วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHT การพลิกพลิ้วใช้โซเชียลมีเดียและการปฏิเสธความจริงของกัมพูชา  รอคอยเวลาที่จะกลับไปยังจุดเดิมอีก

 การพลิกพลิ้วใช้โซเชียลมีเดียและการปฏิเสธความจริงของกัมพูชา  รอคอยเวลาที่จะกลับไปยังจุดเดิมอีก

เผยแพร่

spot_img

 เป็นที่ยอมรับกันว่า พฤติกรรมของรัฐบาลกัมพูชาในการปฏิเสธข้อกล่าวหาและการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารทางการเมืองนั้น เป็นภาพสะท้อนถึงการดำเนินนโยบายที่พยายามควบคุมเรื่องเล่า (narrative) ของตัวเองอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ความขัดแย้งกับไทย             

   การปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการละเมิดหยุดยิง การสูญเสียกำลังพล หรือการรุกล้ำอธิปไตย สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลกัมพูชามีเป้าหมายที่จะสร้างความชอบธรรม (legitimacy) ให้กับการกระทำของตนเองในสายตาของประชาชนภายในประเทศและประชาคมโลก ด้วยการสร้างภาพให้ไทยเป็นฝ่ายผิดตลอดโดยไม่คำนึงถึงหลักฐานและเหตุผลใด ๆ 

                 การใช้โฆษกกระทรวงกลาโหมเป็นหลักในการสื่อสาร ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงนานาชาติว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นด้านความมั่นคงที่สำคัญสำหรับกัมพูชา และเป็นการยกระดับความขัดแย้งให้มีความตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลในระดับหนึ่งในการดึงดูดความสนใจจากสื่อต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ

                  การที่นานาชาติ  อาทิ ญี่ปุ่นและเวียดนามเริ่มแสดงท่าทีที่ชัดเจนนั้น แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมของกัมพูชาเริ่มส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในเวทีโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ยอมรับข้อเท็จจริงและหลักฐานที่ปรากฏชัดแจ้ง ถือเป็นการละเมิดบรรทัดฐานสากล (international norms) ในการเจรจาและการแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติ 

                  การที่เวียดนามซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกัมพูชามาโดยตลอด เลือกที่จะส่งรองนายกรัฐมนตรีมาเยือนไทยและพร้อมให้การสนับสนุน สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของเวียดนามต่อเสถียรภาพในภูมิภาค และเป็นสัญญาณที่สำคัญว่า แม้แต่พันธมิตรที่ใกล้ชิดก็อาจไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมที่ไม่เป็นสากลของกัมพูชา 

                      การที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้บริจาครายใหญ่ก็มองว่าพฤติกรรมนี้ไม่ถูกต้อง ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าการใช้กลยุทธ์ “ปฏิเสธทุกกรณี” อาจไม่ได้ผลอีกต่อไปในสายตาของนานาชาติ และอาจทำให้กัมพูชาถูกมองว่าเป็นฝ่ายที่บ่อนทำลายความพยายามในการสร้างสันติภาพในภูมิภาค

                         การประชุมทวิภาคีที่มาเลเซียในสัปดาห์อาจประสบปัญหา ก็เป็นมุมมองที่สอดคล้องกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของกัมพูชา 

                       หากกัมพูชายังคงยึดมั่นในแนวทางเดิม คือการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่ยอมรับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ก็เป็นเรื่องยากที่การเจรจาจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืนได้ 

                       การขาดความจริงใจในการแก้ไขปัญหาและการใช้การเจรจาเป็นเพียงเวทีเพื่อกล่าวโทษฝ่ายตรงข้าม จะทำให้ความเชื่อมั่นระหว่างสองประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง และอาจทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้ 

                       ดังนั้น  ไทยจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ  เพราะการเจรจาในมาเลเซียก็คงจะเห็นพฤติกรรมเดิมของกัมพูชาที่ไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี   คงใช้เวลาหาโอกาสสร้างสถานการณ์โดยกลับไปยังจุดเดิมอีก                    

                 

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

การรับมือการบิดเบือนข้อมูลของกัมพูขาต้องใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกในการจัดการปัญหาชายแดน

จากรายงานข่าวที่สะท้อนให้เห็นถึงการที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงและใช้การบิดเบือนข้อมูลเป็นเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตน แนวทางของรัฐบาลไทยที่มอบอำนาจให้ฝ่ายทหารตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จึงเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของยุทธศาสตร์ทั้งหมดที่ต้องนำมาใช้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้

“ภูมิใจไทยกับปรากฏการณ์ ‘ส.ส. ไหลเข้า  เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว…อุดมการณ์เขยื้อนตาม?”

หลังจากการโหวตให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับมอบหมายให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดูเหมือนว่ากระแสการ "ย้ายบ้าน" ของ ส.ส. ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการมุ่งหน้าสู่พรรคภูมิใจไทยที่กลายเป็น "ขั้วอำนาจใหม่" แห่งทำเนียบรัฐบาล