วันศุกร์, พฤศจิกายน 14, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกเรื่องสั้น”หนี..สุดชีวิต“

”หนี..สุดชีวิต“

เผยแพร่

spot_img

 ฝนกระหน่ำลงบนหลังคาสังกะสีเก่าของโกดังในเขตท่าเรือ เสียงดังราวกับใครเอาหมื่นมือมาตีกลองพร้อมกัน

                       กลิ่นคาวเหล็กผสมกับน้ำมันเครื่องเก่าอบอวลในอากาศ อุณหภูมิเย็นชื้นแผ่ซ่านไปทั่ว

                      พุ่งตัวเข้ามาในโกดัง หอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อม

                      เสียงรองเท้าบู๊ตกระทบพื้นคอนกรีตดังไล่หลัง    เหลือบไปเห็นชายสองคนวิ่งตามติดมา

           ยามนี้ …ไม่มีคนหวังดีแน่

                     หนึ่งร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง หน้าตาเคร่งขรึม อีกคนผอมสูง ดวงตากระสับกระส่ายไม่หยุด

             ชายร่างสูงมีอาการหอบ  เข้ามาใกล้ส่งเสียงกระซิบเร่ง 

           “หลบไปทางนี้ด้วยกัน….มันปิดด้านหน้าแล้ว“

หันขวับ   น้ำเสียงหวาด ๆ 

        “เดี๋ยวก่อน .….พวกนายเป็นใคร…ฉันไม่เกี่ยว”

         ชายผอมหันมาหัวเราะแห้ง เหงื่อไหลเต็มใบหน้า

                    “ตอนนี้เรือมันล่มไปแล้วเพื่อน… ว่ายด้วยกันเถอะ”

                        เขายังงง..แต่ก็ยอมทำตาม  พัยยังตามมาข้างหลังอีก   พลางวิ่งตามสองคนอย่างว่าง่าย

        ไฟนีออนเหนือศีรษะกะพริบถี่ เงาของทั้งสามทอดยาวบนพื้นซีเมนต์เปียกเป็นเส้นขาด ๆ

               แล้วเสียงก้าวเท้าหนัก ๆ พร้อมไฟฉายแรงสูงก็กวาดเข้ามาตามช่องว่างของลังไม้

                    “โป้ง..โป้ง..” 

             เสียงปืนดังสะท้อนในโกดัง เศษกระสุนกระเด็นไปกระแทกผนังโลหะประกายไฟวาบ

             พุ่งหลบหลังกองลังไม้สูง กลิ่นไม้ชื้นจากน้ำฝนผสมกลิ่นดินปืน

             ชายชุดดำคนหนึ่งโผล่มุมมา

                        ไม่คิดแม้เสี้ยววินาที    เขาคว้าแท่งเหล็กยาวข้างลังไม้ ฟาดเต็มแรงใส่มือที่ถือปืน

                        เสียงเหล็กกระทบกระดูกดัง “ปึ้ก!” ปืนร่วงกระแทกพื้น

               เขากัดฟันกรอด     “ฉันจะไม่ตายที่นี่!”

               เขากระแทกหัวไหล่ใส่ศัตรูจนล้ม เสียงลมหายใจอีกฝ่ายขาดห้วง

               ชายร่างสูงฉวยปืนที่ตกไว้ ยิงสวนใส่พวกชุดดำอีกสองคนที่พยายามล้อม เสียงกระสุนดังปะทะลังไม้ใกล้หู

                เลือดเริ่มไหลจากแผลที่แขน แต่เขาไม่หยุด ทุกก้าวคือการพาตัวเองให้ห่างจากความตาย

               เขาวิ่งเหยาะ ๆ ตามสองชายที่ไม่รู้จัก  ที่ยามนี้มันน่าปลอดภัยมากกว่าทำอย่างอื่น

               เขาคิดอย่างรวดเร็วว่า   ….

หนนี้คงเอาชีวิตมาทิ้งมากกว่าที่จะมาล่ารางวัลติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มค้าของเถื่อน

                      ทั้งสามวิ่งมาถึงระเบียงไม้แคบ ๆ ที่โยงไปยังโกดังอีกฝั่ง

                       แสงไฟจากท่าเรือวาบเข้าตา แต่ยังไม่ทันถึงที่หมาย ชายชุดดำอีกคนก็พุ่งเข้าขวาง

                       ท่อเหล็กในมือฟาดลงมาอย่างแรง  เขายกแขนขึ้นกัน แรงกระแทกทำให้แขนชา

                        เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายเหวี่ยงท่อเหล็กสวนใส่ท้องคู่ต่อสู้จนงอพับ แล้วใช้หัวเข่ากระแทกซ้ำจนอีกฝ่ายล้มลงไปกอง

             “วิ่งเร็ว…ก่อนมันจะปิดทางอีก”

ชายร่างสูง เสียงดังฝ่าฝน

                       เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งในความมืด

                       ชายผอมที่วิ่งตามหลังถูกยิงกลางหลัง ร่างเขากระแทกพื้นไม้ดัง “โครม” ก่อนนอนนิ่งไม่ไหวติง

        เขาชงัก…หันหลังจะกลับไปช่วย

                      เหลือบมองแต่ไม่อาจหยุด   เมื่อชายชึดดำหลายคนกำลังมาทางนี้

                     ใจหายเมื่อเห็นเลือดและความตายอยู่ข้างหน้า  

เขารู้ว่าหากหยุดแม้ครู่เดียวจะไม่มีโอกาสรอด

                     ชายร่างสูงดึงแขนเขาวิ่งต่อไป

                    แต่เพียงสิบก้าวต่อมา เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกนัด

ชายร่างสูงชะงัก ร่างโอนเอนก่อนจะทรุดลง เลือดไหลทะลุเสื้อสีดำเป็นดวงใหญ่

                   เขายืนอึ้งเพียงเสี้ยววินาที ก่อนกัดฟันวิ่งต่อเพียงลำพัง

         เหงื่อชุ่มหน้าและเนื้อตัว  หัวใจกำลังอ่อนเปลี้ย

                   เขาจะรอดไหม !

                     เสียงฝนซัดแรงขึ้น กลบเสียงฝีเท้าผู้ไล่ล่า

                     เขาหยุดหลังท่อน้ำติดด้านข้างโกดัง  ยืนหอบจนปอดแทบระเบิด เลือดอุ่น ๆ ซึมผ่านเสื้อ

                     เหลียวซ้ายหันขวา  ยังเงียบ….

                     แต่ความเงียบอาจเป็นกำดักให้เขาเข้าไปติดแล้วพบกับความตายก็ได้

                    ตัดสินใจวิ่งข้ามไปอีกโกดังที่มีไฟริบหรี่ด้านหน้า

มันอาจมีทางรอดไปจากที่นี่

                   ไม่มีเสียงด้านนี้…!

  เขาเริ่มเห็นแสงไฟจากโป๊ะไม้

       วิ่งถลาไปตรงเงามืดริมน้ำจนล้มลง

       เขาวิ่งตะคุ่ม ๆ ไปปลายโป๊ะ  ขณะได้ยินเสียงอยู่ตรงโกดังที่คงตามมาติด ๆ

                  ชายในเรืองัวเงียร้องเอะอะ. กำลังลุกขึ้นหันมามอง   เขารีบกระโจนลงเรือพุ่งเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงเหนี่ยวคอ สะบัดไปมา พลางตะโกนว่าเขาหนีมา เขาหนีมา

แล้วยื่นเงินที่มีให้ทันที

               “พี่ชาย…เร็วเข้า ช่วยผมด้วย  มันกำลังตามมาฆ่า”

เรือหางยาวติดเครื่องยนต์ทันที  เสียงน้ำแตกกระเซ็นเมื่อหัวเรือแล่นออกจากฝั่ง

           เสียงปืนหลายนัดยิงไล่หลังมาตกใกล้ ๆ น้ำกระเด็นจนต้องหลบ

           เสียงเครื่องยนต์เร่งสุดกำลังแหวกน้ำตีโค้งออกไปได้อย่างน่าหวาดเสียว

           เขาโผล่ศีรษะจากพื้นท้องเรือหันไปมอง   มันคงตามมาเล่นงานแน่

           เขายังไม่รู้จะให้หลบหนีไปทางไหนของท้องน้ำ

           มองไปทางโป๊ะท่าเรือ ตกใจกับเงาคนชุดดำยืนอยู่ไกล ๆ ริมน้ำ กำลังลงเรือมาเหมือนที่คิดไว้  

                  ชีวิตเขา…คงจบที่ผืนน้ำ

                  หน้าซีด ใจระทึก   ยกสองมือเหนือศีรษะหันมาไหว้ขอบคุณ พร้อมทั้งยกมือและพยักหน้าให้เร่งเครื่องอีก

                          ชายขับเรือก้มรับ  บิดคันเร่งก้มหัวลู่ลมเสียงกระหึ่มแรงขึ้น

                 จากนั้นเร่งเครื่องเต็มที่จนกลบเสียงคลื่นกระจายเป็นทางขาว

                          เขาใจชื้น เหลือบเห็นปืนวางข้างกราบเรือ 

 รีบหยิบมาถือให้กระชับ ส่ายไปทางคนขับเรือท่าทางตกใจ

                         แล้วหันหลังกลับไปทางฝั่ง ยกจ้องเรือกำลังบึ่งตามมาแล้วเหนี่ยวไกทันที

                       ”แชะ…..แชะ ะ ะ!“

พลางหันมาทางคนขับเรืออีกครั้ง ที่ก้มหน้าพูดโทรศัพท์เบา ๆ

                     ”หมูอยู่ในเล้าแล้วครับนาย   กำลังต้อนกลับ !“

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลไทยมัวแต่ “ประจันหน้า” สู้ศึกหน้าบ้าน ระวัง “หลังบ้าน”

ถูกโจรสแกมเมอร์ยึดจนไร้ทางแก้                               สถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงประเภทสแกมเมอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในขั้น วิกฤตที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว                                ข่าวจากหลายสำนักยืนยันว่าการกวาดล้างในฐานที่มั่นเดิมอย่างกัมพูชาและเมียนมาได้ผลักดันกลุ่มทุนจีนเทาให้โยกย้ายฐานปฏิบัติการมาสู่ อาณาจักรคิงส์โรมัน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยพื้นที่นี้ได้ถูกยกระดับเป็น "ศูนย์บัญชาการ" แห่งใหม่ที่มีความซับซ้อนและมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ                              อาคารสูงกว่า 30 ชั้น  การลงทุนที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อสร้างอาณาจักรนี้ชี้ให้เห็นว่าผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทามีมูลค่ามหาศาล...

ประวัติรองเท้า “นันยาง” 

ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ราวพุทธศักราช 2460 หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี จากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ชื่อ ซู ถิง ฟาง หรือ วิชัย ซอโสตถิกุล ล่องสำเภาพร้อมบิดา แบบเสื่อและหมอนมายังแผ่นดินสยาม

 รัฐบาล 4 เดือน กับมรสุม“ความเชื่อมั่น“

คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันที่เข้าบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขความเชื่อมั่น 4 เดือน กำลังเผชิญกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถมจากหลายทิศทางอย่างหนักหน่วง

เมื่ออายุได้ 53 ปี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้รับคำตัดสินว่า เขามีเวลาเหลืออยู่เพียง “หนึ่งปีสุดท้ายของชีวิต”

ชายคนนั้นคือ จอห์น เดวิสัน ร็อกกีเฟลเลอร์ (John Davidson Rockefeller) เมื่ออายุ 25 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอเมริกา พออายุ 31 ปี เขาก็กลายเป็นผู้บริหารบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเมื่ออายุ 38...

ข่าวอื่นๆ

เรื่องสั้น “ภรรยาผู้ภักดี”

มีชายคนหนึ่งทำงานมาตลอดชีวิต...  อดออมเงินทุกบาททุกสตางค์  และเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวมากเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง  ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต....  เขาบอกกับภรรยาว่า “ที่รัก… ตอนฉันตาย ฉันอยากให้เธอเอาเงินทั้งหมดของฉัน ใส่ลงไปในโลงศพด้วย ฉันอยากเอาเงินของฉันไปใช้ในปรโลก” และเขาก็ทำให้ภรรยาสัญญากับเขา ด้วยหัวใจทั้งหมดของเธอว่า  เมื่อเขาตาย เธอจะเอาเงินทั้งหมดใส่ลงไปในโลงกับเขาจริงๆ ในที่สุดเขาก็เสียชีวิต...  เขานอนอยู่ในโลงอย่างสงบ ภรรยาของเขานั่งอยู่ข้างๆ ในชุดดำสนิท  ข้างๆ กันมีเพื่อนสาวของเธอนั่งอยู่ด้วย เมื่อพิธีศพดำเนินมาจนใกล้เสร็จ....  และก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดฝาโลง  ภรรยาพูดขึ้นว่า...  “เดี๋ยวก่อนค่ะ!”  แล้วเธอก็เดินถือกล่องโลหะใบเล็กๆ ไปวางลงในโลง  ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดฝาโลงและนำโลงศพไป เพื่อนของเธอหันมาพูดด้วยความตกใจว่า... “เธอจะไม่บอกฉันนะ  ว่าเธอโง่พอจะใส่เงินทั้งหมดไปในโลงกับเขาจริงๆ น่ะ?” ภรรยาผู้จงรักภักดีตอบว่า... “ฟังนะ...  ฉันให้สัญญากับเขาไว้แล้ว ฉันจะผิดคำพูดไม่ได้  ฉันสัญญากับเขาว่าจะเอาเงินทั้งหมดใส่ลงไปในโลงด้วยจริงๆ” “หมายความว่าเธอเอาเงินทั้งหมดใส่ไปให้เขาจริงๆ น่ะเหรอ?” ภรรยาตอบกลับอย่างเรียบเฉยว่า... “ใช่สิ...  ฉันรวบรวมเงินทั้งหมด โอนเข้าบัญชีของฉัน...

เพื่อนบ้านเลว ?

ในสมัยโบราณของจีน ชาวนาคนหนึ่ง มีเพื่อนบ้านเป็นนายพราน และเลี้ยงสุนัขล่าสัตว์ที่ดุร้าย และ ถูกฝึกมาอย่างดี สุนัขเหล่านี้มักจะกระโดดข้ามรั้ว และไล่ตามฝูงแกะของชาวนา ชาวนาขอร้องให้เพื่อนบ้าน ควบคุมสุนัขของเขา แต่เรื่องนี้ถูกเพิกเฉย

 เรื่องราวสวยงามที่อยากแบ่งปัน…

เรื่องสั้น..ขอให้เรื่องนี้ได้ส่งต่อถึงหัวใจของใครอีกหลายคน ฉันชื่อ เวโรนิก้า อายุ 80 ปี อยู่คนเดียวในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ชั้นบนของร้านขายอุปกรณ์ช่างในไบรตัน ฉันไม่มีอะไรมาก แต่ก็อยู่ได้ มีเงินบำนาญนิดหน่อย เงินเก็บเล็ก ๆ กับสวนกระถางบนระเบียง สะระแหน่ ไธม์ และต้นมะเขือเทศจอมดื้อหนึ่งต้น