วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเศรษฐกิจ การเงินธปท.สั่งธนาคารพาณิชย์ ควบคุมการ'โอนเงิน-ชำระเงิน' ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน สกัดมิจฉาชีพหลอกโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

ธปท.สั่งธนาคารพาณิชย์ ควบคุมการ’โอนเงิน-ชำระเงิน’ ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน สกัดมิจฉาชีพหลอกโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

เผยแพร่

spot_img

นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงิน และคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ด้วยแนวโน้มการถูกมิจฉาชีพ หรือแก็งคอลเซนเตอร์ หลอกลวงให้โอนเงินต่างๆ ยังอยู่ระดับสูงเพื่อป้องกันความเสียหายจากการที่ประชาชนถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ ในการหลอกให้โอนเงินผ่านบัญชีม้า  ดังนั้นมาตรการที่ ธปท.จะทำในระยะข้างหน้าคือ การจำกัดความเสียหายจากการโอนเงิน ก่อนที่เหยื่อหรือผู้โอนจะรู้ตัว 

โดย ธปท. จะออกมาตรการ การจำกัดวงเงินการโอนเงิน หรือการชำระเงิน  

1. จำกัดไม่ให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ครั้งละจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว จะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะกักเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทัน 

2. จำกัดความเสียหายของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพ โดยธนาคารจะพิจารณากำหนดวงเงินการโอน และชำระเงินต่อวันให้เหมาะสมกับความเสี่ยง และพฤติกรรมการทำธุรกรรมในอดีตของลูกค้า โดยวงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน

โดยการจำกัดการโอนเงิน และการชำระเงินนั้น จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่นอายุเกิน 65 ปี และอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่จะจำกัดการโอนเงิน เพื่อช่วยปกป้องไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ หรือเมื่อตกเป็นเหยื่อ และมีการโอนเงินออกไปแล้ว ไม่ให้เสียหายมากเกินไป 

“ทั้งหมดคือ การดำเนินการจำกัดความเสี่ยงจากการโอนเงิน ก่อนที่เจ้าตัวจะรู้ว่าถูกหลอก เพราะบางครั้งเหยื่อรู้ตัวช้า การโอนเงินออกจากบัญชีม้าก็เสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้นมาตรการที่เราจะทำคือ มาตรการที่ออกมาขวางไม่ให้เงินมันออกไปได้ง่าย ตั้งแต่ที่เหยื่อยังไม่รู้ว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น ผ่านการกำหนดวงเงินการโอนเงินหรือการชำระเงินต่อวัน เพราะเราไม่ต้องการให้ระบบการเงินไทยของเราเป็นทางผ่านของเงินไปสู่มิจฉาชีพ”

ทั้งนี้ การจำกัดหรือกำหนดการโอนเงิน หรือชำระเงินต่อวันลดลง สำหรับลูกค้าบางคน จะต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม และการทำธุรกรรมของลูกค้าแต่ละคนด้วย และการจะไปกำหนดวงเงินไม่ให้ออกจากบัญชีเกิน 5 หมื่นบาท เป็นสิ่งสำคัญมาก ที่แบงก์ต้องดูตามความเหมาะสม

เช่น หากเป็นลูกค้าที่ไม่เคยเปิดบัญชีมาก่อน กลุ่มนี้แบงก์อาจกำหนดการโอนเงินขั้นต่ำไว้ก่อนที่ไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวันสำหรับทุกกลุ่ม แต่หากเขาใช้ไปสักพัก และแบงก์มองว่าเป็นลูกค้าปกติ อาจให้กลุ่มนี้ออกจากกลุ่มเสี่ยงที่ต้องสงสัยได้ แล้วอาจกำหนดวงเงินขึ้นไปเพิ่มเติมได้ 

หากเป็นลูกค้ากลุ่ม M หรือ L การโอนเงินออก ก็อาจทำได้มากกว่าขั้นต่ำที่ ธปท.กำหนดไว้ได้ เช่นอาจมากกว่า 2 แสนบาทเป็นต้น

สำหรับการลดวงเงินการโอนเงินนั้น ธนาคารจะเป็นผู้แจ้งให้กับลูกค้ารับทราบล่วงหน้า ซึ่งการกำหนดวงเงินการโอน และชำระเงินจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแบงก์ที่จะพิจารณา โดยดูจากพฤติกรรม และการทำธุรกรรมการเงินในอดีต 

ทั้งนี้ ธปท.ก็ตระหนักว่าธุรกรรมดังกล่าว อาจกระทบต่อการทำธุรกรรมสำหรับลูกค้าบางคน หรือบางกลุ่มได้ ดังนั้นการกำหนดวงเงินการโอนเงิน จะขึ้นอยู่การพิจารณาของแบงก์ โดยดูจากพฤติกรรม และธุรกรรมการเงินในอดีตร่วมด้วย

หากเป็นคนที่เคยโอนเงินปกติในระดับดังกล่าว แบงก์ก็อาจขยายวงเงินการโอนเงินเพิ่มขึ้นได้ โดยอาจไม่ต้องโทรศัพท์หาคอลเซนเตอร์ หรือขอเอกสารเพิ่มเติม แต่บางกลุ่มที่ต้องการขยายวงเงินจากวงเงินขั้นต่ำที่กำหนด อาจต้องมีการติดต่อคอลเซนเตอร์เพื่อขยายวงเงินชั่วคราว หรือแบงก์อาจขอเอกสารเพิ่มเติม ถึงความจำเป็นในการโอนเงินได้ 

“มาตรการนี้เราก็ตระหนัก และไม่ให้กระทบลูกค้าดีมากเกินไป ดังนั้น ธปท.จึงกำหนดมาตรการดังกล่าวสำหรับลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปี 2568 แต่สำหรับลูกค้าใหม่ มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ทันที เพื่อคุ้มครองลูกค้าได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ทั้งหมดนี้หากธนาคารใดมีความพร้อมสามารถดำเนินมาตรการดังกล่าวได้ทันที” 

สำหรับแนวโน้มการถูกทุจริตการเงิน พบว่า ความเสียหายจากการถูกหลอกโอนเงินยังอยู่ระดับสูง โดยยังไม่ได้ลดลงหากเทียบกับอดีต โดยเฉพาะการถูกหลอกให้โอนเงินให้มิจฉาชีพเอง ที่พบว่าความเสียหาย ในไตรมาสที่ 2 ยังอยู่ระดับสูงที่ 6,000 ล้านบาท เฉลี่ย 2,000 ล้านต่อเดือน ลดลงจากไตรมาส 2/2567 มีมูลค่าความเสียหาย 8,590 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ณ เดือนกรกฎาคม 2568 สามารถระงับบัญชี 3 ล้านบัญชี คิดเป็นรายชื่อม้า 1.77 แสนรายชื่อ  

ทั้งนี้ หากดูข้อมูลความเสียหายจากการหลอกลวงในเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนความเสียหาย 24,500 เคส ความเสียหายรวม 2,800 ล้านบาท เฉลี่ย 114,000 บาทต่อเคส

โดยยอดโอนเงินสูงสุดอยู่ที่ 4.9 ล้านบาท และหากดูธุรกรรมที่เหยื่อโอนเข้าบัญชีม้ามูลค่าสูงกว่า 5 หมื่นบาท โอนเงินภายใน 3 นาที ประมาณ 50% ของมูลค่าความเสียหาย โดยที่เหยื่อจะแจ้งข้อมูลเข้าระบบภายใน 19-25 ชั่วโมง

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

“นายกฯอนุทิน” นำทีม “รมต.เศรษฐกิจ” พบสภาหอฯ “พจน์” ชง 7 เสาหลักฟื้น ศก. ควบคู่มาตรการเร่งด่วน

รายงานข่าวแจ้งว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง, นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่ รมว.พลังงาน, นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ว่าที่ รมว.พาณิชย์, นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช.คลัง พร้อมคณะฯ ได้เดินทางมายังสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อหารือกับ นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานสภาหอการค้าไทย และคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

แฉเหตุทองคำหลั่งไหลสู่กัมพูชา เป็นการเก็บสมบัติสุดท้ายของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

สื่อจีนเปิดโปงเครือข่ายลักลอบทองคำที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลราวกับหนังอาชญากรรมข้ามชาติ—ทองคำแท่งนับสิบกิโลกรัมถูกซุกซ่อนในประตูโลหะผสมตะกั่วขนาดมหึมา ก่อนถูกลำเลียงออกนอกประเทศไปยังกัมพูชา

ปีทอง อสังหาฯเกาะสมุย เปิดขายใหม่มากสุดในรอบ 15 ปี

จังหวัดภาคใต้ยังคงเป็นทำเลทองของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวระดับโลก จึงเป็นแรงส่งต่อตลาดวิลล่าและคอนโดมิเนียมหรูเปิดขายคึกคัก รวมถึง “เกาะสมุย” ที่ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนให้ความสนใจ โดยเฉพาะตลาดคอนโดและบ้านพักตากอากาศระดับกลางถึงบน ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว