วันพุธ, สิงหาคม 13, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHTวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงยิงกันต่อเนืองในขณะที่ผู้นำของไทยไร้ยุทธศาสตร์เชิงรุกและเกมข้อมูลข่าวสาร

วิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงยิงกันต่อเนืองในขณะที่ผู้นำของไทยไร้ยุทธศาสตร์เชิงรุกและเกมข้อมูลข่าวสาร

เผยแพร่

spot_img

   สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง การปะทะที่ดำเนินมาหลายวัน ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของทั้งสองฝ่ายอย่างมหาศาล แต่ยังสั่นคลอนเสถียรภาพและความสัมพันธ์ทางการทูตในภูมิภาคอาเซียนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สิ่งที่น่าจับตาคือท่าทีของผู้นำไทยที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังไม่สามารถแสดงบทบาทเชิงรุกและใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารในยุคปัจจุบันได้อย่างเต็มที่

                การปะทะที่ผ่านมาได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีการใช้ทั้งอาวุธเบา ปืนใหญ่ และจรวด BM-21 จากฝั่งกัมพูชา ขณะที่ไทยตอบโต้ด้วยเครื่องบินขับไล่ F-16 โดยมีรายงานความสูญเสียทั้งทหารและพลเรือนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโจมตีเป้าหมายพลเรือนและโรงพยาบาลในไทยที่ถูกประณามอย่างหนักจากประชาคมโลก นอกจากนี้ การที่ไทยเรียกเอกอัครราชทูตกลับและขับเอกอัครราชทูตกัมพูชาออกนอกประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงระดับความตึงเครียดทางการทูตที่รุนแรงที่สุด

                 นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าบทบาทของผู้นำไทยยังขาดความเข้มแข็งในยุทธศาสตร์เชิงรุกและอ่อนด้อยสงครามข้อมูลข่าวสาร

                ผู้นำไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ายังไม่สามารถแสดงบทบาทเชิงรุกที่ชัดเจน ในการแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ การประคองสถานการณ์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการยุติความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในทางกลับกันผู้นำที่เข้มแข็งควรแสดงออกถึงความเด็ดขาดและวิสัยทัศน์ในการนำพาสถานการณ์ให้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นการใช้ช่องทางการทูตอย่างแข็งขัน การสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศหรือการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ การขาดความริเริ่มในการรุกทางการทูตและการสื่อสารที่แข็งขันทำให้ไทยอาจเสียเปรียบในเวทีโลกและไม่สามารถสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ได้

                  การใช้โซเชียลมีเดียในยุคข้อมูลข่าวสารมีความสำคัญยิ่งจึงปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย 

                  ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลเวียนอย่างรวดเร็วผ่านโซเชียลมีเดีย การที่ผู้นำไทยยังไม่สามารถใช้ช่องทางเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือเป็นการพลาดโอกาสครั้งสำคัญ ในการสร้างความได้เปรียบทางข้อมูลข่าวสาร ในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ การสื่อสารที่รวดเร็ว ชัดเจน และมีประสิทธิภาพผ่านโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความเข้าใจ  ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างโปร่งใสเพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูลและข่าวลือ  ยังสามารถสร้างความร่วมมือและความเห็นอกเห็นใจจากประชาคมโลก โดยการนำเสนอภาพรวมของความเสียหายและความจำเป็นในการยุติความขัดแย้ง  อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของผู้นำในการจัดการสถานการณ์

                ในขณะเดียวกันเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นกลาง เพื่อหักล้างข้อมูลเท็จที่อาจถูกเผยแพร่จากฝ่ายตรงข้าม

                  การที่ผู้นำยังไม่สามารถนำเกมทั้งในทางรุกและการก้าวล้ำหน้าในข้อมูลข่าวสารถือเป็นจุดอ่อนสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว

ข่าวล่าสุด

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภา ความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิป สนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภาความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิปสนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

 รู้ไหมว่า… อีกา “เข้าหามด” เวลาป่วย?

รู้ไหมว่า... อีกา "เข้าหามด" เวลาป่วย? แม้จะฟังดูประหลาด แต่นี่คือสัญชาตญาณอันชาญฉลาดของนกอีกา!

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงและคำมั่นต่อเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชายังคงถูกกล่าวหาว่าละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการวางทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วงเป็นครั้งที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี พฤติกรรมเช่นนี้กำลังบั่นทอนความไว้วางใจ และอาจทำให้กัมพูชาเผชิญแรงกดดันรอบด้านจากประชาคมโลก

ข่าวอื่นๆ

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงและคำมั่นต่อเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชายังคงถูกกล่าวหาว่าละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการวางทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วงเป็นครั้งที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี พฤติกรรมเช่นนี้กำลังบั่นทอนความไว้วางใจ และอาจทำให้กัมพูชาเผชิญแรงกดดันรอบด้านจากประชาคมโลก

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย เมื่อ กัมพูชายังแสดงพฤติกรรมปฏิเสธทุกเรื่องที่ตนก่อขึ้น ขณะ ไทยอดทนตีแผ่ความจริงท่ามกลางการรับรู้กว้างขวาง

  แม้ไทยจะยืนยันดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด  แต่กัมพูชากลับเร่งเร้าให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นายในทันที

แม้ไทยจะยืนยันดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด แต่กัมพูชากลับเร่งเร้าให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นายในทันที พร้อมใช้สงครามข้อมูลข่าวสารปั้นภาพเหยื่อบนเวทีโลก ทั้งที่ข้อเท็จจริงสะท้อนการละเลยทหารของตนเองที่เสียชีวิตแนวชายแดนภาพลักษณ์ห่วงใยด้านมนุษยธรรมที่ฉาบบางด้วยเจตนาทางการเมือง