สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ซูชิลา การ์กี อดีตประธานศาลฎีกาเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 หลังการประท้วงในเนปาลที่รุนแรงทำให้นายเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
การ์กีเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งกับประธานาธิบดีราม จันทรา พูเดลของเนปาลที่ทำเนียบประธานาธิบดี ทำให้เธอเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเนปาล เธอได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีพูเดลภายหลังการเจรจาระหว่างพูเดลและผู้บัญชาการทหารเนปาลกับกลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกว่าตัวเองว่าเป็นกลุ่มคน Gen Z

ภายหลังเข้ารับตำแหน่ง การ์กีจะแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในไม่กี่วันข้างหน้า และจะจัดการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรภายในวันที่ 5 มีนาคม ปี 2026 ถือเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นหลังกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านคอร์รัปชั่นที่ไม่พอใจกับนโยบายแบนโซเชียลมีเดียได้ออกมาก่อจลาจลโดยเผาสถานที่ราชการและบ้านพักของรัฐมนตรีหลายคน รวมถึงมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 51 คน และบาดเจ็บกว่า 1,300 คน
กลุ่มผู้ประท้วงต้องการให้การ์กีเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาลเพราะการ์กีถูกพูดถึงในเรื่องความซื่อสัตย์และจุดยืนต่อต้านการคอร์รัปชั่น อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์มองว่าความท้าทายแรกที่รอให้เธอจัดการคือการสอบสวนเหตุการณ์ความรุนแรงและความเสียหายของสถานที่สาธารณะ รวมถึงยังต้องบริหารประเทศให้ดี กำจัดการคอร์รัปชั่น รักษากฎระเบียบ และฟื้นฟูเรื่องความมั่นคงของประเทศ ซึ่งล้วนเป็นความท้าทายใหญ่ทั้งสิ้น