วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกข่าวรอบโลก“เนสท์เล่” สั่งปลดฟ้าผ่า CEO “โลรองต์ เฟรกซ์” เหตุปกปิดความสัมพันธ์กับลูกน้อง

“เนสท์เล่” สั่งปลดฟ้าผ่า CEO “โลรองต์ เฟรกซ์” เหตุปกปิดความสัมพันธ์กับลูกน้อง

เผยแพร่

spot_img

เนสท์เล่ (Nestlé) กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่สัญชาติสวิส ประกาศสั่งปลดโลรองต์ เฟรกซ์ (Laurent Freixe) ออกจากตำแหน่งซีอีโอแบบสายฟ้าแลบ เหตุปกปิดความสัมพันธ์กับพนักงานใต้บังคับบัญชา หลังจากเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 1 ปีเต็ม พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งฟิลิปป์ นาฟราทิล (Philipp Navratil )ผู้บริหารลูกหม้อซึ่งเป็น Nespresso CEO  ขึ้นมาคุมทัพแทนทันที

แถลงการณ์ของเนสท์เล่ที่เผยแพร่ในเวลาต่อมา ระบุว่า การปลดเฟรกซ์เป็นผลมาจากการสอบสวนภายในที่พบว่าเขามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงและไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบ ซึ่งถือเป็นการละเมิดจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจของเนสท์เล่ ( Nestlé’s Code of Business Conduct )

พอล บุลเค ประธานกรรมการบริษัท กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “นี่เป็นการตัดสินใจที่จำเป็น … ค่านิยมและธรรมาภิบาลคือรากฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ผมขอขอบคุณโลรองต์สำหรับคุณูปการตลอดหลายปีที่ผ่านมา”

รายงานข่าวระบุว่า เรื่องราวเริ่มแดงขึ้นหลังมีผู้แจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนภายในองค์กร ทำให้คณะกรรมการต้องตั้งโต๊ะสอบสวนถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้ แต่เนื่องจากยังมีข้อกังขาอยู่ จึงมีการสอบสวนครั้งที่สองโดยมีบริษัทภายนอกเข้ามาร่วมด้วย จนได้หลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ดังกล่าว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เฟรกซ์เคยให้การปฏิเสธเรื่องนี้ต่อคณะกรรมการมาโดยตลอด

ทั้งนี้ เนสท์เล่ยืนยันว่าจะไม่มีการจ่ายเงินชดเชยใด ๆ ให้กับเฟรกซ์ทั้งสิ้น

Freixe ใช้เวลาเกือบสี่ทศวรรษในบริษัทอาหารและเครื่องดื่มของสวิส รวมถึงหนึ่งปีที่ดำรงตำแหน่งผู้นำ หลังจากที่เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นซีอีโอในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2024 เพราะการลาออกของมาร์ก ขไนเดอร์( Mark Schneider) ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนเขา ต้องลาออกเพราะยอดขายของบริษัทตกต่ำ

เรื่องอื้อฉาวของเฟรกซ์นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงกระแสการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้บริหารระดับสูงที่เข้มข้นขึ้นในเวทีโลก โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก.ค. แอนดี ไบรอน ซีอีโอของบริษัทแอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ก็เพิ่งประกาศลาออก หลังมีภาพปรากฏว่าเขากำลังโอบกอดพนักงานคนหนึ่งระหว่างชมคอนเสิร์ตของวงโคลด์เพลย์ (Coldplay)

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

 ‘ยุโรปกำลังแพ้สงครามเทคโนโลยี’ ให้จีนและสหรัฐฯ

นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลเตือน 'ยุโรปกำลังแพ้สงครามเทคโนโลยี' ให้จีนและสหรัฐฯ SCMP รายงานว่า ฟิลิปป์ อากีญง (Philippe Aghion) นักเศรษฐศาสตร์ชาวฝรั่งเศส  ได้ออกคำเตือนที่ชัดเจนต่อยุโรป หลังจากที่เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2025 โดยระบุว่าทวีปยุโรปกำลังสูญเสียสนามแข่งขันทางเทคโนโลยีให้กับ จีน ...

เกาหลีใต้ สั่งห้ามเข้ากัมพูชา หลังคดีนักศึกษาถูกลักพาตัว–ทรมาน–เสียชีวิต ถูกบังคับใช้แรงงาน ใน“เมืองแคมป์โกงออนไลน์”

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศใช้ ‘รหัสดำ’ (code-black) ห้ามพลเมืองเดินทางเข้า “พื้นที่เสี่ยง” ในกัมพูชา ได้แก่ Bokor Mountain, Poipet, และ Bavet ซึ่งถูกระบุว่าเป็นจุดศูนย์กลางเครือข่ายโกงออนไลน์ข้ามชาติ