ฎีกาที่ 4920/2567
“รับจ้างเปิดบัญชีม้า อ้างถูกหลอก ศาลฎีกาไม่ฟัง แม้อายุ 17 ก็ไม่รอด”
แค่รับจ้างเปิดบัญชี ไม่ได้ไปหลอกเงินใคร จะผิดได้ยังไง?
นี่คือคำถามที่หลายคนสงสัย วันนี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับล่าสุดมาเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดครับ คดีนี้จำเลยเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ได้รับเงิน 800 บาท เพื่อเปิด 2 บัญชีให้คนอื่น
ก่อนที่บัญชีนั้นจะถูกใช้เป็นเส้นทางโอนเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกไป 200,000 บาท แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะยกฟ้อง แต่ศาลฎีกากลับคำพิพากษา ทำไมศาลฎีกาถึงมองต่าง และคำพิพากษานี้จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่คนรับจ้างเปิดบัญชีต้องรู้ไว้อย่างไร? มาดูกันครับ
ศาลฎีกาวินิจฉัยได้น่าสนใจมากครับ แม้จะไม่มีหลักฐานว่าจำเลยเป็นคนส่งลิงก์ปลอมหรือร่วมในขบวนการหลอกลวงมาตั้งแต่ต้น แต่ศาลชี้ว่า การที่คนเรายอมรับเงิน เพื่อเปิดบัญชี แล้วมอบสมุดบัญชีให้คนอื่นไปใช้ ถือเป็นเรื่องผิดปกติวิสัยของคนทั่วไปอย่างยิ่ง
พฤติกรรมเช่นนี้แสดงให้เห็นเจตนาที่ไม่ดีอยู่ในตัว และย่อมเล็งเห็นได้ว่าบัญชีนั้นอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย การอ้างว่าถูกหลอก หรือ ไม่รู้เรื่อง จึงฟังไม่ขึ้น โดยเฉพาะเมื่อธนาคารก็มีป้ายเตือนอยู่แล้วว่าการกระทำลักษณะนี้ผิดกฎหมาย
ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการ “ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวก” แก่คนร้ายในการกระทำความผิด ศาลจึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ครับ
คำพิพากษานี้คือ สัญญาณเตือนที่ดังและชัดเจนที่สุดสำหรับทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนที่อาจ
มองเห็นเป็นช่องทางหารายได้ง่ายๆ ว่า ทันทีที่ได้รับเงินเพื่อเปิดบัญชีให้ใครก็ตาม จะมาอ้างว่าถูกหลอกไม่ได้อีกต่อไป เพราะคุณได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการอาชญากรรมไปแล้ว
การกระทำไปเพียงครั้งเดียว เพื่อเงินไม่กี่ร้อยบาท มันไม่ได้จบเพียงเท่านี้ แต่สร้างความเดือดร้อนให้สังคมอย่างมหาศาล ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียเงินเก็บทั้งชีวิต ทำให้ตำรวจตามจับตัวการใหญ่ได้ยากขึ้น และทำลายความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศ การอ้างว่าไม่รู้จึงไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่คือการไม่รับผิดชอบต่อสังคมอย่างร้ายแรง



