วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกWorld in Focusเบื้องลึกร้าวฉาน 2 ตระกูล แฉ 'Jho Low ไทย' ปั่นหุ้น-จัดเจ็ต 60 ล้าน . ให้...

เบื้องลึกร้าวฉาน 2 ตระกูล แฉ ‘Jho Low ไทย’ ปั่นหุ้น-จัดเจ็ต 60 ล้าน . ให้ ‘ทักษิณ’ ก่อนดีล Bangchak ล่ม ‘ฮุนเซน เดือด’

เผยแพร่

spot_img

31 สิงหาคม 2568 รายงานล่าสุดโดย #AsiaSentinel และผู้เขียน Tom Wright ผู้เปิดโปงคดี 1MDB (ในคดีทุจริตอื้อฉาวของกองทุนการเงินของ รัฐบาลมาเลเซีย ถือครอง) เผยตัวละครลึกลับชาวแอฟริกาใต้ “เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์” หรือ “Ben Smith” ผู้ถูกขนานนามว่าเป็น “Jho Low แห่งไทย” มีบทบาทเป็น fixer/นักต้มตุ๋นระดับโลก และเชื่อมโยงทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี #ทักษิณ ชินวัตร และผู้นำกัมพูชา #ฮุนเซน

**เมาเออร์เบอร์เกอร์ถูกกล่าวหาว่า:

#จัดหาเครื่องบินเจ็ตหรู มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ให้ทักษิณ

– ใช้ชื่อบังหน้าเข้า #ซื้อหุ้นBangchak 24.96% เพื่อ “ถือแทนทักษิณ” ก่อนจะ flip ต่อให้ฮุนเซน แต่ “ดีลล่ม เพราะกองทุนประกันสังคมไม่ขาย” ทำให้ฮุนเซน โกรธจัด

นอกจากนี้เขายังใช้ชีวิตสุดหรูในไทย มีทั้ง Ferrari บ้านภูเก็ต ภรรยาคนไทย และปาร์ตี้กับวงในทักษิณ ขณะที่ทรัพย์สินลับของทักษิณ ถูกโยงถึงเหมืองเพชร-ทองคำ-แพลทินัมในแอฟริกา, อสังหาริมทรัพย์หรูในลอนดอน ดูไบ และมอนเตเนโกร รวมถึงเงินนอกประเทศจากการขาย Shin Corp

รายงานยังชี้ให้เห็นว่า ดีล Bangchak ซึ่งมีงบลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท และตั้งใจเป็น #ฐานลงทุนในพื้นที่ทับซ้อนทะเลไทย–กัมพูชา อาจถูกใช้เป็น #เครื่องมือปั่นรายได้ และ #อำนาจทางการเมือง

นอกจากนี้ #คลิปเสียงโทรศัพท์ ระหว่าง ฮุนเซน และ #อุ๊งอิ๊ง ยังเผยถึงการเมืองไทยที่ปั่นป่วน ทำให้ #ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง #ปลดนายกฯแพทองธาร และส่งผลให้ #พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวจากรัฐบาล ส่งสัญญาณว่าการเมืองไทย–กัมพูชา เชื่อมโยงกับ #เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

นักวิเคราะห์ชี้ว่า เส้นทางของเมาเออร์เบอร์เกอร์และดีลต่างๆ แสดงให้เห็นถึง #การทุจริต, การใช้ชื่อบังหน้า, และ #การแสวงประโยชน์ส่วนตัวเหนือผลประโยชน์ประชาชน ทั้งยังสะท้อนว่า การเมืองไทย–กัมพูชาไม่ได้เป็นเรื่องของอุดมการณ์ แต่ถูก #ครอบงำด้วยกลไกธุรกิจและอาชญากรรม

พฤติกรรมและการกระทำของบุคคล กลุ่มการเมือง ผู้นำสองตระกูล …ล้วนนำมาซึ่งปัญหาผลประโยชน์ ไม่ลงตัว รุนแรงกลายเป็นความขัดแย้ง ระดับประเทศในที่สุด

ที่เรียก Jho Low (โจ โลว์) เป็นนักธุรกิจชาวมาเลเซีย มีชื่อเสียงจากการเป็นสมองเบื้องหลังคดีทุจริต 1MDB (กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจของมาเลเซีย) เขาถูกกล่าวหาว่าเบียดบังเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ซื้ออสังหาริมทรัพย์หรู, เรือยอชต์, เครื่องบินเจ็ต และงานปาร์ตี้สุดหรู เขายังมีเครือข่ายเชื่อมโยงกับนักการเมืองและนักธุรกิจระดับโลก ทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ อาชญากรรมทางการเงินข้ามชาติ

ยกให้ฉายา เป็น #นักต้มตุ๋นระดับโลก ผู้เบียดบังเงิน #กองทุนรัฐมาเลเซีย ใช้ชีวิตหรูหราสุดโต่ง และเชื่อมโยงกับการเมือง-ธุรกิจข้ามชาติ

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

รัฐบาลประกาศเดินหน้าปราบสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ

รัฐบาลจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ประวัติศาสตร์ที่จะต้องจดจำ… วอร์เรน...

ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากเรือประจัญบาน ยูเอสเอส ยูทาห์ ระหว่างการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ในปี 1941 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2024 ขณะมีอายุได้ 105 ปี นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สหรัฐฯประกาศเข่้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2