วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเมืองไทยวันนี้ถนนสามเสนยังน่าห่วง! พบน้ำซึม-ถนนบวมใกล้รัฐสภา ห่างจุดทรุดหน้า รพ.วชิรฯ 2 กม.

ถนนสามเสนยังน่าห่วง! พบน้ำซึม-ถนนบวมใกล้รัฐสภา ห่างจุดทรุดหน้า รพ.วชิรฯ 2 กม.

เผยแพร่

spot_img

วิกฤตถนนสามเสนลาม! ยังไม่ทันข้ามวัน พบถนนบวม-น้ำซึมจุดใหม่หน้าบุญรอดฯ ใกล้รัฐสภา ห่างจากหลุมยุบหน้าวชิรฯ แค่ 2 กม. ขณะที่นายกฯ คาดซ่อมใหญ่อุโมงค์รถไฟฟ้าอาจนานนับปี

สถานการณ์บนถนนสามเสนยังคงน่าเป็นห่วง เมื่อเช้าวันที่25 ก.ย. พบพื้นผิวจราจรบริเวณหน้าบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ซึ่งอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภา มีอาการบวมและมีน้ำซึมขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยหลุมยุบขนาดยักษ์หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลที่เกิดขึ้นเมื่อวะนที่ 24 กันยายน

ทีมข่าว “อัมรินทร์” รายงานว่าได้ตรวจพบความผิดปกติบนพื้นผิวจราจรบนถนนสามเสน บริเวณหน้าบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ห่างจากจุดที่เกิดเหตุถนนทรุดตัวครั้งใหญ่หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลประมาณ 2 กิโลเมตร

โดยพบว่ามีน้ำซึมออกมาจากพื้นถนนและมีลักษณะบวมนูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่จึงได้นำกรวยยางมาปิดกั้นพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้ประชาชนสัญจรเข้าไปในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดการทรุดตัวซ้ำ

เหตุการณ์ใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายน ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อถนนสามเสนบริเวณหน้าคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เกิดการทรุดตัวอย่างรุนแรง กลายเป็นหลุมขนาดมหึมา กว้างประมาณ 30×30 เมตร และลึกกว่า 50 เมตร ส่งผลให้การจราจรในบริเวณดังกล่าวเป็นอัมพาตโดยสิ้นเชิง เจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดการจราจรตั้งแต่แยกวชิระไปจนถึงสะพานกรุงธน และแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยเด็ดขาด

ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายและติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขในระยะยาวว่า จากการประเมินเบื้องต้น การซ่อมแซมโครงสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ดินที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดินไหลเข้าไปนั้น อาจต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการอย่างน้อย 1 ปี เนื่องจากเป็นงานที่มีความซับซ้อนทางด้านวิศวกรรมและต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ

สำหรับสาเหตุของการทรุดตัวในครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานได้ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าเกิดจากความผิดพลาดในการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน ประกอบกับท่อประปาขนาดใหญ่ใต้ดินเกิดการแตกรั่ว ส่งผลให้น้ำและดินทรายจำนวนมหาศาลไหลทะลักเข้าไปในอุโมงค์ ทำให้เกิดโพรงขนาดใหญ่ใต้ผิวถนนและนำมาซึ่งการทรุดตัวอย่างรุนแรงในที่สุด

ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า โดยการใช้กระสอบทรายขนาดใหญ่ (Big Bag) หลายหมื่นใบทุ่มลงไปในหลุมเพื่อเป็นการชะลอการทรุดตัวและรักษาเสถียรภาพของดินโดยรอบ พร้อมทั้งเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในจุดที่พบการซึมของน้ำล่าสุด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

ลิซ่า’ ทูตการท่องเที่ยว ตั้งเป้ารายได้เข้าไทยแสนล้าน ครม.เล็งออกแพคเกจกระตุ้น

ประเทศไทยเดินหน้ากระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ด้วยการแต่งตั้ง ลิซ่า ลลิษา มโนบาล เป็น อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์ หวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5-10 ล้านคน สร้างรายได้ 2.5-5 แสนล้านบาทในปี 256

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย เป็น ผู้ตรวจการแผ่นดิน คนใหม่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นั้น ต่อมา นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ ได้พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากลาออก เป็นเหตุให้ตำแหน่งว่างลง

มหาดไทยเสนอโยกย้าย“รองปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวง”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะนำเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยในตำแหน่ง “รองปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย” ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ