วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHTการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงสำคัญ 13 ข้อ

การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงสำคัญ 13 ข้อ

เผยแพร่

spot_img

พร้อมคำมั่นจากมหาอำนาจว่าจะไม่แทรกแซง ทว่าในฉากหลังของความสำเร็จทางการทูตนั้น กัมพูชายังคงเสริมกำลังและส่งโดรนเข้าในพื้นที่ชายแดนไทย สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่ยังคงดำรงอยู่ และการเดินทางที่ยังอีกยาวไกลของความเชื่อใจระหว่างกัน

                    การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างไทยและกัมพูชาครั้งล่าสุดที่มาเลเซีย ได้รับการยกย่องจากฝ่ายไทยว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตครั้งสำคัญ การบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น ถือเป็นการฟื้นฟูการเจรจาทวิภาคีที่หยุดชะงักไปนาน และเป็นเครื่องยืนยันว่ากลไกการพูดคุยแบบสองประเทศยังคงทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความขัดแย้งระดับภูมิภาคและระดับโลกมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้น     

                     นอกจากนี้ การที่มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน รวมถึงมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และจีน ต่างพร้อมรับบทบาทเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ ยิ่งตอกย้ำความชอบธรรมของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธีและกลไกของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาการแทรกแซงจากภายนอก ซึ่งนับเป็นชัยชนะทางการเมืองอีกครั้งสำหรับกรุงเทพฯ

                       อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จบนโต๊ะเจรจาดูเหมือนจะเป็นเพียงด้านเดียวของเหรียญสถานการณ์จริง ณ บริเวณชายแดนยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง การยืนยันของโฆษก ศบ.ทก. ว่ามีการเสริมกำลังของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่สำคัญ และยังคงมีการตรวจพบการใช้โดรนในเขตไทย สะท้อนให้เห็นถึงความไม่จริงใจของกัมพูชาที่ฝังรากลึกมานาน

                        แม้จะมีการตกลงในหลายประเด็น แต่การที่กัมพูชายังคงปฏิเสธข้อเสนอสำคัญ 2 ข้อของไทย ซึ่งรวมถึงเรื่องทุ่นระเบิดที่ไทยมองว่าเป็น “เครื่องป้องกันกำลังของตนเอง” บ่งชี้อย่างชัดเจนว่าพนมเปญยังคงยึดถือความได้เปรียบทางยุทธวิธี และไม่ได้มองว่าการเจรจาเป็นหลักประกันความปลอดภัยที่เพียงพอ

                          การตัดสินใจของไทยที่จะ “พูดต่อไปเรื่อยเรื่อยจนกว่ากัมพูชาจะยอมรับ” แสดงให้เห็นถึงความอดทนเชิงยุทธศาสตร์และการยึดมั่นในวิถีทางการทูต ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างแรงกดดันระยะยาวให้กับกัมพูชา โดยหวังว่าเมื่อเวลาผ่านไปและภายใต้สายตาของนานาชาติ กัมพูชาจะจำต้องอ่อนข้อลงในที่สุด 

                           แนวทางนี้แม้จะไม่ได้นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่ก็ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของไทยในฐานะประเทศที่มีความอดทนและเคารพในกฎกติกาการระหว่างประเทศ ซึ่งนับเป็นแต้มต่อทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญในเวทีโลก

                            ดังนั้น ในภาพรวมแล้ว ข้อตกลง 13 ประเด็นจึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในการคลี่คลายความขัดแย้งที่ซับซ้อน ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของปัญหา สภาพการณ์ในปัจจุบันจึงดูเหมือนว่า การเจรจายังคงเดินหน้าไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่กลไกการทหารยังคงถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารหลักระหว่างสองประเทศ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเชื่อใจที่ยังเปราะบางและสุ่มเสี่ยง

                                การประชุม GBC ครั้งนี้เปรียบเสมือนการปลูกดอกกุหลาบไว้กลางทุ่งระเบิด ไทยส่งสัญญาณแห่งมิตรภาพด้วยข้อตกลง 13 ข้อ ขณะที่กัมพูชาตอบรับด้วยการส่งสัญญาณจากโดรน ซึ่งมีทั้งภาพและเสียงที่ชัดเจนกว่า ถือเป็นความก้าวหน้าทางการทูตที่น่าทึ่ง ที่ต่างฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่า การพูดคุยเป็นสิ่งจำเป็น… ตราบใดที่ยังไม่มีใครก้าวพลาดไปเหยียบกับระเบิดในระหว่างนั้น

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

 กัมพูชาปฏิเสธตลอดว่าไม่ได้เป็นศูนย์กลางแก๊ง สแกมเมอร์โลก

การประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรต่อเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ "ศูนย์หลอกลวงออนไลน์" ในกัมพูชา