วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกวัฒนธรรม ชีวิตสว.ไฟเขียวพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ลาคลอด 120 วัน คู่สมรสลาช่วย 15 วัน รับเงินเดือนเต็ม

สว.ไฟเขียวพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ลาคลอด 120 วัน คู่สมรสลาช่วย 15 วัน รับเงินเดือนเต็ม

เผยแพร่

spot_img

วุฒิสภาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน เพิ่มวันลาคลอดจาก 98 วันเป็น 120 วัน พร้อมค่าจ้าง 60 วัน หากลูกป่วยลาเพิ่มได้ 15 วัน คู่สมรสได้ลา 15 วัน เงินเดือนเต็ม รอประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ใน 30 วัน

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2568 ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่…) พ.ศ…. ซึ่งผ่านการพิจารณาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการวิสามัญเรียบร้อยแล้ว ร่างกฎหมายดังกล่าวมุ่งเพิ่มสวัสดิการให้ลูกจ้างหญิงที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยเฉพาะในส่วนของการลาคลอดและการเลี้ยงดูบุตร

สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้คือ การเพิ่มวันลาคลอดจากเดิม 98 วัน เป็นไม่เกิน 120 วัน พร้อมกำหนดให้ผู้ประกันตนที่ลาคลอดได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 60 วัน นอกจากนี้ หากครบกำหนด 120 วันแล้ว บุตรมีอาการเจ็บป่วยที่มีความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน ความผิดปกติ หรือภาวะพิการ ลูกจ้างหญิงสามารถลาต่อเนื่องได้อีกไม่เกิน 15 วัน โดยได้รับค่าจ้างร้อยละ 50 ตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 15 วัน

ร่างกฎหมายยังขยายสิทธิให้คู่สมรสของลูกจ้างหญิงที่เป็นผู้ประกันตน โดยอนุญาตให้ลาเพื่อช่วยเลี้ยงดูบุตรได้ไม่เกิน 15 วัน สามารถใช้สิทธิได้ภายใน 90 วันก่อนหรือหลังคลอด โดยคู่สมรสจะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 15 วัน

ปัจจุบัน สิทธิลาคลอดในระบบประกันสังคมให้ลูกจ้างหญิงลาคลอดได้ 98 วัน และได้รับค่าจ้าง 45 วัน ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จึงเป็นการเพิ่มทั้งจำนวนวันลาคลอดและค่าจ้างระหว่างลา รวมถึงมอบสิทธิใหม่ให้คู่สมรส เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงดูบุตรในช่วงแรกเริ่ม

หลังจาก สว.มีมติเห็นชอบ ร่างกฎหมายจะเข้าสู่ขั้นตอนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อพ้นระยะเวลา 30 วันนับจากวันที่ประกาศ การปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มสวัสดิการและความมั่นคงให้กับครอบครัวของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๑๙ วันประสูติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช ต้นราชสกุล “จิรประวัติ”

✩ จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช (๗ พฤศจิกายน ๒๔๑๙ - ๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๖) เป็นหนึ่งในพระราชโอรสกลุ่มแรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงไปศึกษาต่อในทวีปยุโรป

ผ้าม่วงทึ่ใช้นุ่งโจงกระเบนในสมัยก่อนนั้น เหตุใดจึงเรียกว่าผ้าม่วง

สาเหตุที่เรียกผ้าม่วงก็เพราะผ้าไหมชนิดนี้สั่งทำมาจากเมืองจีน เป็นผ้าที่ทอมาจากโรงงานในเมือง "หม่วง" ในมณฑลเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน

ท่านผู้หญิงขจร ภะรตราชา ผู้ถูกคัดเลือกไปเรียนการฝีมือที่ญี่ปุ่นสมัย ร.๖

สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ทรงเห็นชอบในพระราชดำริ จึงทรงเลือกกุลสตรี 4 คน ซึ่งประกอบไปด้วย คุณหลี, คุณพิศ, คุณนวล, และคุณขจร หรือท่านผู้หญิงขจร ภะรตราชา ท่านผู้หญิงขจรกับคุณพิศ ไปเรียนวิชาปักสะดึง และวาดเขียนแบบญี่ปุ่น ส่วนคุณหลีและคุณนวล ไปเรียนการทำดอกไม้แห้ง