ผ่าอาณาจักร ‘แก๊งไอติม’ หลังม่าน ‘เพื่อไทย’ กวาดงาน ททท. 270 ล้าน

แม้ว่า “แพทองธาร ชินวัตร” จะพ้นเก้าอี้นายกฯคนที่ 31 ไปแล้ว แต่เรื่องราว “ภายใน” ของ “รัฐบาลเพื่อไทย” ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง มีการโฟกัสไปที่ “แก๊งไอติม” บรรดา “เพื่อนอุ๊งอิ๊ง” ที่เข้าไปแทรกกลาง 

“นักรบห้องแอร์” คอยประคับประคองสถานะ 2 นายกฯของ “เพื่อไทย” มาตั้งแต่ปี 2566 

เฟซบุ๊กแฟนเพจ CSI LA ซึ่งเป็นแฟนเพจที่เน้นการตรวจสอบภาครัฐ อ้างว่าในเครือข่าย “คนรุ่นใหม่” ของเพื่อไทย ซึ่งมี “เอิง” คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เพื่อนสนิท “แพทองธาร” และ “ปอ ปิฎก สุขสวัสดิ์” สามี เป็นแกนกลาง เข้าไปรับงานภาครัฐ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จำนวนไม่น้อยเลยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

เครือข่าย “แก๊งไอติม” ในเพื่อไทยที่ CSI LA อ้างถึงปรากฏชื่อ “คณาพจน์ โจมฤทธิ์” คณะทำงานของนายกฯ และ Personal Assistance นายกฯ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ททท. เป็นแกนกลาง ล้อมด้วยดารา-อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจำนวนหนึ่ง เช่น “บอส” จักรพันธุ์ วงศ์คณิต เจ้าของช่อง Sneak Out “ไมเคิล” เกษมศักดิ์ ศิริรักษ์ เจ้าของธุรกิจ MOVF Media “ภูมิ นวสิทธิโสภณ” เจ้าของธุรกิจนำเที่ยว/ร้านอาหาร และ “ลูกเอ้ย” ปัณณ์ชลิตา ตั้งทวีสิทธิ์ เจ้าของธุรกิจนำเที่ยว “ซันนี่ ซันฟลาวเวอร์” เป็นต้น

อย่างไรก็ดีข้อเท็จจริงเหล่านี้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ให้สัมภาษณ์เมื่อ 10 ก.ย.2568 ถึงกรณีที่เพจ CSI LA ออกมาแฉเครือข่ายก๊วนเดียวกันของน.ส.แพทองธาร ที่ใช้การเมือง-ธุรกิจ-โปรเจกต์รัฐ หมุนหาผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคนใกล้ชิดของน.ส.แพทองธาร พร้อมปรากฏชื่อนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และนายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานของน.ส.แพทองธาร นั้น 

ภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ก็พูดยากว่าใครใกล้ตัวขนาดไหน แต่เป็นสิ่งที่กระบวนการยุติธรรมต้องดำเนินการ และคิดว่าจะแจ้งชัดก็ต่อเมื่อทุกอย่างชัดเจน แต่มองว่าไม่เป็นไร เพราะเราเป็นนักการเมืองเราพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า “แก๊งไอติม” ข้างต้น เปิดบริษัททำธุรกิจด้านนำเที่ยว-โฆษณา และมีบางแห่งเข้าไปรับงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หากโฟกัสเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า เป็นคู่สัญญากว่า 270 ล้านบาท

เพื่อขยายความให้ชัดขึ้น กรุงเทพธุรกิจ ตรวจสอบฐานธุรกิจ-ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ “แก๊งไอติม” แห่งเพื่อไทย มาให้ทราบเบื้องต้น ดังนี้

 “เอิง” คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ททท. และมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล “ยังบลัด” ภายในพรรคเพื่อไทย โดยมีหลายโปรเจกต์ที่ปั้นคนรุ่นใหม่ภายใต้การกำกับดูแลของเขา เช่น The Change Maker อีกสถานะหนึ่งเขาคือ “เพื่อนสนิท” ของ “ปอ ปิฎก” และ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” โดยว่ากันว่าเขาคือ “โซ่ข้อกลาง” ที่ทำให้ทั้งคู่มาเจอ และพบรักกัน

ในมุมธุรกิจ “เอิง คณาพจน์” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 5 แห่ง ได้แก่

1.บริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ทำธุรกิจเป็นตัวแทนกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยบริษัทนี้ร่วมกันก่อตั้งขึ้นกับ “ก๊วนลูกหลานในเพื่อไทย” มีกรรมการ 4 คน คณาพจน์ โจมฤทธิ์ ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ (แซน บุตรสาวเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวทักษิณ ชินวัตร) ฤภพ ชินวัตร (บุตรชาย พายัพ ชินวัตร น้องชายทักษิณ) ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช (บุตรชาย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช แกนนำพรรคเพื่อไทย) ที่น่าสนใจบริษัทแห่งนี้แจ้งมีรายได้ล่าสุดปี 2567 แค่ 342 บาท ขาดทุนสุทธิ 529,760 บาท ทั้งที่มีสินทรัพย์กว่า 4,732,086 บาท

2.บริษัท เดอะ ฟู้ด โปรเจ็คท์ (ประเทศไทย) จำกัด ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เป็นธุรกิจใน “ตระกูลโจมฤทธิ์” ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มทุกประเภท แจ้งรายได้รายได้ล่าสุดปี 2567 จำนวน 23 บาท ขาดทุนสุทธิ์ 308,400 บาท มีสินทรัพย์รวม 3,320,625 บาท

3.บริษัท โกลบอล แอคเคาน์ติ้ง แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ธุรกิจในตระกูลโจมฤทธิ์อีกเช่นกัน ทำธุรกิจ ให้บริการวิชาชีพกฎหมาย แจ้งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 1,868,436 บาท กำไรสุทธิ 109,735 บาท สินทรัพย์รวม 1,498,923 บาท

4.บริษัท โกลบอล โฮลดิ้งส์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท บายฟอร์มี (ประเทศไทย) จำกัด) ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ธุรกิจในตระกูลโจมฤทธิ์อีกแห่ง ทำธุรกิจ ให้บริการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน แจ้งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 1.2 แสนบาท กำไรสุทธิ 10,146 บาท สินทรัพย์รวม 282,686 บาท

5.บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน และกลั่นปิโตรเลียม โดย “เอิง คณาพจน์” ถูกตั้งเป็น กรรมการอิสระ และกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน IRPC เมื่อ 21 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา (หลังแพทองธารเป็นนายกฯราว 5 วัน)

“ภูมิ นวสิทธิโสภณ” ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของ “อุ๊งอิ๊ง-เอิง” ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นกรรมการอย่างน้อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท 307 โฟลทเฮ้าส์ จำกัด ธุรกิจนำเที่ยว บริษัท กินดื่มชิลล์ จำกัด ธุรกิจร้านอาหาร (ปัจจุบันถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง) บริษัท มิสท์ แด๊ดดี้ จำกัด (ปัจจุบันถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง) และบริษัท ไดรฟ์ ดิจิทัล จำกัด ธุรกิจโฆษณา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในช่วงเวลานี้

จากฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พบว่า บริษัท ไดรฟ์ ดิจิทัล จำกัด เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐไม่ต่ำกว่า 43 โครงการ ระหว่างปีงบประมาณ 2564-2567 รวมวงเงินกว่า 359.65 ล้านบาท

แต่ถ้าโฟกัสเฉพาะปีงบประมาณ 2567 เป็นต้นมา (ตั้งแต่ ต.ค. 2566 ในยุครัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน จนถึงรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร) พบว่า เป็นคู่สัญญารัฐกับ ททท. 13 โครงการ 215.42 ล้านบาท

ส่วนในปีงบประมาณ 2568 (ตั้งแต่ ต.ค. 2567 ในยุครัฐบาลแพทองธาร) เป็นคู่สัญญา ททท. 5 โครงการ รวมวงเงิน 16.06 ล้านบาท

ถัดมา “ไมเคิล” เกษมศักดิ์ ศิริรักษ์ ถูกระบุว่าเป็น “เพื่อนสนิท” กลุ่มเดียวกับ “ภูมิ-บอส จักรพันธุ์” โดยเขาอยู่ในแวดวงธุรกิจสื่อบันเทิงมาก่อนในชื่อ MOVF Media ปัจจุบันกุมบังเหียนบริษัท เทเบิ้ลทอล์ก จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท มูฟฟ์ โซลูชั่น จำกัด) โดยบริษัทแห่งนี้ แจ้งประกอบธุรกิจด้านโฆษณา มี “ไมเคิล เกษมศักดิ์” เป็นกรรมการ และมี พล.ต.ต.หญิง วัลลภา ศิริรักษ์ ซึ่งถูกอ้างว่าเป็น “มารดา” ถือหุ้น นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 26,249,338 บาท กำไรสุทธิ 2,779,226 บาท สินทรัพย์รวม 29,615,090 บาท โดยบริษัทแห่งนี้เมื่อครั้งใช้ชื่อเดิม “มูฟฟ์ โซลูชั่น” เป็นคู่สัญญากับ ททท.ในปีงบประมาณ 2564 อย่างน้อย 2 โครงการ รวมวงเงิน 4.42 ล้านบาท

อีกแห่งบริษัท มูฟฟ์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (ชื่อเดิมบริษัท สตาร์ฟวิงไทม์ จำกัด) ธุรกิจด้านโฆษณา มี พล.ต.ต.หญิง วัลลภา ศิริรักษ์ เป็นกรรมการ และถือหุ้น นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 71,501,705 บาท กำไรสุทธิ 1,583,370 บาท สินทรัพย์รวม 65,041,383 บาท 

บริษัทแห่งนี้ เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐระหว่างปีงบประมาณ 2562-2568 อย่างน้อย 5 โครงการ รวมวงเงิน 13.80 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในระหว่างปี 2562-2567 นั้น เป็นคู่สัญญากับ ปตท. และกรมควบคุมโรค ซึ่งมูลค่าสัญญาแค่หลักเฉียดแสนบาท ถึง 5 แสนบาทเศษเท่านั้น 

ทว่า ในปี 2568 เป็นคู่สัญญารัฐกับ ททท. จ้างจัดกิจกรรม Amazing Thai Taste Festival จังหวัดเพชรบุรีแบบคืนวัสดุพร้อมรื้อถอน โดยวิธีคัดเลือก มูลค่า 12.90 ล้านบาท ลงนามเมื่อ 4 ก.ค. 2568

ต่อมา “บอส” จักรพันธุ์ วงศ์คณิต ดารานักแสดง และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในช่อง Sneak Out ถูกอ้างว่าเขาทำงานอยู่ในโปรเจกต์ต่าง ๆ ของ ททท. และเป็นเพื่อนสนิทกับ “ภูมิ-ไมเคิล”  เขาเป็นกรรมการบริษัท พีบีเอ็ม โซลูชั่น จำกัด ธุรกิจด้านการจัดการประชุม นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 28,729,353 บาท กำไรสุทธิ 1,700,295 บาท สินทรัพย์รวม 9,269,810 บาท

บริษัทแห่งนี้เป็นคู่สัญญากับภาครัฐระหว่างปีงบประมาณ 2566-2568 อย่างน้อย 5 โครงการ รวมวงเงิน 18.10 ล้านบาท โดยเป็นคู่สัญญากับ ททท. 4 โครงการ อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้เป็นคู่สัญญาในส่วนของการจัดทำของที่ระลึก เช่นกระเป๋าผ้า และเข็มกลัด วงเงินหลักล้านบาทเท่านั้น ทว่าเมื่อ เม.ย. 2568 มีการจ้างจัดกิจกรรม Music and Mutelu Festival แบบคืนวัสดุพร้อมรื้อถอน โดยวิธีคัดเลือก ด้วยวงเงิน 10.85 ล้านบาท ทำสัญญาเมื่อ 10 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา

รายสุดท้ายที่ถูกพาดพิงถึงคือ “ลูกเอ้ย Sunny Sunflower” หรือชื่อจริง ปัณณ์ชลิตา ตั้งทวีสิทธิ์ เธอถูกอ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทของ “แพทองธาร” เคยโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียใกล้ชิดนายกฯในหลายงาน เธอคือเจ้าของบริษัท ซันนี่ ซันฟลาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ธุรกิจจัดนำเที่ยว นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 189,465,410 บาท กำไรสุทธิ 1,037,557 บาท สินทรัพย์รวม 55,306,321 บาท อย่างไรก็ดีไม่ปรากฎในฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐว่าบริษัทแห่งนี้เป็นคู่สัญญาหน่วยงานใดบ้าง

ทั้งหมดคือข้อมูลเกี่ยวกับ “แก๊งไอติม” กลุ่มเพื่อนสนิท “แพทองธาร-ปอ ปิฎก” ที่มีบทบาทหลังม่านแห่ง “เพื่อไทย” อย่างไรก็ดีบุคคลทั้งหมด ยังมิได้ถูกหน่วยงานรัฐเข้าไปตรวจสอบ หรือตั้งข้อกล่าวหาในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐแต่อย่างใด ดังนั้นจึงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่