วันเสาร์, ตุลาคม 18, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเรื่องสั้น”หนี..สุดชีวิต“

”หนี..สุดชีวิต“

เผยแพร่

spot_img

 ฝนกระหน่ำลงบนหลังคาสังกะสีเก่าของโกดังในเขตท่าเรือ เสียงดังราวกับใครเอาหมื่นมือมาตีกลองพร้อมกัน

                       กลิ่นคาวเหล็กผสมกับน้ำมันเครื่องเก่าอบอวลในอากาศ อุณหภูมิเย็นชื้นแผ่ซ่านไปทั่ว

                      พุ่งตัวเข้ามาในโกดัง หอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อม

                      เสียงรองเท้าบู๊ตกระทบพื้นคอนกรีตดังไล่หลัง    เหลือบไปเห็นชายสองคนวิ่งตามติดมา

           ยามนี้ …ไม่มีคนหวังดีแน่

                     หนึ่งร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง หน้าตาเคร่งขรึม อีกคนผอมสูง ดวงตากระสับกระส่ายไม่หยุด

             ชายร่างสูงมีอาการหอบ  เข้ามาใกล้ส่งเสียงกระซิบเร่ง 

           “หลบไปทางนี้ด้วยกัน….มันปิดด้านหน้าแล้ว“

หันขวับ   น้ำเสียงหวาด ๆ 

        “เดี๋ยวก่อน .….พวกนายเป็นใคร…ฉันไม่เกี่ยว”

         ชายผอมหันมาหัวเราะแห้ง เหงื่อไหลเต็มใบหน้า

                    “ตอนนี้เรือมันล่มไปแล้วเพื่อน… ว่ายด้วยกันเถอะ”

                        เขายังงง..แต่ก็ยอมทำตาม  พัยยังตามมาข้างหลังอีก   พลางวิ่งตามสองคนอย่างว่าง่าย

        ไฟนีออนเหนือศีรษะกะพริบถี่ เงาของทั้งสามทอดยาวบนพื้นซีเมนต์เปียกเป็นเส้นขาด ๆ

               แล้วเสียงก้าวเท้าหนัก ๆ พร้อมไฟฉายแรงสูงก็กวาดเข้ามาตามช่องว่างของลังไม้

                    “โป้ง..โป้ง..” 

             เสียงปืนดังสะท้อนในโกดัง เศษกระสุนกระเด็นไปกระแทกผนังโลหะประกายไฟวาบ

             พุ่งหลบหลังกองลังไม้สูง กลิ่นไม้ชื้นจากน้ำฝนผสมกลิ่นดินปืน

             ชายชุดดำคนหนึ่งโผล่มุมมา

                        ไม่คิดแม้เสี้ยววินาที    เขาคว้าแท่งเหล็กยาวข้างลังไม้ ฟาดเต็มแรงใส่มือที่ถือปืน

                        เสียงเหล็กกระทบกระดูกดัง “ปึ้ก!” ปืนร่วงกระแทกพื้น

               เขากัดฟันกรอด     “ฉันจะไม่ตายที่นี่!”

               เขากระแทกหัวไหล่ใส่ศัตรูจนล้ม เสียงลมหายใจอีกฝ่ายขาดห้วง

               ชายร่างสูงฉวยปืนที่ตกไว้ ยิงสวนใส่พวกชุดดำอีกสองคนที่พยายามล้อม เสียงกระสุนดังปะทะลังไม้ใกล้หู

                เลือดเริ่มไหลจากแผลที่แขน แต่เขาไม่หยุด ทุกก้าวคือการพาตัวเองให้ห่างจากความตาย

               เขาวิ่งเหยาะ ๆ ตามสองชายที่ไม่รู้จัก  ที่ยามนี้มันน่าปลอดภัยมากกว่าทำอย่างอื่น

               เขาคิดอย่างรวดเร็วว่า   ….

หนนี้คงเอาชีวิตมาทิ้งมากกว่าที่จะมาล่ารางวัลติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มค้าของเถื่อน

                      ทั้งสามวิ่งมาถึงระเบียงไม้แคบ ๆ ที่โยงไปยังโกดังอีกฝั่ง

                       แสงไฟจากท่าเรือวาบเข้าตา แต่ยังไม่ทันถึงที่หมาย ชายชุดดำอีกคนก็พุ่งเข้าขวาง

                       ท่อเหล็กในมือฟาดลงมาอย่างแรง  เขายกแขนขึ้นกัน แรงกระแทกทำให้แขนชา

                        เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายเหวี่ยงท่อเหล็กสวนใส่ท้องคู่ต่อสู้จนงอพับ แล้วใช้หัวเข่ากระแทกซ้ำจนอีกฝ่ายล้มลงไปกอง

             “วิ่งเร็ว…ก่อนมันจะปิดทางอีก”

ชายร่างสูง เสียงดังฝ่าฝน

                       เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งในความมืด

                       ชายผอมที่วิ่งตามหลังถูกยิงกลางหลัง ร่างเขากระแทกพื้นไม้ดัง “โครม” ก่อนนอนนิ่งไม่ไหวติง

        เขาชงัก…หันหลังจะกลับไปช่วย

                      เหลือบมองแต่ไม่อาจหยุด   เมื่อชายชึดดำหลายคนกำลังมาทางนี้

                     ใจหายเมื่อเห็นเลือดและความตายอยู่ข้างหน้า  

เขารู้ว่าหากหยุดแม้ครู่เดียวจะไม่มีโอกาสรอด

                     ชายร่างสูงดึงแขนเขาวิ่งต่อไป

                    แต่เพียงสิบก้าวต่อมา เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกนัด

ชายร่างสูงชะงัก ร่างโอนเอนก่อนจะทรุดลง เลือดไหลทะลุเสื้อสีดำเป็นดวงใหญ่

                   เขายืนอึ้งเพียงเสี้ยววินาที ก่อนกัดฟันวิ่งต่อเพียงลำพัง

         เหงื่อชุ่มหน้าและเนื้อตัว  หัวใจกำลังอ่อนเปลี้ย

                   เขาจะรอดไหม !

                     เสียงฝนซัดแรงขึ้น กลบเสียงฝีเท้าผู้ไล่ล่า

                     เขาหยุดหลังท่อน้ำติดด้านข้างโกดัง  ยืนหอบจนปอดแทบระเบิด เลือดอุ่น ๆ ซึมผ่านเสื้อ

                     เหลียวซ้ายหันขวา  ยังเงียบ….

                     แต่ความเงียบอาจเป็นกำดักให้เขาเข้าไปติดแล้วพบกับความตายก็ได้

                    ตัดสินใจวิ่งข้ามไปอีกโกดังที่มีไฟริบหรี่ด้านหน้า

มันอาจมีทางรอดไปจากที่นี่

                   ไม่มีเสียงด้านนี้…!

  เขาเริ่มเห็นแสงไฟจากโป๊ะไม้

       วิ่งถลาไปตรงเงามืดริมน้ำจนล้มลง

       เขาวิ่งตะคุ่ม ๆ ไปปลายโป๊ะ  ขณะได้ยินเสียงอยู่ตรงโกดังที่คงตามมาติด ๆ

                  ชายในเรืองัวเงียร้องเอะอะ. กำลังลุกขึ้นหันมามอง   เขารีบกระโจนลงเรือพุ่งเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงเหนี่ยวคอ สะบัดไปมา พลางตะโกนว่าเขาหนีมา เขาหนีมา

แล้วยื่นเงินที่มีให้ทันที

               “พี่ชาย…เร็วเข้า ช่วยผมด้วย  มันกำลังตามมาฆ่า”

เรือหางยาวติดเครื่องยนต์ทันที  เสียงน้ำแตกกระเซ็นเมื่อหัวเรือแล่นออกจากฝั่ง

           เสียงปืนหลายนัดยิงไล่หลังมาตกใกล้ ๆ น้ำกระเด็นจนต้องหลบ

           เสียงเครื่องยนต์เร่งสุดกำลังแหวกน้ำตีโค้งออกไปได้อย่างน่าหวาดเสียว

           เขาโผล่ศีรษะจากพื้นท้องเรือหันไปมอง   มันคงตามมาเล่นงานแน่

           เขายังไม่รู้จะให้หลบหนีไปทางไหนของท้องน้ำ

           มองไปทางโป๊ะท่าเรือ ตกใจกับเงาคนชุดดำยืนอยู่ไกล ๆ ริมน้ำ กำลังลงเรือมาเหมือนที่คิดไว้  

                  ชีวิตเขา…คงจบที่ผืนน้ำ

                  หน้าซีด ใจระทึก   ยกสองมือเหนือศีรษะหันมาไหว้ขอบคุณ พร้อมทั้งยกมือและพยักหน้าให้เร่งเครื่องอีก

                          ชายขับเรือก้มรับ  บิดคันเร่งก้มหัวลู่ลมเสียงกระหึ่มแรงขึ้น

                 จากนั้นเร่งเครื่องเต็มที่จนกลบเสียงคลื่นกระจายเป็นทางขาว

                          เขาใจชื้น เหลือบเห็นปืนวางข้างกราบเรือ 

 รีบหยิบมาถือให้กระชับ ส่ายไปทางคนขับเรือท่าทางตกใจ

                         แล้วหันหลังกลับไปทางฝั่ง ยกจ้องเรือกำลังบึ่งตามมาแล้วเหนี่ยวไกทันที

                       ”แชะ…..แชะ ะ ะ!“

พลางหันมาทางคนขับเรืออีกครั้ง ที่ก้มหน้าพูดโทรศัพท์เบา ๆ

                     ”หมูอยู่ในเล้าแล้วครับนาย   กำลังต้อนกลับ !“

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

ฟรันซ์ คาฟคา (Franz Kafka, ค.ศ. 1883–1924)

“เรื่องสั้น” เมื่อฟรันซ์ คาฟคา (Franz Kafka, ค.ศ. 1883–1924) อายุได้ 40 ปี เขายังไม่เคยแต่งงานและไม่มีบุตร วันหนึ่งเขาเดินเล่นอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่กรุงเบอร์ลิน และบังเอิญพบกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่กำลังร้องไห้ เพราะเธอทำ “ตุ๊กตาตัวโปรด” หาย

“รองเท้า..คู่นี้ !”

เรื่องสั้น “รองเท้า..คู่นี้ !” ฝนเทกระหน่ำตลอดคืน น้ำไหลเป็นลำยาวตามร่องถนน พื้นลื่นเป็นมัน เสียงหยดน้ำกระทบหลังคาและพื้นถนนดังไม่สม่ำเสมอ ชายหนุ่มส่งของวัยยี่สิบ ผมยาวสะพายกล่องเดินลัดซอยแคบที่เต็มไปด้วยกลิ่นขยะเหม็นฉุนกลับห้องพักเหมือนทุกคืน ฝนซาเม็ดกลับมีหมอกหนา เพ่งมองข้างหน้า เหมือนร่างชายชรา…กำลังลอยเข้าไปในกลุ่มควัน สองมือไขว่าคว้าตาจ้องมาอย่างวิงวอน….

เรื่องเล่าจากมุมมืด

เรื่องสั้น ขอเล่าเรื่องของเพื่อนให้ฟังครับ เรื่องเล่าจากมุมมืด มันเป็นอีกวันหนึ่งวัน ที่ผมเศร้าใจ.... ใครมีลูกมีหลาน ควรอ่านเรื่องนี้ไว้เป็นอุทธาหรณ์.