วันเสาร์, ตุลาคม 18, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกวัฒนธรรม ชีวิตม.จ.อุไรวรรณ ทองใหญ่ : เจ้านายผู้ถูกหมั้นหมาย แต่ชะตารักไม่เป็นดั่งฝัน

ม.จ.อุไรวรรณ ทองใหญ่ : เจ้านายผู้ถูกหมั้นหมาย แต่ชะตารักไม่เป็นดั่งฝัน

เผยแพร่

spot_img

หม่อมเจ้าหญิงอุไรวรรณ ทองใหญ่ เจ้านายสตรีผู้ทรงเพียบพร้อม ทั้งพระชาติกำเนิดและการอบรมศึกษา ทรงอยู่ในพระอุปถัมภ์ใกล้ชิดสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถึงขนาดที่พระองค์ทรงวางพระราชดำริให้หม่อมเจ้าหญิงอุไรวรรณดำรงตำแหน่ง “พระสุณิสา” ในอนาคต และจะทรงให้เสกสมรสกับสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ พระราชโอรสอันเป็นที่รักยิ่ง

ทว่าชะตาชีวิตหาได้สมพระราชประสงค์ไม่ เพราะเมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ เสด็จนิวัตจากยุโรป มิได้เสด็จกลับพระองค์เดียว หากเคียงข้างมากับหม่อมชาวรัสเซีย นามว่า คัทริน เดสนิตสกี ความหวังที่พระบรมราชินีนาถทรงฝากไว้กับหม่อมเจ้าหญิงอุไรวรรณ จึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น

เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า “การหมั้นหมายคู่ครองในราชสำนัก” แม้จะทรงจัดเตรียมโดยพระมารดาอย่างพิถีพิถัน บางครั้งกลับไม่บรรลุพระประสงค์ หากพระราชโอรสทรงมีพระทัยเอนเอียงต่อสตรีอื่น ที่มิใช่ผู้ที่ถูกกำหนดหมายไว้

ชาติกำเนิดและการศึกษา

หม่อมเจ้าหญิงอุไรวรรณฯ เป็นพระธิดาองค์โตของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ทรงเป็นต้นราชสกุลทองใหญ่ กับหม่อมจันทร์ ธิดาหลวงพรหมศักดิ์ (ภู่) 

ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๕พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๑

ครั้งเยาว์วัย ได้ตามเสด็จพระบิดาไปพำนักยังเมืองอุดรธานี ขณะนั้นกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ไปปราบกบฏและตั้งบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย ต่อมาจังหวัดอุดรธานีจึงมี “ค่ายประจักษ์ศิลปาคม” และอนุสาวรีย์เป็นอนุสรณ์เฉลิมพระเกียรติสืบมา

ภายหลังได้เสด็จกลับกรุงเทพฯ เข้ารับราชการในพระราชสำนักสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ และทรงพระกรุณาโปรดให้ศึกษา ณ โรงเรียนราชินี ในยุคที่หม่อมเจ้าหญิงพิจิตรจิราภาเป็นอาจารย์ใหญ่ ครั้นสำเร็จการศึกษาแล้วก็ทรงปฏิบัติราชการฝ่ายในสนองพระเดชพระคุณอยู่ในพระบรมมหาราชวังเรื่อยมา จนสมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จสวรรคต

พระชนมชีพบั้นปลาย

หลังออกจากวัง ม.จ.อุไรวรรณ ทรงดำรงพระชนมชีพอย่างเรียบง่าย สมถะ แต่เปี่ยมด้วยเมตตา โปรดให้ทุนแก่ผู้ยากไร้ สนับสนุนการอุปสมบทพระภิกษุสามเณร และเป็นโยมอุปัฏฐากพระสงฆ์มิได้ขาด

จนถึง พ.ศ. ๒๕๑๙ ทรงประชวรด้วยโรคโลหิตไปเลี้ยงสมองไม่พอ แม้จะเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน แต่ด้วยพระชราภาพ พระอาการก็มิอาจทุเลาได้ และเสด็จถึงชีพิตักษัยเมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๐ สิริพระชนมายุ ๘๙ ปี ด้วยพระอาการสงบสมพระเกียรติ

เรื่องราวของหม่อมเจ้าหญิงอุไรวรรณ ทองใหญ่ จึงเป็นทั้งภาพสะท้อนความผันผวนแห่ง “รักในวัง” และแบบอย่างเจ้านายสตรีผู้ดำรงพระองค์อย่างงามสง่า แม้มิได้สมดั่งชะตากำหนด แต่พระนามของพระองค์ยังคงจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์แห่งราชสกุลทองใหญ่สืบไป

เครดิต: สำนักหอจดหมายเหตุเเห่งชาติ

ข้อมูล : เล่าเรื่องสยามแต่ปางก่อน 

เรียบเรียง : Tui Horwang

ข่าวล่าสุด

อินโดนีเซียทุ่ม 9 พันล้านดอลลาร์  ‘ซื้อเครื่องบินรบ J‑10 จากจีน’ 42 ลำ

อินโดนีเซียเตรียมเข้าซื้อเครื่องบินขับไล่ J-10C ของจีนซึ่งอาจทำให้อินโดนีเซีย กลายเป็นกองทัพต่างชาติรายที่สองที่ใช้งานเครื่องบินรบรุ่นนี้ ต่อจากปากีสถาน การเข้าซื้อครั้งนี้ถือเป็นการซื้อเครื่องบินรบที่ผลิตในจีน ครั้งแรกของอินโดนีเซีย

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

 “มารยา” แห่งพนมเปญ  เมื่อกัมพูชาตระบัดสัตย์ปราบสแกมเมอร์

ความยินดีในการร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนตกลายเป็นเพียงฉากหน้าของ “มารยาทางการทูต” เมื่อผู้นำกัมพูชาปฏิเสธการร่วมมือกับไทยอย่างโจ่งแจ้ง ซ้ำยังผลักภาระให้ไทยไปแก้ปัญหาตนเองก่อน

วาระตกต่ำของ “ค่ายสีแดง” สะท้อนเกมอำนาจใหม่ เมื่อร่างรัฐธรรมนูญ “เพื่อไทย” ถูกโหวตคว่ำในสภา

มติที่ร่างฯ ถูกตีตกเพราะขาดเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก เพียงหยิบมือ คือสัญญาณอันชัดเจนว่า กลไกอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมือไปแล้วอย่างสมบูรณ์

ข่าวอื่นๆ

กฐินทาน.. มหากาลทาน ๑ ปี มีครั้งเดียว

กฐินทาน คือ การถวายผ้าแด่พระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงรักษาศีล สมาธิ และปัญญาอย่างเคร่งครัด หลังจากที่ได้จำพรรษาตลอดฤดูฝนในวัดหรืออารามแห่งใดแห่งหนึ่ง การถวายกฐินนี้ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นกาลทาน ที่นำมาซึ่งอานิสงส์อันมากมายให้แก่ผู้ที่ได้มีโอกาสทอดถวาย

ครั้งแรกที่ “สยาม” ปรากฏในบันทึกของชาวต่างชาติ

รู้หรือไม่? ชาติแรกที่พูดถึง "สยาม" คือชาวโปรตุเกสเมื่อกว่า 500 ปีก่อน พวกเขาเขียนว่าเรามีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ มีช้างศึก และค้าขายกับจีน นี่คือจุดเริ่มต้นที่ "ประเทศไทย" ปรากฏตัวบนเวทีโลก!

ดื่มน้ำชา..ในความอบอุ่น: เรื่องเล่าจากงาน “มัสยิดยามิอุ้ลอิบาดะห์ 68”

พอได้ก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณมัสยิดฯ ก็รู้สึกได้ถึงความสงบและร่มเย็นทันทีเลย ที่นี่คือชุมชน บ้านทางควาย ที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ริมคลองประเวศบุรีรมย์ฝั่งใต้ ชื่อนี้มีที่มาจากอาชีพทำนาในอดีต ที่มีควายจำนวนมากเดินผ่านหน้ามัสยิดจนกลายเป็นทาง ซึ่งต่อมาก็เป็นที่มาของชื่อชุมชนนั่นเอง