วันเสาร์, ตุลาคม 18, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHTMOU ไทย-กัมพูชา  2 ฉบับ กำลังจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธา เหตุที่รัฐบาล "ผลัก" ให้ประชาชนตัดสินใจ

MOU ไทย-กัมพูชา  2 ฉบับ กำลังจะกลายเป็นวิกฤตศรัทธา เหตุที่รัฐบาล “ผลัก” ให้ประชาชนตัดสินใจ

เผยแพร่

spot_img

 กระแสการพิจารณายกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา (MOU) ทั้ง พ.ศ. 2543 (MOU 43) ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก และ พ.ศ. 2544 (MOU 44) ว่าด้วยความร่วมมือในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ได้ถูกจุดให้ร้อนแรงอีกครั้ง  หลังจากรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล มีแนวคิดจัดการ “ประชามติ” ไปพร้อมกับการเลือกตั้งในปี 2569 โดยให้เหตุผลว่าเป็นการให้เกียรติและขอฉันทานุมัติจากประชาชนในเรื่องสำคัญ

                          นักวิเคราะห์หลายสำนัก และพรรคการเมืองฝ่ายค้านกลับมองว่า นี่คือการ “ผลักภาระ” ที่มีความละเอียดอ่อนซับซ้อนให้ประชาชนตัดสินใจแทนรัฐบาล ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารที่มีข้อมูลและกลไกในการตัดสินใจตามหลักการบริหารประเทศ 

                        เหตุผลสำคัญที่ทำให้การทำประชามติถูกตั้งคำถามอย่างหนักคือ “ความไม่เข้าใจในเนื้อหา” ของ MOU ทั้งสองฉบับอย่างกว้างขวางตามผลโพล ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ใช่เจตจำนงที่แท้จริงหรือเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ

                       MOU ทั้งสองฉบับเป็นเพียง “กรอบในการเจรจา” ไม่ได้เป็นการกำหนดเขตแดนโดยเด็ดขาด

                       MOU 43 เป็นกลไกสำคัญที่ผูกมัดให้กัมพูชาต้องเจรจาเรื่องเขตแดนทางบกกับไทยแบบทวิภาคี โดยอ้างอิงสนธิสัญญาเก่าแก่

                       แต่การที่ไทยระบุว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลงกว่า 500 ครั้ง และปัญหาเขตแดนที่ยึดแผนที่คนละฉบับได้สะสมมานานกว่า 20 ปี สะท้อนถึง “ความล้มเหลวในการขับเคลื่อน” ภายใต้กรอบเดิม 

                       ส่วน MOU 44 มุ่งแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลขนาดใหญ่ที่อุดมด้วยทรัพยากร โดยกำหนดให้เจรจาทั้งการปักปันเขตแดนและการพัฒนาร่วมกันอย่างไม่แบ่งแยก 

ซึ่งข้อกังวลเรื่องการลากเส้นอ้างสิทธิ์ของกัมพูชาที่รุกล้ำเกาะกูดของไทยยังคงเป็นประเด็นอ่อนไหว 

                       การยกเลิก MOU จึงไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ง่ายดาย เพราะอาจทำให้ “กรอบการเจรจาหายไป” และอาจเปิดโอกาสให้กัมพูชานำประเด็นไปสู่เวทีระหว่างประเทศได้อีกครั้งตามความกังวลของผู้เชี่ยวชาญ

                        ทางออกเพื่อรักษาอธิปไตยอย่างมั่นคงต่อ MOU 43-44   เห็นว่า ต้องดำเนินการบนฐานของ “ข้อมูลที่ครบถ้วนและผลประโยชน์แห่งชาติ” ไม่ใช่การตัดสินใจทางการเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ 

                       รัฐบาลควรยกเลิกแนวคิดการทำประชามติในสภาวะที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเนื้อหาอย่างแท้จริง เพราะเป็นการเสี่ยงต่อการบิดเบือนข้อมูลและการตัดสินใจที่ไร้ทิศทาง สิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วนที่สุด คือการให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาจากผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยใช้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ความมั่นคง และเศรษฐศาสตร์ เพื่อประเมิน “ข้อดีข้อเสีย” ของการคงไว้และการยกเลิกอย่างรอบด้าน

                          แนวทางการดำเนินงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ เพื่อรักษาอธิปไตยได้อย่างมั่นคงและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชาติ รัฐบาลต้องเป็นผู้ “ตัดสินใจ” อย่างกล้าหาญ บนหลักการที่ไม่ยอมให้เสียเปรียบในเรื่องเขตแดนและทรัพยากรธรรมชาติ 

                         ในการนี้ หากพบว่า MOU ทั้งสองฉบับเป็น “อุปสรรค” ต่อการรักษาผลประโยชน์ของชาติจริง และฝ่ายกัมพูชาเจตนาละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่องจนไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตามเจตนารมณ์เดิม คณะรัฐมนตรีควรใช้อำนาจในการพิจารณายกเลิก แต่ต้อง “เตรียมแผนรองรับ” ที่ชัดเจนทันทีหลังการยกเลิก เพื่อกำหนดกรอบการเจรจาทวิภาคีใหม่ที่มีเงื่อนไขเข้มงวดและเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของไทยอย่างแท้จริง

                          ทั้งนี้ หากยังคงไว้ รัฐบาลต้องกำหนด “มาตรการบังคับใช้” และการทบทวนความร่วมมือที่เข้มข้นขึ้น 

                          การตัดสินใจใดๆ ต้องมุ่งเน้นที่การ “ปกป้องเส้นเขตแดน” ตามหลักกฎหมายที่ไทยยึดถือ และการ “แบ่งปันผลประโยชน์” ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

 กัมพูชาปฏิเสธตลอดว่าไม่ได้เป็นศูนย์กลางแก๊ง สแกมเมอร์โลก

การประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรต่อเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ "ศูนย์หลอกลวงออนไลน์" ในกัมพูชา