รัฐบาลไทยเปิดเผยว่า นายไมเคิล อัลฟาโร ซึ่งอ้างตัวเป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาวและกล่าวหาไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาด้วยรั้วลวดหนาม ไม่ใช่นักข่าว แต่เป็นล็อบบี้ยิสต์และเจ้าของบริษัทประชาสัมพันธ์ “Capitol Hill & Friends” ในวอชิงตัน ดี.ซี.
การเปิดเผยนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพบกเตรียมนำสื่อมวลชนต่างชาติ เช่น Reuters และ AFP ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ จ.สุรินทร์ เพื่อเผยข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก โดยจะเริ่มที่กองกำลังสุรนารี เพื่อรับฟังคำชี้แจง จากนั้นพาไปดูพื้นที่พลเรือนที่ถูกโจมตีจากกัมพูชา เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน วัด และบ้านเรือนประชาชน รวมถึงพื้นที่เก็บกู้ทุ่นระเบิดโดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) พร้อมสาธิตการทำลายวัตถุระเบิดที่ตกค้างจากการปะทะ
ทางการไทยยืนยันว่า นายไมเคิล อัลฟาโร ได้รับเชิญจาก นายซอนโซเพียบ เจ้าของบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ทำงานให้รัฐบาลกัมพูชา โดยจัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงจัดฉากให้อัลฟาโรทำคลิปไลฟ์สดกล่าวหาไทย ซึ่งขัดต่อข้อตกลง GBC ที่ห้ามเผยแพร่ข่าวเท็จ ไทยจึงเชิญสื่อต่างชาติลงพื้นที่เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้อง
พล.ต.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ชี้ว่า กัมพูชาใช้ปฏิบัติการข่าวสารและจิตวิทยาอย่างไม่เป็นกลาง ผ่านสื่อออนไลน์และขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้ข้อมูลเท็จแพร่กระจายเร็ว ไทยเสียเปรียบด้านการสื่อสาร ที่สาละวนอยู่กับการนำข้อเท็จจริงออกเผยแพร่ตอบโต้ รวมทั้งแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาอื่นผ่านสื่อสากล โดยให้ประชาชนและอินฟลูเอนเซอร์ช่วยเผยแพร่ และมีคำเตือนว่ากัมพูชาอาจยั่วยุให้ไทยใช้กำลังก่อน เพื่อนำประเด็นสู่เวทีนานาชาติ
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลไทยในการปกป้องภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในเวทีสากล โดยการนำเสนอข้อเท็จจริงผ่านสื่อมวลชนต่างชาติเป็นกลยุทธ์ที่มีความสำคัญในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาคมโลก อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวอาจเผชิญกับความท้าทายในการรับมือกับข้อมูลเท็จและการโจมตีทางสื่อที่มีความซับซ้อนและรวดเร็ว
พฤติกรรมอันน่ารังเกียจของกัมพูชา ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับโลกอีกต่อไป เพราะนานาประเทศรับรู้กันดีแล้วว่างานหลักคือการขยันสร้างข่าวเท็จมากกว่าการแก้ปัญหาตามข้อตกลงเพื่อสร้างสันติภาพ
เครดิตภาพ:https://rta.mi.th/(เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 คณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เข้าสังเกตการณ์ภารกิจเกี่ยวกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด)