วันพุธ, สิงหาคม 13, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHT“กับระเบิดฝังใหม่กับความจริงที่ต้องพูด”

“กับระเบิดฝังใหม่กับความจริงที่ต้องพูด”

เผยแพร่

spot_img

เหตุการณ์ทหารไทยขาขาดจากกับระเบิดในพื้นที่ชายแดนด้าน จว.สระแก้ว ไม่ใช่เพียงข่าวร้ายรายวัน ในสื่อต่าง ๆ อีกต่อไปแล้ว แต่นั่นคือ “จุดระเบิด” ทางการทูตที่ประเทศไทยไม่อาจเงียบเฉยได้อีก

หลังจากมีการตรวจสอบพื้นที่โดยหน่วยงานความมั่นคงของไทย พบว่ากับระเบิดที่ทําให้ทหารต้องสูญเสียอวัยวะ ไม่ใช่ของเก่าตกค้างจากสงคราม แต่ถูกฝังใหม่อย่างชัดเจน ซ่ึงขัดต่อหลักมนุษยธรรมและอนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

กระทรวงการต่างประเทศของไทยจึงได้แสดงจุดยืนที่เด็ดขาด ด้วยการเชิญทูตทหารและผู้แทนการทูตของประเทศต่างๆ ที่มีสถานะในไทยมารับฟังข้อเท็จจริงและร่วมกันประณามการกระทําที่ฝ่าฝืน อนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีเป้าหมายในการห้ามผลิต, ใช้, โอน หรือสะสมกับระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mines) อย่างเป็นระบบ

อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) เป็ นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลบังคับใช้ในปี 1999 มีประเทศภาคีมากกว่า 160 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยกําหนดห้ามการใช้ การผลิต การสะสม และการโอน กับระเบิดสังหารบุคคล พร้อมท้ังกําหนดให้แต่ละประเทศต้องทําลายกับระเบิดท่ีมีอยู่ และจัดการพื้นที่ปนเปื้อนให้สิ้น ซากภายในระยะเวลาที่กําหนด

การที่กับระเบิดถูกนํามาใช้ใหม่ในปี 2025 จึงเป็นการละเมิดอนุสัญญานี้อย่างชัดแจ้ง นําไปสู่คําถามสําคัญว่า “ใคร” คือผู้รับผิดชอบ และ “อะไร” คือคําตอบของกระบวนการยุติธรรมในระดับนานาชาติ

แน่นอนว่า ประเทศไทยในฐานะภาคีอนุสัญญาและผู้เสียหายโดยตรง มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในการแสดง ท่าทีทางการทูตอย่างแข็งขัน และสามารถดําเนินการตามช่องทางของสหประชาชาติหรือกลไกความม่ ันคงภูมิภาค ได้โดยชอบธรรม

ฝ่ายความม่ ันคงของไทยในหลายระดับ ได้แสดงจุดยืนร่วมกันว่าเหตุการณ์นี้ไม่สามารถเพิกเฉยได้ และต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดท้ังทางการทูตและทางยุทธศาสตร์

แม้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะต้องดําเนินไปด้วยความยับย้ังชั่งใจ  ด้วยมิตรไมตรีของประเทศ ที่มีชายแดนต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน การปกป้ องอธิปไตยและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนก็เป็นภารกิจที่ไม่อาจประนีประนอมได้เช่นกัน ท่ามกลางเสียงประณามของคนรอบทิศ และวิพากษ์วิจารณ์ของหลายประเทศไทยยังยํ้าความจําเป็น ในการดํารงสัมพันธภาพทางการทูตในระดับ “สร้างสรรค์” และ “รักษาเสถียรภาพ” ตามครรลองสากลมาตลอดแต่ในขณะเดียวกัน  คนไทยหัวใจรักชาติกําลังจับตามองความตี่นตัวของกระทรวงการต่างประเทศที่จะเคลื่อนไหวอย่างจริงจังตอบโต้ให้ผู้กระทําผิดได้สํานึก ด้วยการ“เรียกทูตกลับประเทศ” อย่างเป็นทางการ การจะส่งสัญญาณชัดเช่นนี้ก็เพื่อบอกได้ว่า ประเทศไทยพร้อมจะ “กําหมัด”ทันที  เมื่อใครก็ตามละเมิดสัมพันธภาพสากลโดยบังอาจยํ่าเข้ามาในผืนแผ่นดินของเรา

ข่าวล่าสุด

สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กำลังจะจัดคอนเสิร์ต”สุนทราภรณ์ รำลึก 115 ปี ชาตกาล ครูเอื้อ สุนทรสนาน”

สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กำลังจะจัดคอนเสิร์ต"สุนทราภรณ์ รำลึก 115 ปี ชาตกาล ครูเอื้อ สุนทรสนาน"

Ali and Nino – รักโลหะเคลื่อนไหวที่ชายหาด Batumi… และความลับในคืนที่ไฟดับ

Ali and Nino – รักโลหะเคลื่อนไหวที่ชายหาด Batumi… และความลับในคืนที่ไฟดับ คุณเคยเห็นหนุ่มสาวเปลือยร่างโผกอดกันยามตะวันตกดินไหม…? อยากไปดูไหมล่ะ….! ตามมากับผมก่อนก็ได้….!

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย เมื่อ กัมพูชายังแสดงพฤติกรรมปฏิเสธทุกเรื่องที่ตนก่อขึ้น ขณะ ไทยอดทนตีแผ่ความจริงท่ามกลางการรับรู้กว้างขวาง

ข่าวอื่นๆ

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย เมื่อ กัมพูชายังแสดงพฤติกรรมปฏิเสธทุกเรื่องที่ตนก่อขึ้น ขณะ ไทยอดทนตีแผ่ความจริงท่ามกลางการรับรู้กว้างขวาง

  แม้ไทยจะยืนยันดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด  แต่กัมพูชากลับเร่งเร้าให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นายในทันที

แม้ไทยจะยืนยันดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด แต่กัมพูชากลับเร่งเร้าให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นายในทันที พร้อมใช้สงครามข้อมูลข่าวสารปั้นภาพเหยื่อบนเวทีโลก ทั้งที่ข้อเท็จจริงสะท้อนการละเลยทหารของตนเองที่เสียชีวิตแนวชายแดนภาพลักษณ์ห่วงใยด้านมนุษยธรรมที่ฉาบบางด้วยเจตนาทางการเมือง

สันติภาพที่เพิ่งก่อร่าง… ทำท่าจะพังทลายในพริบตา!

เพียงสองวันหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งไทยและกัมพูชาเพิ่งบรรลุข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้ออันสำคัญ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 111 ของไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางขึ้นใหม่ในพื้นที่บริเวณรอยต่อโดนเอาว์-กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ