วันเสาร์, ตุลาคม 18, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกข่าวรอบโลกทรัมป์และเนทันยาฮู บรรลุ "แผน 20 ข้อ" อิสราเอลยุติสงครามฉนวนกาซาย้ำฮามาสต้องยอมรับเงื่อนไข

ทรัมป์และเนทันยาฮู บรรลุ “แผน 20 ข้อ” อิสราเอลยุติสงครามฉนวนกาซาย้ำฮามาสต้องยอมรับเงื่อนไข

เผยแพร่

spot_img

Bloomberg รายงานว่า  ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) แห่งอิสราเอลแถลงว่าทั้งสองฝ่ายเห็นชอบใน แผน 20 ข้อ ที่ออกแบบมาเพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา (Gaza) แม้ว่าโอกาสในการบรรลุสันติภาพยังคงไม่มีความชัดเจนหากปราศจากการมีส่วนร่วมโดยตรงของกลุ่มติดอาวุธ ฮามาส (Hamas)

ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนาย เนทันยาฮู  เมื่อวันจันทร์ที่ 29 กันยายน2025ว่า กรอบการทำงานดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากผู้นำประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลางและประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ชี้ให้เห็นว่าแผนนี้อาจเป็นรากฐานสำหรับสันติภาพในวงกว้างของภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้มีข้อกำหนดสำคัญคือ ห้ามกลุ่ม ฮามาสมีบทบาทใด ๆ ในอนาคตของฉนวนกาซา และต้องได้รับการยอมรับจากกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวจำเป็นต้องยอมรับสัมปทานที่สำคัญยิ่ง กลุ่มฮามาสเป็นผู้จุดชนวนสงครามด้วยการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 กล่าวไว้ก่อนการประชุมระหว่างนาย ทรัมป์   และนาย เนทันยาฮู ว่าทางกลุ่มยังไม่เห็นแผนดังกล่าวและจำเป็นต้องศึกษาข้อเสนอก่อน

คำเตือนถึงฮามาส และเงื่อนไขข้อตกลง

ทรัมป์กล่าวเตือนอย่างเปิดเผยว่า “หากกลุ่มฮามาสปฏิเสธข้อตกลงนี้” นาย เนทันยาฮู จะ “ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเรา” ในการทำลายกลุ่มติดอาวุธนี้

“เรายังไม่เสร็จสมบูรณ์นัก เราต้องให้กลุ่มฮามาสยอมรับ แต่ผมคิดว่าพวกเขาจะสามารถทำได้ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่กลุ่มฮามาสต้องยอมรับเงื่อนไขของแผนที่เราได้นำเสนอในวันนี้” นาย ทรัมป์ กล่าว

แผนดังกล่าวระบุว่าความขัดแย้งที่ดำเนินมาสองปีจะสิ้นสุดลงทันทีหากได้รับการยอมรับจากทั้งอิสราเอล และ ฮามาส  และตัวประกันทั้งหมดรวมถึงร่างของผู้ที่เสียชีวิตจะต้องถูกส่งคืนภายใน 72 ชั่วโมง ข้อตกลงนี้ยังกำหนดให้อิสราเอลปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 ราย และระบุว่าอิสราเอลจะไม่ยึดครองหรือผนวกดินแดนฉนวนกาซา

ข้อเสนอยังส่งเสริมให้ชาวกาซายังคงอยู่ในพื้นที่ พลางให้คำมั่นว่าจะกลับมาให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในทันที และจะมีการจัดตั้ง“คณะผู้เชี่ยวชาญ (panel of experts)” เพื่อ “สร้างและฟื้นฟู” พื้นที่ที่เสียหายจากสงครามด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจ

การปกครองในอนาคตและความมั่นคงของอิสราเอล  

แผนดังกล่าวเรียกร้องให้กลุ่ม ฮามาส ตกลงที่จะไม่มีบทบาททั้งทางตรงและทางอ้อมในการกำกับดูแลฉนวนกาซา  แต่ให้มอบการควบคุมพื้นที่ดังกล่าวแก่ “คณะกรรมการเทคโนแครตชาวปาเลสไตน์ที่อยู่เหนือการเมือง (technocratic, apolitical Palestinian committee)” ซึ่งรับผิดชอบในการจัดการการบริการสาธารณะในชีวิตประจำวัน 

คณะกรรมการนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของ “คณะกรรมการสันติภาพ (Board of Peace)” ซึ่งมีนายทรัมป์ เป็นประธานร่วมกับผู้นำระดับโลกอื่นๆ รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี โทนี แบลร์แห่งสหราชอาณาจักร เงื่อนไขดังกล่าวยังอ้างถึงอนาคตที่เงื่อนไขสำหรับการจัดตั้ง รัฐปาเลสไตน์ (Palestinian state) “อาจมีความพร้อมในที่สุด” หากมีการดำเนินการตามข้อตกลง

นาย เนทันยาฮูกล่าวในการแถลงข่าวว่าเขาสนับสนุนแผนของนาย ทรัมป์เพื่อยุติสงคราม โดยระบุว่าแผนนี้ “บรรลุวัตถุประสงค์ในสงครามของเรา” พร้อมเสริมว่า “อิสราเอลจะยังคงรับผิดชอบด้านความมั่นคง รวมถึงการจัดตั้งเขตกันชนด้านความมั่นคง (security perimeter) ในอนาคตอันใกล้”

ปูทางสู่สันติภาพในตะวันออกกลาง

นาย ทรัมป์มองว่าแผนที่เปิดเผยในวันจันทร์นี้เป็นการวางรากฐานสำหรับสันติภาพในตะวันออกกลางในวงกว้าง โดยเน้นย้ำถึงความพยายามของเขาในการโน้มน้าวให้รัฐอ่าวอาหรับหลายรัฐปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอลให้เป็นปกติ และระบุว่าพันธมิตรอาหรับและมุสลิม “พร้อมอย่างเต็มที่ที่จะก้าวเข้ามามีบทบาท”

“นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพใหญ่ ซึ่งคือสันติภาพในตะวันออกกลาง หรืออาจจะเรียกว่าสันติภาพชั่วนิรันดร์ในตะวันออกกลาง” ทรัมป์กล่าวถึงแผน 20 ข้อ “ดังนั้น สิ่งนี้จึงยิ่งใหญ่กว่าที่ใคร ๆ คาดไว้ แต่เป็นระดับการสนับสนุนที่ผมได้รับจากประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง”

ความคืบหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการโทรศัพท์ที่จัดตั้งขึ้นโดยนาย ทรัมป์ในช่วงเช้าวันเดียวกัน โดยนาย เนทันยาฮู แสดงความเสียใจต่อการโจมตีในโดฮา (Doha) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาส  แต่เกิดความผิดพลาดสังหารเจ้าหน้าที่กาตาร์ (Qatar) โดยไม่ตั้งใจ 

นาย ทรัมป์กล่าวชมเชยการสนทนาอย่าง “จริงใจ” ระหว่างนายกรัฐมนตรี กาตาร์ (Qatar) และนาย เนทันยาฮู และเปิดเผยถึงข้อตกลงในการจัดตั้งคณะทำงานไตรภาคีอย่างเป็นทางการระหว่างสามประเทศเพื่อ “เสริมสร้างความมั่นคงร่วมกัน แก้ไขความเข้าใจผิด และหลีกเลี่ยงความไม่พอใจในอนาคต”

IMCT NEWS  30-9-2025

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-09-29/trump-unveils-20-point-plan-to-end-gaza-war-after-netanyahu-meet?srnd=homepage-americas

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

 ‘ยุโรปกำลังแพ้สงครามเทคโนโลยี’ ให้จีนและสหรัฐฯ

นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลเตือน 'ยุโรปกำลังแพ้สงครามเทคโนโลยี' ให้จีนและสหรัฐฯ SCMP รายงานว่า ฟิลิปป์ อากีญง (Philippe Aghion) นักเศรษฐศาสตร์ชาวฝรั่งเศส  ได้ออกคำเตือนที่ชัดเจนต่อยุโรป หลังจากที่เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2025 โดยระบุว่าทวีปยุโรปกำลังสูญเสียสนามแข่งขันทางเทคโนโลยีให้กับ จีน ...

เกาหลีใต้ สั่งห้ามเข้ากัมพูชา หลังคดีนักศึกษาถูกลักพาตัว–ทรมาน–เสียชีวิต ถูกบังคับใช้แรงงาน ใน“เมืองแคมป์โกงออนไลน์”

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้ ‘รหัสดำ’ (code-black) ห้ามพลเมืองเดินทางเข้า “พื้นที่เสี่ยง” ในกัมพูชา ได้แก่ Bokor Mountain, Poipet, และ Bavet ซึ่งถูกระบุว่าเป็นจุดศูนย์กลางเครือข่ายโกงออนไลน์ข้ามชาติ