คณะกรรมาธิการอิสระระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ (UN Commission of Inquiry) เปิดเผยรายงานสำคัญเมื่อวันอังคารท16 ก.ย.2568ระบุว่าสงครามที่อิสราเอลทำในฉนวนกาซาเข้าข่ายเป็น“การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” พร้อมชี้ชัดว่าประธานาธิบดีไอแซก เฮิร์ซอก,นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และโยอาฟ กัลแลนท์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมต้องรับผิดชอบโดยตรง
นายนาวี พิลเลย์ (Navi Pillay) ประธานคณะกรรมาธิการฯ ให้สัมภาษณ์กับอัลจาซีรา ระบุว่า “เราได้ระบุชื่อประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมจากคำพูดและคำสั่งที่พวกเขาออกไป เนื่องจากบุคคลเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ภายใต้กฎหมาย รัฐอิสราเอลจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว”
นอกจากคำแถลงของเจ้าหน้าที่อิสราเอล ยังมี “พยานหลักฐานเชิงแวดล้อม” ที่สะท้อนเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยสรุปว่า “เจ้าหน้าที่และกองกำลังความมั่นคงอิสราเอลมีเจตนาทำลายล้างชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ทั้งหมดหรือบางส่วน”
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลออกแถลงการณ์ปฏิเสธรายงานดังกล่าวทันทีผ่านแพลตฟอร์ม X โดยเรียกผลการสอบสวนว่าเป็น “เรื่องปลอม” และกล่าวหาผู้จัดทำรายงานว่า “ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของฮามาส” พร้อมย้ำว่าอิสราเอล “ปฏิเสธรายงานที่บิดเบือนและเป็นเท็จนี้โดยสิ้นเชิง”
นายแดเนียล เมรอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ก็ออกมาประณามรายงานนี้ว่า “อื้อฉาว ปลอม และเป็นการใส่ร้าย”
ข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลกระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ในปี 2023 แอฟริกาใต้เคยยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) โดยกล่าวหาว่าการกระทำของอิสราเอลในกาซาเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณา ขณะที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ก็เคยระบุในรายงานเมื่อต้นปีนี้ว่าอิสราเอลกำลังก่อ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบถ่ายทอดสด” ในกาซา
รายงานของยูเอ็นยังระบุด้วยว่า กองกำลังอิสราเอล “ตั้งใจสังหารพลเรือน” ผ่านการใช้อาวุธทำลายล้างวงกว้าง ซึ่งถือเป็น “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” ประเภทการสังหารหมู่
สงครามกาซาเริ่มต้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 หลังกลุ่มฮามาสโจมตีทางตอนใต้ของอิสราเอล คร่าชีวิตผู้คน 1,139 ราย และลักพาตัวไปกว่า 200 คน นับแต่นั้น การโจมตีทางอากาศและการรุกทางบกของอิสราเอลได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วอย่างน้อย 64,871 ราย และบาดเจ็บ 164,610 ราย ตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซา

ในข้อเสนอแนะ รายงานยูเอ็นเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีอย่างถาวร อนุญาตให้หน่วยงานสหประชาชาติเข้าถึงพื้นที่โดยไม่ถูกขัดขวาง ยุติ “นโยบาย” การทำให้ประชาชนอดอยาก และยกเลิกระบบการจัดสรรความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ และอิสราเอลสนับสนุน ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ท่ามกลางการเปิดเผยรายงานดังกล่าว การโจมตีของอิสราเอลกลับทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบัน ประกาศในช่วงเช้ามืดวันอังคารที่ 16 กันยายนว่ากาซา “กำลังลุกเป็นไฟ” หลังเริ่มการรุกภาคพื้นดินในเมืองกาซา ซิตี้ โดยมีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 48 รายเสียชีวิตในวันเดียว โดย 37 รายอยู่ในกาซาซิตี้เพียงแห่งเดียว
—
IMCT NEWS 17-9-2025