วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHTข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

เผยแพร่

spot_img

 เมื่อกัมพูชายังแสดงพฤติกรรมปฏิเสธทุกเรื่องที่ตนก่อขึ้น 

ขณะไทยอดทนตีแผ่ความจริงท่ามกลางการรับรู้กว้างขวาง

 ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา แม้จะถูกควบคุมด้วยข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามปลายเดือนกรกฎาคม แต่ยังคงมีเหตุการณ์และข้อกล่าวหาที่ทำให้บรรยากาศคลี่คลายได้ไม่เต็มที่ ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการสื่อสารในเชิงรุก ทั้งในสื่อสังคมออนไลน์และสื่อกระแสหลัก เพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาการละเมิดข้อตกลง พร้อมโยนความรับผิดชอบกลับไปยังฝ่ายไทยในเกือบทุกกรณี

                        ความสัมพันธ์ชายแดนระหว่างสองประเทศไม่ใช่เรื่องใหม่ ความขัดแย้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อนและสิทธิ์เหนือแหล่งโบราณสถาน เช่น ปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นชนวนปะทุซ้ำในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา แต่รอบล่าสุดนี้ จุดโฟกัสอยู่ที่การใช้ “สงครามข้อมูลข่าวสาร” ควบคู่กับปฏิบัติการภาคสนาม ซึ่งสร้างผลกระทบต่อการรับรู้ของประชาชนทั้งในและนอกประเทศ

                       สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณชายแดน ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หนึ่งในนั้นอาการสาหัส ฝ่ายไทยระบุว่าเป็นกับระเบิดที่เพิ่งถูกติดตั้งใหม่ ขณะที่กัมพูชาปฏิเสธทันที โดยระบุว่าเป็น “ระเบิดเก่า” และกล่าวหาไทยว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

                        เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่อาเซียนส่งผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่นำโดยมาเลเซีย เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์หยุดยิง ฝ่ายไทยยังคงยืนยันให้การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใสและอ้างอิงหลักฐาน เช่น ภาพถ่ายดาวเทียมและรายงานจากพื้นที่

                         นอกจากการปฏิเสธข้อกล่าวหา ฝ่ายกัมพูชายังขยายประเด็นผ่านเหตุการณ์ที่ถูกมองว่ามีความหมายเชิงสัญลักษณ์สูง   การเดินขบวนของพระสงฆ์กว่า 2,500 รูป จากวัดพนมไปยังอนุสรณ์สถานอิสรภาพ กรุงพนมเปญ เรียกร้องให้ไทยปล่อยตัวเชลยศึก 18 นาย

                          แม้กระบวนการเกี่ยวกับเชลยศึกนี้อยู่ภายใต้พันธกรณีของสมาชิกสหประชาชาติ และกำลังดำเนินไปตามขั้นตอนทางกฎหมายระหว่างประเทศ การใช้บุคคลและสัญลักษณ์ทางศาสนาถูกมองว่าเป็นการดึงประเด็นเข้าสู่สนามความรู้สึกของสาธารณชน มากกว่าการถกเถียงบนฐานข้อเท็จจริง

                           นักวิเคราะห์ระบุว่านี่คือยุทธวิธีผสมผสานระหว่าง Information Warfare และ Psychological Operations ที่ตั้งเป้าสร้างกระแสความเห็นใจอย่างรวดเร็ว เพื่อกดดันไทยทั้งในเวทีภายในประเทศกัมพูชาและในสายตาสาธารณะโลก

                           ฝ่ายไทยยังคงรักษาท่าทีระมัดระวัง ใช้การเก็บข้อมูลเชิงประจักษ์จากหลายแหล่ง ทั้งรายงานผู้สังเกตการณ์อาเซียน ภาพถ่ายดาวเทียม และคำให้การจากพื้นที่ เพื่อเตรียมตีแผ่ข้อเท็จจริงสู่สังคมโลก การเคลื่อนไหวนี้มุ่งลดความคลุมเครือของข้อมูล และสร้างความเข้าใจว่าข้อตกลงหยุดยิงต้องยึดถือโดยทุกฝ่าย

                       ในขณะที่สงครามข้อมูลยังดำเนินไป การสื่อสารของไทยเน้นการใช้หลักฐานมากกว่าการโต้เถียงเชิงวาทกรรม เพื่อรักษาภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในเวทีระหว่างประเทศ

                      สายตานานาประเทศกำลังเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของผู้นำกัมพูชา

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

 กัมพูชาปฏิเสธตลอดว่าไม่ได้เป็นศูนย์กลางแก๊ง สแกมเมอร์โลก

การประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรต่อเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ "ศูนย์หลอกลวงออนไลน์" ในกัมพูชา