วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHT“หยุดยิงที่ชายแดน… หรือเพียงหมากตาเดียวในกระดานใหญ่”

“หยุดยิงที่ชายแดน… หรือเพียงหมากตาเดียวในกระดานใหญ่”

เผยแพร่

spot_img

  ชนวนความขัดแย้งที่คุโชนระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นระยะยมานาน  ดูเหมือนถูกดับลงฉับพลันด้วยข้อตกลงหยุดยิงที่รวดเร็วผิดคาด

                    แต่ความเงียบสงบที่เห็น อาจไม่ใช่ความสงบจริง หากเป็นเพียงฉากหน้าของเวทีที่มีเงามหาอำนาจยืนทะมึนอยู่เบื้องหลัง

                    เมื่อมองลึกลงไป จะพบว่าสมรภูมิแห่งนี้ไม่ใช่เพียงการเผชิญหน้าระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน หากแต่เป็นสนามประลองกำลังของสหรัฐอเมริกาและจีน ที่ต่างต้องการช่วงชิงบทบาทและอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การประชุมทวิภาคีที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ จึงไม่ใช่แค่การสานต่อการเจรจา แต่เป็นการเปิดฉากเกมการทูตที่เดิมพันสูง

                     การปรากฏตัวของผู้สังเกตการณ์จากทั้งสหรัฐฯ และจีน เมื่อ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ

                     กัมพูชาซึ่งมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปักกิ่งมาอย่างยาวนาน อาจเชิญจีนเข้ามาเพื่อเพิ่มน้ำหนักในการต่อรอง  ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาซึ่งเคยศึกษาที่สหรัฐฯ ก็ดูจะมีความยินดีเปิดพื้นที่ทางการทหารให้กับวอชิงตันตามจังหวะที่เหมาะสม

สหรัฐฯ เองก็ไม่พลาดโอกาส ใช้การเจรจาภาษีการค้าเป็นเครื่องมือถ่วงดุลจีน พร้อมลดภาษีสินค้านำเข้าจากไทยลงเหลือเพียง 19% เท่ากับกัมพูชา เพื่อดึงกรุงเทพฯ เข้ามาอยู่ในสมการนี้

                      ความรวดเร็วในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง จึงอาจเป็นผลจากแรงกดดันของมหาอำนาจที่ต้องการโชว์บทบาท “ผู้รักษาสันติภาพ” ขณะเดียวกันก็รักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของตนเอง

                      นี่คือภาพสะท้อนของความซับซ้อนในเกมการเมืองโลก ที่เส้นแบ่งระหว่าง “สันติภาพ” และ “การจัดฉาก” บางยิ่งกว่าควันปืน

                       หากแรงกดดันจากมหาอำนาจคือปัจจัยสำคัญจริง ก็ต้องยอมรับว่ากัมพูชาเล่นเกมนี้อย่างชำนาญ   เมื่อเกิดเหตุปะทะ ก็บอกโลกว่าถูกรังแกเพื่อเรียกเพื่อนพันธมิตรเข้าข้าง   พอมีมหาอำนาจลงวงครบ ก็ปิดดีลหยุดยิงราวกับเรื่องเล็กน้อยที่แก้ได้เพียงปลายนิ้ว

                       ผลคือ กัมพูชาได้ทั้งภาพลักษณ์ “ผู้ถูกกระทำ” และได้อำนาจต่อรองเพิ่ม

                      ส่วนฝ่ายไทย  ไม่จำเป็นต้องสร้างละครตบตาใคร ยืนหยัดอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาในสังคมโลกมาโดยตลอดที่นานาประเทศรับรอง

                     หมากกระดานนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าฝ่ายใดจะพับเก็บหมากแล้วกลับบ้าน

                     มหาอำนาจไม่ได้มาเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ หากแต่มาเพื่อวางหมากตัวใหม่ให้เกมดำเนินต่อ

                    และบางที… “สันติภาพ” ที่เราเห็น อาจเป็นเพียงภาพลวงตาในโรงละครที่พนมเปญกำกับเอง โดยมีปักกิ่งและวอชิงตันนั่งอยู่แถวหน้า พร้อมปรบมือให้ทุกฉากที่ตัวเองมีบทเด่น

                    และเมื่อถึงเวลานั้น  กัมพูชาจะหันหน้าไปคบใครก็ไม่มีผู้ใดเหลียวกลับมามองอีกแล้ว

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

การรับมือการบิดเบือนข้อมูลของกัมพูขาต้องใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกในการจัดการปัญหาชายแดน

จากรายงานข่าวที่สะท้อนให้เห็นถึงการที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงและใช้การบิดเบือนข้อมูลเป็นเครื่องมือในการสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตน แนวทางของรัฐบาลไทยที่มอบอำนาจให้ฝ่ายทหารตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จึงเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของยุทธศาสตร์ทั้งหมดที่ต้องนำมาใช้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้

“ภูมิใจไทยกับปรากฏการณ์ ‘ส.ส. ไหลเข้า  เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว…อุดมการณ์เขยื้อนตาม?”

หลังจากการโหวตให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับมอบหมายให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดูเหมือนว่ากระแสการ "ย้ายบ้าน" ของ ส.ส. ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างคึกคัก โดยเฉพาะการมุ่งหน้าสู่พรรคภูมิใจไทยที่กลายเป็น "ขั้วอำนาจใหม่" แห่งทำเนียบรัฐบาล