วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเมืองไทยวันนี้เดิมพันบนเส้นด้ายรัฐธรรมนูญ: ภารกิจ UN "สีหศักดิ์" บทพิสูจน์ความชอบธรรมรัฐบาลใหม่

เดิมพันบนเส้นด้ายรัฐธรรมนูญ: ภารกิจ UN “สีหศักดิ์” บทพิสูจน์ความชอบธรรมรัฐบาลใหม่

เผยแพร่

spot_img

การเดินทางเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ของนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กลายเป็นบททดสอบแรกที่สั่นคลอนความชอบธรรมของรัฐบาลชุดใหม่ทันทีที่เริ่มทำงาน เมื่อภารกิจเพื่อ “นำไทยกลับสู่จอเรดาร์โลก” เกิดขึ้นในช่วงสุญญากาศก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอย่างเป็นทางการ ก่อให้เกิดคำถามสำคัญว่า การกระทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติ สามารถอยู่เหนือหลักการที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญได้หรือไม่

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นในคืนวันที่ 25 กันยายน 2567 เมื่อนายสีหศักดิ์ออกเดินทางสู่นครนิวยอร์ก เพื่อปฏิบัติภารกิจในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมและความชอบด้วยกฎหมาย 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศได้เปิดเผยให้เห็นถึงเดิมพันสำคัญที่อยู่เบื้องหลังภารกิจครั้งนี้ โดย นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า การเดินทางครั้งนี้มีวาระเร่งด่วนที่รอไม่ได้ ทั้งการแสดงวิสัยทัศน์ของไทยต่อสถานการณ์โลกที่กำลังเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเมียนมา ยูเครน และตะวันออกกลาง และที่สำคัญที่สุด คือการใช้เวทีนี้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ประชาคมโลกได้รับฟังจากมุมมองของไทยโดยตรงเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ ตารางการหารือยังเต็มไปด้วยนัดหมายสำคัญกับบุคคลระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการสหประชาชาติ, ประธานคณะมนตรีความมั่นคง (รัสเซีย), ประธานอาเซียน (มาเลเซีย), ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยเมียนมา และการพบปะกับสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดการลงทุน ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึง “ความจำเป็น” ที่ฝ่ายรัฐบาลนำมาเป็นเหตุผลสนับสนุน

แม้ภารกิจจะเต็มไปด้วยผลประโยชน์ของชาติ แต่เงื่อนเวลาของการเดินทางกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ เมื่อเกิดขึ้นก่อนกำหนดการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 กันยายน ซึ่งขัดแย้งกับหลักการในรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า คณะรัฐมนตรีจะเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้ก็ต่อเมื่อได้แถลงนโยบายและได้รับความไว้วางใจจากรัฐสภาแล้วเท่านั้น

ช่องว่างทางกฎหมายนี้เองที่ทำให้นักกฎหมายและนักการเมืองออกมาตั้งคำถามถึงความชอบธรรม โดยเฉพาะ นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แสดงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ และอาจนำไปสู่การสิ้นสุดสถานะความเป็นรัฐมนตรีได้หากมีการยื่นร้องและศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิดจริง พร้อมเรียกร้องให้องค์กรอิสระอย่างผู้ตรวจการแผ่นดินเข้ามาตรวจสอบ

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงว่า ภารกิจนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนและจำเป็น โดยได้มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ซึ่งให้ความเห็นว่าสามารถเข้าร่วมได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติไม่ให้ขาดตอน

กรณีของนายสีหศักดิ์จึงเป็นการปะทะกันอย่างจังระหว่าง “ความจำเป็นของภารกิจระหว่างประเทศ” ที่รอไม่ได้ กับ “ความถูกต้องตามหลักการรัฐธรรมนูญ” ที่จะมองข้ามก็ไม่ได้เช่นกัน และได้กลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ยังไม่มีบรรทัดฐานใดมาเทียบเคียง บทสรุปของเรื่องนี้จึงเป็นมากกว่าแค่การปฏิบัติภารกิจทางการทูต แต่เป็นการเดิมพันครั้งสำคัญที่นำหลักนิติรัฐมาวางอยู่บนตาชั่งเดียวกับผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งไม่ว่าผลการวินิจฉัยในอนาคตจะออกมาเป็นเช่นไร กรณีนี้ก็ได้กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยแล้วอย่างแน่นอน

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

ลิซ่า’ ทูตการท่องเที่ยว ตั้งเป้ารายได้เข้าไทยแสนล้าน ครม.เล็งออกแพคเกจกระตุ้น

ประเทศไทยเดินหน้ากระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ด้วยการแต่งตั้ง ลิซ่า ลลิษา มโนบาล เป็น อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แอมบาสเดอร์ หวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5-10 ล้านคน สร้างรายได้ 2.5-5 แสนล้านบาทในปี 256

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย เป็น ผู้ตรวจการแผ่นดิน คนใหม่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นั้น ต่อมา นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ ได้พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากลาออก เป็นเหตุให้ตำแหน่งว่างลง

มหาดไทยเสนอโยกย้าย“รองปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวง”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะนำเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยในตำแหน่ง “รองปลัดกระทรวง-อธิบดี-ผู้ว่าราชการจังหวัด-ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย” ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ