8 กันยายน 2568 เพจพาไปดู…เผยแพร่ภาพความคืบหน้าการ #ทำถนนทางขึ้น ภูมะเขือ บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา อำเภอกันทรลักษ์ #จังหวัดศรีสะเกษ โดยถนนดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างเพื่อให้สามารถใช้เป็นเส้นทางคมนาคมและการท่องเที่ยวในอนาคต หลังพื้นที่ #ภูมะเขือ กลับคืนสู่การครอบครองของฝ่ายไทย
ภูมะเขือ มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่สูงที่สามารถมองเห็นทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาอย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้ไทยและกัมพูชามีข้อพิพาทยาวนานเกี่ยวกับ #เขตแดนรอบปราสาทพระวิหาร จน #ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) มีคำตัดสินเมื่อปี 2556 ให้พื้นที่บางส่วนรอบปราสาทเป็นของกัมพูชา ขณะที่ “ภูมะเขือ” ยังคงอยู่ในเขตอธิปไตยไทย
ต่อมาในปี 2551–2554 เกิดความตึงเครียดทางทหาร กัมพูชาได้สร้างถนนทางขึ้นจากฝั่งตนเองเพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ แต่ภายหลังเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย กัมพูชากลับดำเนินการ ทำลายและสกัดเส้นทางฝั่งตนเองทิ้งในปี 2555 เพื่อไม่ให้ไทยสามารถเข้าถึงได้ง่าย และเป็นการตัดทอนความสำคัญของพื้นที่
การที่ฝ่ายไทยเร่งทำทางขึ้นใหม่ในปัจจุบัน จึงมีเหตุผลหลัก 3 ประการ คือ
– เสริมความมั่นคงชายแดน ให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้สะดวกขึ้น
– กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เพราะภูมะเขือมีทัศนียภาพสวยงาม มองเห็นปราสาทพระวิหารได้จากฝั่งไทย
– สร้างความมั่นใจด้านอธิปไตย ว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐไทยอย่างแท้จริง
ล่าสุด งานตัดถนนทางขึ้นจากฝั่งไทยมีความคืบหน้าไปกว่า 60% โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า และเปิดเป็นทางเชื่อมสำหรับทั้งการรักษาความปลอดภัยชายแดนและการท่องเที่ยว