วันพุธ, สิงหาคม 13, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกINSIDE - INSIGHT  แม้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเงียบลง แต่ความตึงเครียดกำลังม้วนตัวมากขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศ  

  แม้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเงียบลง แต่ความตึงเครียดกำลังม้วนตัวมากขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศ  

เผยแพร่

spot_img

 ไทยต้องระมัดระวังไม่ให้ใครมาลอบทำร้ายข้างหลังเท่านั้น
   ในห้วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายทางการเมืองภายใน จากวันสุดสัปดาห์การชุมนุมเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออก และอดีตนายกรัฐมนตรีที่บงการการเมืองอย่างเปิดเผยให้ยุติการกระทำโดยชุมนุมจำนสนมากที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงค่ำ 

                      สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาก็กลับมาเป็นประเด็นที่น่าจับตามองอีกครั้ง จากรายงานข่าวล่าสุดและการนำคณะทูตทหารจากกว่า 20 ประเทศไปตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย บ่งชี้ถึงความพยายามของฝ่ายไทยในการยกระดับประเด็นนี้ให้เป็นที่รับรู้ในระดับนานาชาติ การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงจากการปะทะ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณทางการทูตที่แข็งกร้าวไปยังกัมพูชาและประชาคมโลก ถึงความจริงจังของไทยในการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือน รวมถึงความเสียหายต่อสิ่งสาธารณูปโภคอย่างโรงพยาบาล ทำให้ประเด็นนี้มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนมากขึ้นกว่าเดิม

                           การนำคณะทูตทหารเข้าตรวจสอบพื้นที่ความเสียหายจากการบุกรุกโจมตีของทหารกัมพูชา ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ชาญฉลาดของไทยในการสร้างความชอบธรรมให้แก่จุดยืนของตนเองในเวทีโลก การที่สถานทูตทหารจากหลากหลายประเทศได้เห็นร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงด้วยตาตนเอง ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน ร้านค้า และโรงพยาบาลที่ถูกทำลาย ย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกัมพูชาในสายตานานาประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน การกระทำที่ล้ำเส้นถึงขั้นโจมตีเป้าหมายพลเรือนถือเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความรู้สึกไม่พอใจในหมู่ประชาชนไทยเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การทบทวนท่าทีของประเทศต่างๆ ที่มีต่อความขัดแย้งนี้

                    ในขณะที่กัมพูชายังคงปฏิเสธความรับผิดชอบหรืออ้างว่าเป็นการตอบโต้ที่จำเป็น แต่การที่นานาชาติได้รับทราบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จะทำให้ข้ออ้างเหล่านั้นขาดน้ำหนักลงไป ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นนี้ การบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาลไทย โดยต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงกว่าเดิม ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีและอธิปไตยของประเทศไว้ให้ได้ด้วยอำนาจของฝ่ายทหารเป็นหลัก

              อดีตผู้นำกัมพูชาที่ยังกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ภายใต้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นบุตร  ยังคงหลงทางกับเกมส์พฤติกรรมเดิม ๆ ที่เคยใช้ได้ผลมาในอดีต 

             ที่สำคัญกำลังคืบคลานเข้าไปซุกใต้ปีกของมหาอำนาจหวังที่จะให้ปกป้องที่กำลังเพลี่ยงพล้ำทั้งการเมืองภายในและภายนอก

           ไทยไม่น่าจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ทางการเมืองให้ลึกล้ำใด ๆ  เพียงแต่คอยระมัดระวังไม่ให้ใครมาลอบทำร้ายข้างหลังเท่านั้น

ข่าวล่าสุด

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภา ความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิป สนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

ศาลรัฐธรรมนูญ นัด แพทองธาร-เลขาธิการสภาความมั่นคงไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคม ปมคลิปสนทนาฮุนเซน จากนั้นนัดลงมติตัดสินคดี 29 สิงหาคม

 รู้ไหมว่า… อีกา “เข้าหามด” เวลาป่วย?

รู้ไหมว่า... อีกา "เข้าหามด" เวลาป่วย? แม้จะฟังดูประหลาด แต่นี่คือสัญชาตญาณอันชาญฉลาดของนกอีกา!

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงและคำมั่นต่อเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชายังคงถูกกล่าวหาว่าละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการวางทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วงเป็นครั้งที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี พฤติกรรมเช่นนี้กำลังบั่นทอนความไว้วางใจ และอาจทำให้กัมพูชาเผชิญแรงกดดันรอบด้านจากประชาคมโลก

ข่าวอื่นๆ

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน

กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดซ้ำซาก ไทยประท้วงครั้งที่ 4 เสียงสันติภาพที่ถูกกลบด้วยระเบิดชายแดน แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิงและคำมั่นต่อเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชายังคงถูกกล่าวหาว่าละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการวางทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศต้องประท้วงเป็นครั้งที่ 4 ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี พฤติกรรมเช่นนี้กำลังบั่นทอนความไว้วางใจ และอาจทำให้กัมพูชาเผชิญแรงกดดันรอบด้านจากประชาคมโลก

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย 

ข้อตกลงหลังหยุดยิงกำลังจะไร้ความหมาย เมื่อ กัมพูชายังแสดงพฤติกรรมปฏิเสธทุกเรื่องที่ตนก่อขึ้น ขณะ ไทยอดทนตีแผ่ความจริงท่ามกลางการรับรู้กว้างขวาง

  แม้ไทยจะยืนยันดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด  แต่กัมพูชากลับเร่งเร้าให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นายในทันที

แม้ไทยจะยืนยันดำเนินการตามอนุสัญญาเจนีวาอย่างเคร่งครัด แต่กัมพูชากลับเร่งเร้าให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นายในทันที พร้อมใช้สงครามข้อมูลข่าวสารปั้นภาพเหยื่อบนเวทีโลก ทั้งที่ข้อเท็จจริงสะท้อนการละเลยทหารของตนเองที่เสียชีวิตแนวชายแดนภาพลักษณ์ห่วงใยด้านมนุษยธรรมที่ฉาบบางด้วยเจตนาทางการเมือง