กระแสข่าวฉาวของพระสงฆ์ที่เกี่ยวพันกับเงินบริจาคและสีกาในหลายจังหวัด ทำให้สังคมไทยตั้งคำถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันศาสนา ความศรัทธาที่ถูกสั่นคลอนอาจลุกลามจนกระทบความมั่นคงของพุทธศาสนาที่เป็นศาสนาประจำชาติ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เร่งแก้ไขอย่างจริงจังและสร้างระบบตรวจสอบที่โปร่งใสกว่าเดิม
รากเหง้าของปัญหามาจากเงินบริจาคจำนวนมหาศาลที่มักไหลเข้าบัญชีส่วนบุคคลของพระภิกษุ หรือบุคคลที่ใกล้ชิดวัด โดยขาดการตรวจสอบที่รัดกุม เปิดช่องให้เกิดการยักยอกและฟอกเงิน ขณะที่ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสีกา ซึ่งควรเป็นเพียงผู้ศรัทธาที่มาทำบุญ กลับกลายเป็นประเด็นสุ่มเสี่ยงต่อพระวินัย และถูกใช้เป็นช่องทางโจมตีศาสนาให้เสียหายรุนแรงมากขึ้น
การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การจับสึกหรือดำเนินคดี เป็นเพียงการเยียวยาเหตุการณ์ ไม่ได้อุดช่องว่างในระบบที่เปิดโอกาสให้เหตุการณ์เกิดซ้ำ ทางออกระยะยาวจำเป็นต้องปฏิรูปการบริหารจัดการวัดให้โปร่งใส จัดตั้งคณะกรรมการหลายฝ่ายกำกับบัญชี และกำหนดมาตรฐานการรับ จ่ายเงินบริจาคที่ตรวจสอบได้ รวมถึงวางแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อลดโอกาสเสี่ยงของการพัวพันระหว่างพระกับฆราวาส
หากไม่เร่งปฏิรูป ความศรัทธาของประชาชนจะถดถอยลงเรื่อย ๆ และอาจกระทบภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศพุทธศาสนา ถึงเวลาแล้วที่รัฐ องค์กรสงฆ์ และภาคประชาสังคมจะต้องร่วมกันซ่อมรอยรั่วของศาสนา ก่อนที่ศรัทธาจะรั่วไหลจนหมดลำเรือ