วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกท่องโลก - ท่อง TWISTประตูแดงหมื่นต้นที่อาจไม่ได้พาคุณกลับเหมือนเดิม

ประตูแดงหมื่นต้นที่อาจไม่ได้พาคุณกลับเหมือนเดิม

เผยแพร่

spot_img

    “บางที่ในโลก…ซ่อนความจริงที่คุณไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ !”

                       คุณเคยเดินผ่าน “ประตู” ที่ไม่ใช่เพื่อออกหรือเข้า…แต่เพื่อเปลี่ยนบางอย่างในตัวคุณตลอดไปหรือเปล่า?

                      ในเช้าหมอกหนาที่เกียวโต ผมยืนอยู่ตรงเชิงเขาอินาริ แหงนมองซุ้มโทริอิสีแดงส้ม ที่ทอดยาวเหมือนไร้ที่สิ้นสุด ประตูแล้วประตูอีก เรียงตัวเป็นอุโมงค์หมื่นช่องทาง ราวกับบังคับให้คุณเดินเข้าสู่พิธีกรรมเงียบงันที่ไม่มีใครยอมบอกว่ามันคืออะไร          

                     แสงแดดอ่อนยามเช้าเล็ดลอดผ่านช่องว่างระหว่างเสาเป็นริ้ว 

                     เหมือนเงาของคมดาบนคอคุณ

                     จากสนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาบินราว 5 ชั่วโมงถึงคันไซ (KIX) จากนั้นนั่งรถไฟ JR Nara Line แค่ 5 นาทีจากเกียวโต ก็ถึงสถานี Inari   ตรงข้ามศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริแทบพอดี 

                    ถ้าคุณมากลางคืน…จะเจอความเงียบที่ทำให้เสียงฝีเท้าของตัวเองดังจนน่าขนลุก

                    ข้างศาลเจ้ามีร้านขาย “อินาริซูชิ” ข้าวห่อเต้าหู้ทอดรสหวานเค็ม เขาเรียก “อินาริซูชิ”   กับอุด้งหน้าหมูทอดเต้าหู้ เรียกว่า “คิทสึเนะอุด้ง”  กินง่าย ๆ ที่อร่อยจริง ๆ 

                   อร่อยแบบว่าเป็นของโปรดของเทพจิ้งจอกผู้พิทักษ์ศาลเจ้า รสหวานเค็มนุ่มลิ้น

                  อร่อยมากกว่าเดิมอีก ถ้าได้เลาะเล็มรอบริมฝีปากที่ส่วนผสมยังหลงเหลือ ก่อนคุณจะออกเดินเข้าสู่อุโมงค์แดงที่รออยู่ข้างหน้า

                 เมื่อก้าวสู่โทริอิต้นแรก เสียงของเมืองหายไปทันที เหลือเพียงเสียงเท้ากระทบพื้นหิน “กุก…กุก…” ที่สะท้อนอยู่ในอุโมงค์แดง เสาโทริอิเหมือนตั้งใจบังคับให้คุณเดินช้าลง ก้มหน้ามองพื้น และไม่มองกลับหลัง

                 ทุก ๆ 50-100 เมตรจะมีป้ายเล็ก ๆ จารึกชื่อผู้บริจาคและปีที่ตั้ง บางป้ายมีหมึกจางเหมือนโดนฝนชะซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งที่เสานั้นเพิ่งซ่อมไม่กี่ปี บางต้นกลับมีรอยขีดเป็นทางยาว…คล้ายเล็บจิ้งจอก

                  ฟุชิมิ อินาริสร้างขึ้นเมื่อกว่า 1,300 ปีก่อนเพื่อบูชาเทพอินาริ เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ การค้า และข้าวสาร แต่ตลอดทางเดินโทริอิหลายพันต้นนั้น…ก็มีตำนานอีกด้านที่ไม่ค่อยถูกเล่าให้คนแปลกหน้าฟัง

                     ว่ากันว่ามีโทริอิบางต้น “ไม่ใช่ของมนุษย์”

                     บางคืน เสาที่เพิ่งทาสีใหม่จะซีดลงภายในชั่วข้ามคืน เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นคอยลูบเอาสีไป

                      บางคนที่เดินขึ้นเขาคนเดียวหลังเที่ยงคืน เล่าว่าได้ยินเสียง “กุก…กุก…” เหมือนเล็บจิ้งจอกเกาพื้นไม้

และบางคนที่ถ่ายภาพโทริอิกลับไป พบเงาที่เดินตามหลัง…ทั้งที่วันนั้นไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย

                       มีเรื่องเล่าที่ไม่ควรเล่า   ผมฟังมาแล้วอยากจะเล่า…

                      ในปี 1987 นักศึกษาชาวออสเตรเลียสามคนมาท่องเที่ยวและตั้งใจจะเดินขึ้นถึงยอดเขาในคืนฮาโลวีน พวกเขาถ่ายภาพและหัวเราะตลอดทางจนถึงโทริอิหมายเลข 768

                        คุณคงรู่นะว่า เสาแต่ละต้นมีหมายเลขเล็ก ๆ ที่คนทั่วไปไม่เคยสังเกตตืดไว้  หลังจากนั้นเสียงหัวเราะในเทปบันทึกกลายเป็นเสียงหอบหนัก ๆ เหมือนมีใครอีกคนร่วมทาง ทั้งที่ภาพถ่ายมีเพียงเงาของสี่คน

                        หนึ่งในนั้นเล่าว่า เห็นผู้หญิงในกิโมโนสีขาวยืนอยู่ข้างหน้า แต่เมื่อเดินแซง…เสื้อผ้าของเธอเป็นสีแดงส้มเหมือนเสาโทริอิ และร่างเธอก็หายไปกับเสาต้นถัดไปทันที

                       สองเดือนหลังกลับประเทศ นักศึกษาคนที่เล่าเรื่องนี้เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในวัย 22 ปี อีกสองคนไม่เคยกลับมาญี่ปุ่นอีกเลย

                       หลายคนคิดว่าโทริอิเป็นเพียงสัญลักษณ์แบ่งเขตศักดิ์สิทธิ์กับโลกมนุษย์ แต่พระชินโตผู้เฒ่าคนหนึ่งบอกผมเบา ๆ ระหว่างเรานั่งจิบชาในลานศาลเจ้า

               “โทริอิ…ไม่ใช่แค่ประตูเข้าสู่ศาลเจ้า แต่เป็นประตูออกจากสิ่งที่คุณเคยเป็น”

                  เขาว่า บางคนเดินผ่านโทริอิครบพันต้นแล้วกลับลงมา “ไม่เหมือนเดิม”

                  ไม่ใช่ว่าเสียสติ…แต่เป็นเพราะบางอย่างในใจคุณถูกทิ้งไว้ข้างบน

                   และบางอย่างจากข้างบน…เดินลงมากับคุณแทน

                   ผมเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะก้าวต่อเข้าสู่โทริอิต้นถัดไป เสียงลมพัดลอดซุ้มดัง “ฮืม…” คล้ายเสียงหายใจของสิ่งมีชีวิต

                          แล้วคุณจะเข้าใจ…ว่าทำไมผมถึงอยากให้คุณมาด้วย

                         คุณคิดอะไรอยู่…!

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

“Kai Tak Reborn สนามบินสู่โลกบันเทิง“

“ท่องโลก ท่อง Twist” “Kai Tak Reborn สนามบินสู่โลกบันเทิง“ ผมนั่งแนบหน้าต่างฝั่งซ้ายของเครื่อง ด้านนอกคือแนวตึกสูงเรียงชิดเหมือนกำแพงเมือง เอียงซ้ายทำมุม 45 องศา… จิกลงรันเวย์ที่ยื่นไปในอ่าวเกาลูน ปีกเครื่องเฉียดผ่านเสาไฟ มันใกล้พอจะเห็นชายชราตากผ้าอยู่บนระเบียง เงยหน้ามามอง เหมือนรู้ว่าเรากำลังตกอยู่ในชะตาเดียวกัน

 “ร่ายรำ 2 โลก”Kerala สู่ Chennai“ INDIA

เสียงกลอง Kathakali ดังขึ้นกลางแสงตะเกียง… ความหมายของเขา……. ที่เกรละ ความศรัทธาแสดงออกผ่าน “การร่ายรำ” ส่วนที่เจนไน ความเชื่อสะท้อนผ่าน “เสียงดนตรี”

Do-Re-Mi-   The Sound of Music

บางที่บางแห่งในโลก…ซ่อนความจริงที่คุณไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ Do, Re, Mi, Fa, So, La, Ti, Do โน้ตแรกจากเสียงเพลงที่ทุกคนจำได้ของ The Sound of Music คุณเห็น “มาเรีย” จูลี่ แอนดรูว์ส หมุนตัวกลางเนินหญ้า Mehlweg สีเขียวสด ไหม !