วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเมืองไทยวันนี้พลเอกณัฐพลยันมอบอำนาจ ผบ.เหล่าทัพ ตัดสินใจใช้กำลังตอบโต้กัมพูชาได้ทันที

พลเอกณัฐพลยันมอบอำนาจ ผบ.เหล่าทัพ ตัดสินใจใช้กำลังตอบโต้กัมพูชาได้ทันที

เผยแพร่

spot_img

“บิ๊กเล็ก” เผยร่างนโยบายชายแดนรัฐบาลใหม่อธิปไตยมาเป็นอันดับแรก มอบอำนาจให้ ผบ.ทสส.-ผบ.ทบ. แม่ทัพและ ผบ.กองกำลัง ตัดสินใจตามกฎใช้กำลังได้ ย้ำใต้เส้นแดงด้านหนองจานเป็นสิทธิ์ขาดของไทย เร่งถก RBC – GBCเคลียร์ปมด้านสระแก้ว งง “ฮุน มาเนต” ประท้วงไทย ถามกลับวางทุ่นระเบิด-รั้วลวดหนาม อันไหนแรงกว่ากัน

วันที่ 18 กันยายน 2568 – พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุปะทะที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ว่า แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ระดับที่ตนรับผิดชอบคือการเจรจา เริ่มจาก GBC ก่อน ในข้อ 4 ระบุไว้แล้วว่าให้บริหารจัดการพื้นที่ และผู้ว่าฯ ทั้ง 2 ฝ่ายคุยกัน และเมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 68) ที่ผู้ว่าฯสระแก้ว ไปคุยกับผู้ว่าบันเตียเมียนเจย ก็ยังไม่มีผลคืบหน้า ต้องรอรัฐบาล และเมื่อเกิดเหตุการณ์เมื่อวาน ในขั้นการประชุม ก็คงให้ประชุม RBC 

เมื่อเช้านี้ได้โทรไปคุยกับแม่ทัพภาคที่ 1 ให้เร่งประชุม RBC ถ้าไม่ได้ความชัดเจน คราวหน้าตนก็จะไปทวงในการประชุม GBC อีกครั้ง“ผมยืนยันว่า เราตกลงกันแล้ว โดยได้คุยกับ พลเอก เตีย เซยฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา แล้ว ว่าในพื้นที่ของฝ่ายไทย จะดำเนินการตามกฏหมายไทย”

เมื่อถามว่า เกิดเหตุการณ์เช่นนี้จะทำให้มีปัญหาดังกล่าวอีกหรือไม่ พลเอก ณัฐพลตอบว่า ถ้าเกิดก็ต้องเกิด เพราะมันเขตประเทศไทย และเราใช้กฎหมายไทยอยู่

 เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่ากัมพูชาปากว่าตาขยิบ พลเอก ณัฐพล ยอมรับว่า ก็คงอย่างนั้น พร้อมระบุว่าขณะนี้ ศบ.ทก. ที่ตั้งมาโดยรัฐบาลเก่ากำลังจะพ้นสภาพ ทำให้ความรับผิดชอบของตนเหลือความเป็นรัฐมนตรีกลาโหมอย่างเดียว เพราะฉะนั้นตนก็ต้องมองเรื่องความมั่นคงอย่างเดียว ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ ก็คงต้องรัฐบาลใหม่ที่จะว่ากัน

เมื่อถามว่า นโยบายใหม่ของรัฐบาลใหม่มีความชัดเจนเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนหรือไม่ พลเอก ณัฐพลตอบว่า ชัดเจน แต่ตัวลายลักษณ์อักษร อาจจะยังไม่เสร็จเรียบร้อยแต่ นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ย้ำว่าอธิปไตยต้องมาอันดับแรก

เมื่อถามว่า เวลาประชุม GBC มีการตอบรับจากกัมพูชาดี แต่ในขณะที่พื้นที่มีปัญหาหยุมหยิมตลอด พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ก็แบบที่เคยบอก คือดูคล้ายเขามีความตั้งใจที่จะเข้าสู่กระบวนการ แต่หน้างานก็เป็นแบบนี้ ทั้งพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 กองทัพภาคที่ 1 และด้านจันทบุรี-ตราด ซึ่งตนก็ย้ำอยู่เสมอว่า เจรจาก็ว่ากันไป ส่วนหน้างานก็ว่ากันไป ถ้าวันใดวันหนึ่ง ที่มารุกล้ำก็ต้องดำเนินการตามกฎการใช้กำลัง ตรงนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เราไม่ยอมแน่นอนในเรื่องเขตอธิปไตยของเรา

ถามว่า การที่บอกว่าดำเนินขั้นตอน ตามกฏหมาย คือจะมีการจับกุมดำเนินคดีด้วยหรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ถ้า มีการกระทำที่เกินกว่าเหตุมากกว่านี้ ก็ต้องมีการจับกุมบ้าง เพราะจากการสังเกตเมื่อวานนี้น่าจะเป็นการวางแผนไว้ของฝ่ายกัมพูชา พอมากระทำแล้ว วันรุ่งขึ้นก็มีหนังสือไปถึงประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่สอดรับกันมาก

“การที่นายกฯ กัมพูชา ไปประท้วงกับประเทศต่างๆ ว่าไทยกระทำต่อชาวกัมพูชา ซึ่งภาพต่างๆที่เกิดขึ้นอยากจะเรียนว่า 

1.หัวหน้าชุด IOT ของฝ่ายไทย ที่มาจากมาเลเซีย ได้กล่าวชมเชยไทยเมื่อวาน ว่าปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งเราต้องพยามทำตามขั้นตอนไว้ แต่สิ่งที่เกินกว่าเหตุก็สามารถข้ามขั้นตอนได้ 

2.การที่นายกฯ กัมพูชา ไปประท้วง ผมก็ไม่เข้าใจ ในขณะที่เราประท้วงกัมพูชาว่ามาวางกับระเบิดในพื้นที่ทัพภาค 2 กัมพูชากลับมาประท้วงไทยว่าวางรั้วลวดหนาม ซึ่งก็ต้องดูว่าอันไหนมันแรงกว่ากัน ตรงนี้ก็คงต้องทำความความเข้าใจกันต่อไป ปัจจุบันกระทรวงกลาโหมได้ประสานกระทรวงต่างประเทศ ให้ทำหนังสือประท้วงไปเช่นกัน”

เมื่อถามว่า ครบ 30 วันแล้ว เดทไลน์เขายังไม่ย้ายออกจากพื้นที่ จะต้องเข้าสู่กระบวนการ JBC ในเดือนพฤศจิกายนอีกรอบ จะล่าช้าหรือไม่ พลเอก ณัฐพล ตอบว่า มันยังมีการประชุม GBC คั่นกลางก่อน วันนั้นตนได้คุยกับ รมว.กลาโหมกัมพูชา ว่าในช่วงระหว่างนี้ให้ผู้ว่าฯ คุยกัน แต่ถ้าทำอะไรเกินกว่าเหตุ ไทยขอที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะนี่เป็นแผ่นดินไทยชัดเจน

“วันนั้นผมจำได้แม่นว่า ผมพูดกับพลเอก เตีย เซยฮา ว่า แม้ว่าเส้นเขตแดนจะไม่ชัดเจน แต่สื่อทุกสำนักทราบว่ามันมีเส้นน้ำเงิน เส้นแดง ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 เส้นก็เป็นที่รับทราบทั่วไปแล้ว ผมบอกเขาไปว่า ระหว่างเส้นน้ำเงินเส้นแดงไม่ว่ากัน รอ JBC แต่ใต้เส้นแดงมานี่คือของเขตของไทย ขอใช้กฎหมายไทย และเราก็คำนึงถึงมนุษยธรรมอยู่ว่าประชาชน 2 ฝ่ายในที่สุดก็ต้องอยู่ด้วยกัน ก็ต้องทำตามขั้นตอน แต่ถ้าเขาทำอะไรที่เกินกว่าเหตุ ทางฝ่ายปกครองและฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาไม่มาดูแล ไม่มาจัดการ ฝ่ายไทยก็ต้องข้ามขั้นตอนไปเหมือนกัน คงต้องทำเกินกว่าที่ตกลงกันไว้“

เมื่อถามว่า จะใช้โอกาสนี้ในการกระชับพื้นที่คืนหรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า อันนี้ไม่ขอบอก เพราะตนต้องระมัดระวังในการพูด เนื่องจากเป็นช่วงที่เป็น 2 สถานะคือ รักษาการรัฐบาลเก่า และตามสื่อก็อาจเป็นรัฐบาลใหม่ สถานะจึงยังไม่สามารถสั่งการอะไรได้ แต่ก็ได้คุยเป็นการส่วนตัวกับผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพที่ 1 ว่าขอให้ดำเนินการตามกรอบที่มีอยู่ เพราะเรามีกฏการใช้กำลังอยู่แล้ว ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง แม้ว่ารัฐบาลจะยังไม่สามารถดำเนินงานได้ตามกฎหมาย แต่กฎการใช้กำลังของกระทรวงกลาโหมมีอยู่แล้ว และมอบอำนาจให้ตั้งแต่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาค และ ผบ.กองกำลัง ทุกท่านมีอำนาจตัดสินใจได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการกระทำใดก็ตามที่ เป็นการล่วงล้ำอธิปไตย สามารถตัดสินใจได้ทันที

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

ลิซ่า’ ทูตการท่องเที่ยว ตั้งเป้ารายได้เข้าไทยแสนล้าน ครม.เล็งออกแพคเกจกระตุ้น

ประเทศไทยเดินหน้ากระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ด้วยการแต่งตั้ง ลิซ่า ลลิษา มโนบาล เป็น อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์ หวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5-10 ล้านคน สร้างรายได้ 2.5-5 แสนล้านบาทในปี 256

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย เป็น ผู้ตรวจการแผ่นดิน คนใหม่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นั้น ต่อมา นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ ได้พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากลาออก เป็นเหตุให้ตำแหน่งว่างลง

มหาดไทยเสนอโยกย้าย“รองปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวง”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะนำเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยในตำแหน่ง “รองปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย” ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ