ในการพาเศรษฐกิจไทยออกจากภาวะชะลอตัว ขณะที่ภาคเอกชนและนักลงทุนต่างจับตามองว่าแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งนี้จะเป็นของจริง หรือแค่ “โชว์การเมือง” แบบไทยสไตล์
การพบปะระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และทีมเศรษฐกิจกับสมาคมธนาคารไทย เป็นสัญญาณเปิดเกมเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายรอคอย แต่เกมนี้ไม่ได้วัดกันที่ภาพข่าวถ่ายหมู่ หากวัดกันที่ความสามารถในการทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจขยับขึ้นจริง ท่ามกลางหนี้ครัวเรือนที่สูงลิ่วและความเชื่อมั่นที่เปราะบาง รัฐบาลจึงต้องเดินเส้นทางที่บางเฉียบระหว่างการเอาใจประชาชนกับการรักษาวินัยการคลัง — เพราะถ้าพลาดแม้เพียงก้าวเดียว ก็อาจกลายเป็นการผลักเศรษฐกิจให้เข้าสู่หลุมลึกกว่าเดิม
ภาคเอกชนส่งสัญญาณชัดว่าต้องการนโยบายที่ “ใช้ได้จริง” ไม่ใช่เพียงวาทกรรมสวยหรู ตั้งแต่งบประมาณปี 2569 ที่ต้องเดินหน้าอย่างทันเวลา การจัดการหนี้เสีย ไปจนถึงการปฏิรูประเบียบที่ขวางการลงทุน การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้คือสิ่งที่สร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจ มากกว่ามาตรการกระตุ้นแบบสั้น ๆ ที่มักกลายเป็นเพียง “ยาแก้ปวด” ของรัฐบาลชุดก่อน ๆ
โจทย์ที่ยากที่สุดของนายอนุทินคือการสร้างภาพผู้นำที่กล้าตัดสินใจบนฐานข้อมูลเศรษฐกิจจริง ไม่ใช่ตัดสินใจเพราะแรงกดดันการเมือง การใช้ประชานิยมเกินพอดีอาจสร้างคะแนนนิยมระยะสั้น แต่เสี่ยงเพิ่มภาระหนี้สาธารณะระยะยาว หาก 4 เดือนนี้ไม่สามารถแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ทั้งนักลงทุนและประชาชนอาจหมดศรัทธาเร็วกว่าที่คาด