วันพุธ, สิงหาคม 13, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHT“หยุดยิงที่ชายแดน… หรือเพียงหมากตาเดียวในกระดานใหญ่”

“หยุดยิงที่ชายแดน… หรือเพียงหมากตาเดียวในกระดานใหญ่”

เผยแพร่

spot_img

  ชนวนความขัดแย้งที่คุโชนระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นระยะยมานาน  ดูเหมือนถูกดับลงฉับพลันด้วยข้อตกลงหยุดยิงที่รวดเร็วผิดคาด

                    แต่ความเงียบสงบที่เห็น อาจไม่ใช่ความสงบจริง หากเป็นเพียงฉากหน้าของเวทีที่มีเงามหาอำนาจยืนทะมึนอยู่เบื้องหลัง

                    เมื่อมองลึกลงไป จะพบว่าสมรภูมิแห่งนี้ไม่ใช่เพียงการเผชิญหน้าระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน หากแต่เป็นสนามประลองกำลังของสหรัฐอเมริกาและจีน ที่ต่างต้องการช่วงชิงบทบาทและอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การประชุมทวิภาคีที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ จึงไม่ใช่แค่การสานต่อการเจรจา แต่เป็นการเปิดฉากเกมการทูตที่เดิมพันสูง

                     การปรากฏตัวของผู้สังเกตการณ์จากทั้งสหรัฐฯ และจีน เมื่อ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ

                     กัมพูชาซึ่งมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปักกิ่งมาอย่างยาวนาน อาจเชิญจีนเข้ามาเพื่อเพิ่มน้ำหนักในการต่อรอง  ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาซึ่งเคยศึกษาที่สหรัฐฯ ก็ดูจะมีความยินดีเปิดพื้นที่ทางการทหารให้กับวอชิงตันตามจังหวะที่เหมาะสม

สหรัฐฯ เองก็ไม่พลาดโอกาส ใช้การเจรจาภาษีการค้าเป็นเครื่องมือถ่วงดุลจีน พร้อมลดภาษีสินค้านำเข้าจากไทยลงเหลือเพียง 19% เท่ากับกัมพูชา เพื่อดึงกรุงเทพฯ เข้ามาอยู่ในสมการนี้

                      ความรวดเร็วในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง จึงอาจเป็นผลจากแรงกดดันของมหาอำนาจที่ต้องการโชว์บทบาท “ผู้รักษาสันติภาพ” ขณะเดียวกันก็รักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของตนเอง

                      นี่คือภาพสะท้อนของความซับซ้อนในเกมการเมืองโลก ที่เส้นแบ่งระหว่าง “สันติภาพ” และ “การจัดฉาก” บางยิ่งกว่าควันปืน

                       หากแรงกดดันจากมหาอำนาจคือปัจจัยสำคัญจริง ก็ต้องยอมรับว่ากัมพูชาเล่นเกมนี้อย่างชำนาญ   เมื่อเกิดเหตุปะทะ ก็บอกโลกว่าถูกรังแกเพื่อเรียกเพื่อนพันธมิตรเข้าข้าง   พอมีมหาอำนาจลงวงครบ ก็ปิดดีลหยุดยิงราวกับเรื่องเล็กน้อยที่แก้ได้เพียงปลายนิ้ว

                       ผลคือ กัมพูชาได้ทั้งภาพลักษณ์ “ผู้ถูกกระทำ” และได้อำนาจต่อรองเพิ่ม

                      ส่วนฝ่ายไทย  ไม่จำเป็นต้องสร้างละครตบตาใคร ยืนหยัดอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาในสังคมโลกมาโดยตลอดที่นานาประเทศรับรอง

                     หมากกระดานนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าฝ่ายใดจะพับเก็บหมากแล้วกลับบ้าน

                     มหาอำนาจไม่ได้มาเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ หากแต่มาเพื่อวางหมากตัวใหม่ให้เกมดำเนินต่อ

                    และบางที… “สันติภาพ” ที่เราเห็น อาจเป็นเพียงภาพลวงตาในโรงละครที่พนมเปญกำกับเอง โดยมีปักกิ่งและวอชิงตันนั่งอยู่แถวหน้า พร้อมปรบมือให้ทุกฉากที่ตัวเองมีบทเด่น

                    และเมื่อถึงเวลานั้น  กัมพูชาจะหันหน้าไปคบใครก็ไม่มีผู้ใดเหลียวกลับมามองอีกแล้ว

ข่าวล่าสุด

สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กำลังจะจัดคอนเสิร์ต”สุนทราภรณ์ รำลึก 115 ปี ชาตกาล ครูเอื้อ สุนทรสนาน”

สมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กำลังจะจัดคอนเสิร์ต"สุนทราภรณ์ รำลึก 115 ปี ชาตกาล ครูเอื้อ สุนทรสนาน"

Ali and Nino – รักโลหะเคลื่อนไหวที่ชายหาด Batumi… และความลับในคืนที่ไฟดับ

Ali and Nino – รักโลหะเคลื่อนไหวที่ชายหาด Batumi… และความลับในคืนที่ไฟดับ คุณเคยเห็นหนุ่มสาวเปลือยร่างโผกอดกันยามตะวันตกดินไหม…? อยากไปดูไหมล่ะ….! ตามมากับผมก่อนก็ได้….!

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย เมื่อ กัมพูชายังแสดงพฤติกรรมปฏิเสธทุกเรื่องที่ตนก่อขึ้น ขณะ ไทยอดทนตีแผ่ความจริงท่ามกลางการรับรู้กว้างขวาง

ข่าวอื่นๆ

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย เมื่อ กัมพูชายังแสดงพฤติกรรมปฏิเสธทุกเรื่องที่ตนก่อขึ้น ขณะ ไทยอดทนตีแผ่ความจริงท่ามกลางการรับรู้กว้างขวาง

  แม้ไทยจะยืนยันดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด  แต่กัมพูชากลับเร่งเร้าให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นายในทันที

แม้ไทยจะยืนยันดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด แต่กัมพูชากลับเร่งเร้าให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นายในทันที พร้อมใช้สงครามข้อมูลข่าวสารปั้นภาพเหยื่อบนเวทีโลก ทั้งที่ข้อเท็จจริงสะท้อนการละเลยทหารของตนเองที่เสียชีวิตแนวชายแดนภาพลักษณ์ห่วงใยด้านมนุษยธรรมที่ฉาบบางด้วยเจตนาทางการเมือง

สันติภาพที่เพิ่งก่อร่าง… ทำท่าจะพังทลายในพริบตา!

เพียงสองวันหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งไทยและกัมพูชาเพิ่งบรรลุข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้ออันสำคัญ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 111 ของไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางขึ้นใหม่ในพื้นที่บริเวณรอยต่อโดนเอาว์-กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ