วันพฤหัสบดี, กันยายน 25, 2025
spot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเหตุ 'ไทยร้อนระอุเกินปกติ' ท้องฟ้าไร้เมฆ เหมือนไร้ฟิลเตอร์” แดดแรงจัดเพราะเอลนีโญ-ลมมรสุมอ่อน!

เหตุ ‘ไทยร้อนระอุเกินปกติ’ ท้องฟ้าไร้เมฆ เหมือนไร้ฟิลเตอร์” แดดแรงจัดเพราะเอลนีโญ-ลมมรสุมอ่อน!

เผยแพร่

spot_img

5 สิงหาคม 2568 สภาพอากาศในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ยังคง #ร้อนอบอ้าวผิดปกติ แม้จะย่างเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว โดยเฉพาะ #ภาคกลาง และ #ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บางพื้นที่มีอุณหภูมิพุ่งแตะ 37- 40 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางวัน สร้างความร้อนรุนแรงผิดฤดูกาล สาเหตุ ท้องฟ้าในหลายพื้นที่ของประเทศไทยปรากฏสภาพ “ไร้เมฆ” จนหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดช่วงนี้จึงดู “ฟ้าโล่ง” แดดจ้าไม่มีอะไรมากรองแสงเหมือนที่ผ่านมา ล่าสุดนักอุตุนิยมวิทยาและกรมอุตุนิยมวิทยาออกมาให้ข้อมูลว่า สภาพอากาศลักษณะนี้เป็นผลพวงจากปรากฏการณ์ เอลนีโญ ที่ยังคงส่งอิทธิพลต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย

นักอุตุนิยมวิทยา เผยว่า #เอลนีโญ ทำให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกติพัดพาความชื้นจากทะเลเข้าสู่ไทยเกิดการอ่อนกำลังลง ส่งผลให้ไอน้ำในชั้นบรรยากาศลดลง การก่อตัวของเมฆจึงเกิดได้น้อยลงตามไปด้วย นอกจากนี้ยังพบว่า ความกดอากาศสูงและอากาศร้อนที่สะสมอยู่ด้านล่างยังเป็นปัจจัยที่ กดไม่ให้อากาศลอยตัวขึ้น ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเกิดเมฆ

“ฟ้าโล่งแบบนี้เหมือนเราถูกเอาฟิลเตอร์กันแสงออกไป แสงแดดจึงส่องลงมาบนพื้นโลกแบบตรง ๆ ไม่มีอะไรกั้น ทำให้รู้สึกร้อนแสบผิว อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเร็ว และเสี่ยงต่อโรคลมแดดโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ” นักวิชาการด้านภูมิอากาศกล่าว

ในช่วงสัปดาห์นี้ หลายพื้นที่ของประเทศอาจมีอุณหภูมิสูงแตะ 39-40 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ ขณะที่โอกาสเกิดฝนยังค่อนข้างต่ำจนกว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงของลมมรสุมในช่วงปลายเดือน

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาแนะให้ประชาชนสังเกตสภาพอากาศรายวัน หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดช่วง 11.00–15.00 น. และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำหรือฮีตสโตรกจากแดดร้อนจัดในช่วงนี้.

ความกดอากาศสูงจากทะเลจีนใต้ยังไม่เข้มพอ

ปกติในฤดูฝนจะมีความกดอากาศต่ำเข้ามากระตุ้นฝนให้ตกต่อเนื่อง แต่ปีนี้ ความกดอากาศสูงจากทะเลจีนใต้ยังไม่เสถียร ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่นำฝนเข้ามายังอ่อนแรง

โลกร้อน-เมืองร้อน ในระดับโลก อุณหภูมิเฉลี่ยยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า ปี 2025 มีโอกาสสูงมากที่จะเป็น ปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกัน ปรากฏการณ์ “Urban Heat Island” หรือ เกาะความร้อนในเมืองใหญ่ ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้อุณหภูมิกลางวันในเมืองร้อนกว่าชานเมือง 2–3 องศาเซลเซียส

.

ข่าวล่าสุด

จากกรณีถนนทรุดยุบลงไปเป็นหลุมลึก บริเวณสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง

ภาพเหตุการณ์จะเห็นว่ามีเหมือนดินเรียบ ๆ เป็นกำแพงลงลึกไป จริง ๆ เป็นคอนกรีตกำแพงกันดินของสถานีรถไฟฟ้า กำแพงกันดินจะเป็นเหมือนกล่องที่อยู่ใต้ดิน แล้วภายในกล่องก็เป็นสถานี มีชานชาลา มีรางรถไฟ

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

วิธีจับงูอย่างง่ายๆ ขวดน้ำพลาสติกเปล่าควรจะเป็นขนาด 1.5 ลิตร

 โศกนาฏกรรม “ถนนสามเสน” อุทาหรณ์จากรอยต่อที่เปราะบาง

เมื่อเช้าวันที่ 24 ก.ย. 2568 ถนนสามเสนบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลต้องหยุดนิ่ง เมื่อพื้นผิวจราจรทรุดตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้าง 30 เมตร ลึก 50 เมตร ต้องทำให้ทั้งทรัพย์สินและเสาไฟฟ้า สร้างความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบวงกว้างต่อการใช้ชีวิตของประชาชน

“ชีวิต อุทิศเพื่อสยาม” ฝรั่งทั้งครอบครัวโอนใจเป็นไทย!…ตั้งโรงเรียนแพทย์…คิดพิมพ์ดีดภาษาไทย!!…

สมัยที่ประเทศไทยยังไม่มีความสะดวกสบายเหมือนทางตะวันตก แต่วิถีชีวิตความเป็นไทยก็มีเสน่ห์ ทำให้คนหลายชาติหลายภาษาเลือกเอาเมืองไทยเป็นเรือนตายแทนถิ่นเกิด หลายคนกลายเป็นต้นสกุลไทยในวันนี้ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศไทยไว้มากราย…

ข่าวอื่นๆ

‘ขยะพลาสติกท่วมไทย’ รีไซเคิลไม่ถึงฝัน กฎหมายไร้น้ำยา!

วิกฤติขยะพลาสติกครั้งใหญ่ ไทยรีไซเคิลไม่ถึงเป้า กฎหมายไร้ผลบังคับ ทำอย่างไรให้เดินตามกติกาไทยและมาตรฐานโลก ประเทศไทยสร้างขยะพลาสติกกว่า 2 ล้านตัน/ปี หรือราว 12–14% ของขยะมูลฝอยทั้งหมด ~27 ล้านตัน แต่รีไซเคิลกลับได้จริงเพียง ราว 21–22%...

มหาภัยกลิ่นสยาม: วีรกรรม ‘ทุเรียน’ ที่ทำให้เยอรมันต้องจดจำไปอีกนาน..

** กลิ่นแห่งหายนะได้เริ่มคืบคลาน... พนักงานคนหนึ่งขมวดคิ้ว "เอ๊ะ... ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ไหม?" เขาถามเพื่อนร่วมงานที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งก็พยักหน้าเห็นด้วย "กลิ่นเหมือน... ถุงเท้าเน่าๆ ผสมกับหัวหอมที่ลืมไว้หลังตู้เย็นมาสามเดือน"

“ไทย” อันดับ 4 ของโลก เสี่ยงถูกน้ำท่วมหนักปี 2050 “กรุงเทพฯ” อาจจมน้ำเกือบทั้งหมด

ปีนี้ “โลกร้อน” เริ่มทำให้เราเห็นผลกระทบอย่างชัดแจ้งมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) จึงได้คาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตซึ่งน่าวิตกเป็นอย่างมาก ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้