ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–6 สิงหาคม เพื่อสานเจตนารมณ์ในการรักษาสันติภาพชายแดน แต่เบื้องหลังรอยยิ้มและมือนิ่ง ๆ ที่จับกันบนโต๊ะเจรจา ยังสะท้อนความระแวงและความไม่ไว้วางใจที่ต้องใช้เวลา และกลไกเข้มงวดตรวจสอบอีกมาก
การประชุมในกรอบ General Border Committee (GBC) ระหว่างตัวแทนของไทยและกัมพูชา จัดขึ้น ณ มาเลเซีย โดยมีสหรัฐ จีน และ ASEAN ร่วมสังเกตการณ์ กระบวนการเริ่มต้นด้วยเป้าหมายหลักคือการสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม และสร้างกลไกการสื่อสารและควบคุมสถานการณ์อย่างเป็นระบบ
ตลอดการประชุมในระดับอำนวยการ ผู้แทนไทยนำเสนอข้อเสนอมั่นคง เช่น การติดตามข่าวชายแดนรายวัน การจัดตั้งสายด่วนประสานงาน และเขตปลอดทหารในพื้นที่เสี่ยง ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังยึดท่าที “ไม่รับข้อเสนอก่อน” และเรียกร้องให้ไทยเสนอก่อนเท่านั้น พร้อมย้ำถึงความต้องการให้ไทยปล่อยผู้ต้องขังคดีทหาร 18 นายเพื่อกระชับความเชื่อใจร่วมกันแบบเงียบ ๆ
แม้จะมีความคืบหน้าเรื่องมาตรการป้องกันการลุกลามของปัญหา แต่ความเชื่อใจยังเป็นปัจจัยที่ขาดหายไป ทั้งสองฝ่ายยังหวั่นเกรงว่าข้อตกลงจะเป็นเพียง “กระดาษว่าง” หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมเปิดเผยข้อเสนอหรือไม่ร่วมกันสร้างกลไกรับผิดชอบอย่างเปิดเผย
ข้อตกลงครั้งต่อไปในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งจะมีผู้แทนระดับรัฐมนตรี ASEAN และผู้นำทหารเข้าร่วมอย่างเต็มรูปแบบ จะถือเป็นบทพิสูจน์แท้จริงว่า ข้อตกลงหยุดยิงนี้จะยืนยาว หรือจบลงแบบไร้ใคร “คุมเกม” เป็นรูปธรรม
แม้สถานการณ์จะพลิกเข้าสู่การเจรจาอย่างเป็นทางการในเมืองกัวลาลัมเปอร์ แต่กัมพูชายังคงยืนในหลักการ “ไม่เสนอก่อน ปฏิเสธทุกกรณี” อย่างมั่นคงเหมือนคำขวัญที่ฝังลึกในท่าทีทางการเมืองของรัฐ ซึ่งนานาประเทศรู้กันแล้วว่าเพราะในเกมแห่งชายแดนนั้น …การแสดงออกอย่างแข็งขันคือการปฏิเสธที่มากกว่าการยอมรับ