วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHT โศกนาฏกรรม "ถนนสามเสน" อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เผยแพร่

spot_img

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

                       ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่าจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงใต้ “สถานีวชิรพยาบาล” แต่คำถามสำคัญคืออะไรคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมนี้  

                      จากรายการ “โหนกระแส” ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมอุโมงค์ และธรณีวิทยามาวิเคราะห์ถึงสาเหตุ และชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์นี้คืออุทาหรณ์สำคัญด้านความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินของเมือง

                      จากข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญในรายการฯ ทั้ง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และ รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก ได้ชี้ให้เห็นถึง “รอยต่อ” หรือ “ข้อต่อ” ระหว่างอุโมงค์รถไฟฟ้ากับตัวกล่องสถานีว่าเป็นจุดที่เปราะบางที่สุดในทางวิศวกรรม การก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินขนาดใหญ่ในเมืองที่มีสภาพชั้นดินอ่อนนิ่มและมีน้ำในปริมาณมากอย่างกรุงเทพฯ นั้นมีความเสี่ยงสูงโดยธรรมชาติ และจุดเชื่อมต่อดังกล่าวคือจุดที่ยากที่สุดในการทำให้แน่นหนา 100% แม้จะมีการใช้เทคโนโลยีการซีลกันน้ำที่ทันสมัยก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อสรุปว่าเมื่อเกิดการทรุดตัวในลักษณะโพรงลึกเช่นนี้ เกือบทุกกรณีที่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศ ความเสียหายมักเริ่มต้นจากความล้มเหลว ณ จุดเชื่อมต่อนี้เป็นสำคัญ

                           สมมติฐานดังกล่าวได้รับการสนับสนุนด้วยหลักฐานที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ คือภาพน้ำจำนวนมากที่เอ่อล้นขึ้นมา ก่อนที่พื้นถนนจะถล่มลง ซึ่งบ่งชี้ว่า ระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน โดยเฉพาะท่อประปาขนาดใหญ่ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และการรั่วไหลของน้ำปริมาณมหาศาลนี้เองที่ได้ซึมเข้าสู่ชั้นดินรอบๆ บริเวณก่อสร้าง ทำให้ดินเสียเสถียรภาพและเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวคล้ายโคลน เมื่อจุดเชื่อมต่อระหว่างอุโมงค์กับสถานีเริ่มรั่วหรือทรุดตัว ดินเหล่านั้นจึงถูกดูดเข้าไปในตัวสถานี (Station Box) ซึ่งเป็นโพรงขนาดใหญ่ ทำให้มวลดินที่เคยรองรับน้ำหนักของถนนหายไป และส่งผลให้พื้นผิวจราจรด้านบนพังทลายลงมาเป็นหลุมลึกในที่สุด

                          เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพียงแค่ความเสียหายทางกายภาพ แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนภัยที่สำคัญสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในกรุงเทพฯ ซึ่งเต็มไปด้วยโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และซับซ้อนใต้ดินอีกหลายโครงการในอนาคต 

                           การสร้างความมั่นใจให้กับสาธารณะว่าโครงการเหล่านี้จะมีความปลอดภัยสูงสุดจึงเป็นเรื่องจำเป็นอันดับแรก การดำเนินการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ การเร่งซ่อมแซม และการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยหน่วยงานผู้รับผิดชอบอย่าง รฟม. และบริษัทผู้รับเหมาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นที่สูญเสียไป และเพื่อเป็นบทเรียนราคาแพงในการวางมาตรการด้านความปลอดภัยที่รัดกุมกว่าที่เคยมีมา เพื่อป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

อนุทินแข็งกร้าว! สั่งระงับสันติภาพไทย-กัมพูชา ปิดด่าน 100%

หลังทหารเหยียบทุ่นระเบิดซ้ำ ชี้ความเป็นปรปักษ์ยังไม่สิ้นสุด ส่อขัดอนุสัญญาเจนีวา                           ท่าทีแข็งกร้าวที่สุดในรอบปี ถูกประกาศโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทยในวันนี้ โดยมีการสั่งระงับ "ปฏิญญาสันติภาพ" ร่วมกับกัมพูชาทันที พร้อมทั้งสั่งปิดด่านชายแดนทุกจุด 100% หลังเกิดเหตุการณ์ทหารไทยสังกัดกองทัพภาคที่ 2 เหยียบทุ่นระเบิดซ้ำบริเวณชายแดนจังหวัดศรีสะเกษจนได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งที่...

อนุทิน ประกาศ 8 ข้อ เกมการเมืองที่ประชาชนไม่ได้เกี่ยวข้อง

นายกรัฐมนตรีเร่งแถลง “8 ข้อสำคัญ” เพื่อสร้างความมั่นใจทางการเมือง ท่ามกลางแรงกดดันภายในและกระแสข่าวยุบสภา