วันอาทิตย์, ตุลาคม 19, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกวัฒนธรรม ชีวิตตามสไตล์จีน คือทันทีที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย

ตามสไตล์จีน คือทันทีที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย

เผยแพร่

spot_img

สื่อจีนจำนวนมากได้รายงานข่าวอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่ถูกหยิบมาเป็น “ลีดข่าว” ไม่ได้มีเพียงชัยชนะทางการเมือง หากคือประโยคเด็ดของเจ้าตัว…

“ผมคือคนเชื้อสายจีน 100%”

อนุทินเคยเล่าว่าพ่อแม่และปู่ย่าตายายของเขาเป็นชาวกวางตุ้ง แม้ตัวเองเกิดและเติบโตในประเทศไทย แต่ก็มีชื่อภาษาจีน

นั่นคือ “ฉั่น เซ็กหยิ่ว” สำเนียงจีนกลางคือ ”เฉิน ซีเหยา“ 陈锡尧 (แซ่ตั้งของคนแต้จิ๋ว)

นอกจากนี้ยังใช้ภาษากวางตุ้งในครอบครัวมาตลอด

ความทรงจำเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกผูกพันกับชาวจีนเสมอ เมื่อได้พบเจอคนจีนก็มักมีความสุขและอบอุ่นใจ

สำหรับสื่อจีน เรื่องราวเช่นนี้คือ “วัตถุดิบชั้นดี” ที่จะช่วยเชื่อมโยงความรู้สึกของคนจีนกับการเมืองไทยได้

การที่ผู้นำไทยคนใหม่ย้ำชัดว่าเป็นลูกหลานจีน แสดงให้เห็นว่า สายเลือดและวัฒนธรรมจีนไม่ได้หยุดอยู่แค่ภายในพรมแดน

แต่ยังแตกแขนงไปสร้างผู้นำในประเทศเพื่อนบ้าน

นี่จึงไม่ใช่ครั้งแรกที่สื่อจีนใช้กลยุทธ์ดังกล่าว โดยย้อนหลังไปก่อนหน้านี้ อดีตนายกฯ หลายคนของไทยก็เคยถูกนำเสนอในมิติ “เชื้อสายจีน”

ไม่ว่าจะเป็น ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ แพทองธาร ชินวัตร

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือบรรหาร ศิลปอาชา ทั้งหมดต่างถูกหยิบมาเล่าในฐานะ “ลูกหลานชาวจีน” ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของการเมืองไทย

การเล่าเรื่องเช่นนี้มีเป้าหมายชัดเจน คือสร้างความภาคภูมิใจร่วม ให้คนจีนรู้สึกว่า “ไทยไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่เป็นญาติพี่น้อง”

เสริมความชอบธรรม แก่นโยบายความสัมพันธ์จีน–ไทยในกรอบ “ประชาคมร่วมชะตากรรม”

พูดง่าย ๆ คือดองญาติหาพวก

ปลุกภาพความต่อเนื่องของอารยธรรมจีน ที่ส่งอิทธิพลไปทั่วโลก ลูกหลานชาวจีนแม้ย้ายถิ่นฐานก็ยังคงสืบทอดและประสบความสำเร็จ

การที่อนุทินเน้นย้ำความเป็นจีน 100% ของตนเอง และเล่าถึงรากเหง้าที่มณฑลกวางตุ้ง ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาในสื่อจีนไม่ได้ถูกมองเพียงในฐานะ นายกรัฐมนตรีไทยคนใหม่

แต่ยังถูกตีความว่าเป็น “ลูกหลานจีน“ ที่กลับมามีบทบาทในสังคมโลก

เมื่อประกอบกับท่าทีทางการเมืองที่จีนรีบแสดงความยินดีและย้ำพร้อมจะเสริมสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลไทยชุดใหม่ ยิ่งทำให้เรื่องสายเลือดกลายเป็นสะพานเชื่อมใจระหว่างสองประเทศอย่างทรงพลัง

คำประกาศว่า “ผมคือคนเชื้อสายจีน 100%” ของอนุทิน ไม่ได้เป็นเพียงถ้อยคำส่วนตัว

แต่เมื่อถูกขยายโดยสื่อจีน มันกลายเป็นเครื่องมือทางการทูตเชิงสัญลักษณ์ ที่ย้ำให้คนจีนเห็นว่า ไทยคือมิตรแท้ที่มีสายสัมพันธ์ทั้งทางเลือดและวัฒนธรรมกับจีนมายาวนาน

และนั่นคือเสน่ห์ของการเล่าเรื่องในแบบสื่อจีน การเปลี่ยนชีวประวัติส่วนบุคคลให้มีผลเชิงบวกต่อจีน

ไทยเราใช้จังหวะตรงนี้สานสัมพันธ์กับจีนได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าทุกคนที่ถือบัตรประชาชนคือคนไทย เราเกิดที่บ้านนี้เมืองนี้

คนไทย รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยมาก่อน ตั้งแต่ผู้นำ ยันประชาชนธรรมดาครับ…

cr. ไทยคำจีนคำ

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

ครั้งแรกที่ “สยาม” ปรากฏในบันทึกของชาวต่างชาติ

รู้หรือไม่? ชาติแรกที่พูดถึง "สยาม" คือชาวโปรตุเกสเมื่อกว่า 500 ปีก่อน พวกเขาเขียนว่าเรามีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ มีช้างศึก และค้าขายกับจีน นี่คือจุดเริ่มต้นที่ "ประเทศไทย" ปรากฏตัวบนเวทีโลก!

ดื่มน้ำชา..ในความอบอุ่น: เรื่องเล่าจากงาน “มัสยิดยามิอุ้ลอิบาดะห์ 68”

พอได้ก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณมัสยิดฯ ก็รู้สึกได้ถึงความสงบและร่มเย็นทันทีเลย ที่นี่คือชุมชน บ้านทางควาย ที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ริมคลองประเวศบุรีรมย์ฝั่งใต้ ชื่อนี้มีที่มาจากอาชีพทำนาในอดีต ที่มีควายจำนวนมากเดินผ่านหน้ามัสยิดจนกลายเป็นทาง ซึ่งต่อมาก็เป็นที่มาของชื่อชุมชนนั่นเอง