าเงินเฟ้อทั่วไปและรายได้หลายเท่า

แล้ว “เงินเฟ้อทางการแพทย์” (Medical Inflation) คืออะไร?

คือภาวะที่ ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นทุกปีในอัตราเฉลี่ย 8–10% ต่อปี ทั้งค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าห้อง หรือแม้แต่ค่าตรวจทั่วไปก็ปรับขึ้นตามต้นทุนของโรงพยาบาล เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำขึ้น และการใช้บุคลากรเฉพาะทางที่มีต้นทุนสูง เช่น ถ้าค่ารักษาวันนี้อยู่ที่ 100,000 บาท อีก 5 ปี อาจพุ่งไปแตะประมาณ 147,000–160,000 บาทได้ง่ายๆ ถ้าเราไม่เตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายมหาศาลจากการรักษาอาจกลายเป็นภาระที่ต้องแบกรับคนเดียว

รู้ไหม? ค่ารักษาพยาบาลโรคร้ายแรง พุ่งเกินล้านไปแล้ว!

ค่ารักษามะเร็งระยะลุกลาม : 800,000 – 2,000,000 บาท

ผ่าตัดหัวใจ/บายพาส : 500,000 – 1,200,000 บาท

ICU รพ.เอกชน : วันละ 30,000 – 60,000 บาท.

รวม 13 วิธีเตรียมตัว “ก่อนชีวิตจะสะดุด” จากเหตุไม่คาดฝัน

1. ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อย 1 ครั้ง : โรคร้ายอย่างมะเร็ง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ มักไม่แสดงอาการในช่วงแรก หากเจอเร็ว รักษาได้ง่ายและถูกกว่ามาก

2. บันทึกสุขภาพตัวเอง : เช่น น้ำหนัก อาการผิดปกติ หรือโรคประจำตัว ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้รวดเร็ว และติดตามอาการได้แม่นยำขึ้น

3. ศึกษาประวัติโรคในครอบครัว : เพราะโรคบางชนิดเช่นมะเร็ง/หัวใจ/ซึมเศร้า มีความเสี่ยงจากพันธุกรรม

4. ตรวจฟันปีละ 1-2 ครั้ง : สุขภาพช่องปากส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม การละเลยฟันอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด หรือหัวใจได้

5. วางแผนการกิน-การออกกำลังกาย ให้เหมาะกับวัย : โดยเฉพาะช่วงอายุ 30+ ที่ระบบเผาผลาญและกล้ามเนื้อเริ่มเสื่อมช้าลง ควรลดน้ำตาล เพิ่มโปรตีน และเสริมความแข็งแรง

6. อย่ามองข้ามอาการเล็กๆ น้อยๆ : เหนื่อยง่าย ใจสั่น เวียนหัว หรือผอมลงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนจากโรคเรื้อรัง

7. มีเงินสำรองขั้นต่ำ 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายประจำ : เพื่อรับมือเวลาป่วย หยุดงาน หรือรักษาที่ยังไม่เคลมได้

8. ทำบัญชีรายจ่าย และประเมินค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ : การเห็นภาพรวมของรายจ่ายจะช่วยให้วางแผนดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น

9. ทำประกันสุขภาพ + ประกันโรคร้ายแรง : ค่ารักษามะเร็งหรือโรคหัวใจอาจสูงหลักล้าน การมีประกันช่วยให้ไม่ต้องขายทรัพย์สินเพื่อรักษาตัว

10. อัปเดตทุนประกันให้ทันค่ารักษาปัจจุบัน : ทุนประกันที่ซื้อไว้หลายปีก่อน อาจไม่พอกับค่ารักษาที่พุ่งขึ้นจาก “เงินเฟ้อทางการแพทย์” ทุกปี

11. รู้สิทธิของตนเองในระบบสุขภาพ : ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม บัตรทอง หรือประกันเอกชน รู้ว่าใช้ที่ไหน อย่างไร จะช่วยลดความสับสนเวลาฉุกเฉิน

12. แจ้งญาติหรือคนไว้ใจให้เป็น “Contact ฉุกเฉิน” : และควรพกบัตรแสดงสิทธิการรักษา/โรคประจำตัว เผื่อกรณีหมดสติหรือพูดไม่ได้

13. มีสติ และกำลังใจเผื่อวันไม่คาดฝัน : สุขภาพจิตที่ดีคือพลังสำคัญในการฟื้นตัว และช่วยให้ตัดสินใจเรื่องการรักษาได้รอบคอบ

อย่าปล่อยให้ “เงินเฟ้อทางการแพทย์” ซัดชีวิตพังตอนป่วย แชร์โพสต์นี้ให้คนที่คุณห่วงใยได้เตรียมตัวทัน

ข้อมูลอ้างอิงจาก : Mercer Marsh Benefits – Medical Trends Report 2023 ,สมาคมประกันชีวิตไทย, โรงพยาบาลเอกชน ,efinance Thai

#Finstreet #เงินเฟ้อทางการแพทย์ #วางแผนสุขภาพ #ชีวิตไม่เป็นไปตามแผน

ข่าวล่าสุด

สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กำลังจะจัดคอนเสิร์ต”สุนทราภรณ์ รำลึก 115 ปี ชาตกาล ครูเอื้อ สุนทรสนาน”

สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กำลังจะจัดคอนเสิร์ต"สุนทราภรณ์ รำลึก 115 ปี ชาตกาล ครูเอื้อ สุนทรสนาน"

Ali and Nino – รักโลหะเคลื่อนไหวที่ชายหาด Batumi… และความลับในคืนที่ไฟดับ

Ali and Nino – รักโลหะเคลื่อนไหวที่ชายหาด Batumi… และความลับในคืนที่ไฟดับ คุณเคยเห็นหนุ่มสาวเปลือยร่างโผกอดกันยามตะวันตกดินไหม…? อยากไปดูไหมล่ะ….! ตามมากับผมก่อนก็ได้….!

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย เมื่อ กัมพูชายังแสดงพฤติกรรมปฏิเสธทุกเรื่องที่ตนก่อขึ้น ขณะ ไทยอดทนตีแผ่ความจริงท่ามกลางการรับรู้กว้างขวาง

ข่าวอื่นๆ

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปักกิ่งได้ให้ประโยค 5 ประโยคกับผู้สูงอายุคือ

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปักกิ่งได้ให้ประโยค 5 ประโยคกับผู้สูงอายุคือ : "โรค" หลายชนิดไม่ใช่โรค แต่เป็นการแก่ชราตามปกติ 1. คุณไม่ได้ป่วย คุณแก่แล้ว 2. "โรค" หลายชนิดที่คุณคิด เป็นสัญญาณที่บอกว่าร่างกายกำลังแก่ชรา

ที่มาของชื่อ “ปลาทู” ในประเทศไทย

ที่มาของชื่อ "ปลาทู" ในประเทศไทย ​ ชื่อ "ปลาทู" ในภาษาไทยนั้นมีที่มาจากภาษาโปรตุเกสว่า "Patudo" (ปาตูดู) ​ในอดีต โปรตุเกสเป็นชาติแรก ๆ ที่เข้ามาค้าขายและเผยแพร่วัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย เมื่อชาวโปรตุเกสได้พบกับปลาชนิดนี้ ซึ่งเป็นปลาเศรษฐกิจที่สำคัญในแถบนี้ จึงเรียกปลาชนิดนี้ตามภาษาของตนว่า "Patudo"