ฝนกระหน่ำลงบนหลังคาสังกะสีเก่าของโกดังในเขตท่าเรือ เสียงดังราวกับใครเอาหมื่นมือมาตีกลองพร้อมกัน
กลิ่นคาวเหล็กผสมกับน้ำมันเครื่องเก่าอบอวลในอากาศ อุณหภูมิเย็นชื้นแผ่ซ่านไปทั่ว
พุ่งตัวเข้ามาในโกดัง หอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อม
เสียงรองเท้าบู๊ตกระทบพื้นคอนกรีตดังไล่หลัง เหลือบไปเห็นชายสองคนวิ่งตามติดมา
ยามนี้ …ไม่มีคนหวังดีแน่
หนึ่งร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง หน้าตาเคร่งขรึม อีกคนผอมสูง ดวงตากระสับกระส่ายไม่หยุด
ชายร่างสูงมีอาการหอบ เข้ามาใกล้ส่งเสียงกระซิบเร่ง
“หลบไปทางนี้ด้วยกัน….มันปิดด้านหน้าแล้ว“
หันขวับ น้ำเสียงหวาด ๆ
“เดี๋ยวก่อน .….พวกนายเป็นใคร…ฉันไม่เกี่ยว”
ชายผอมหันมาหัวเราะแห้ง เหงื่อไหลเต็มใบหน้า
“ตอนนี้เรือมันล่มไปแล้วเพื่อน… ว่ายด้วยกันเถอะ”
เขายังงง..แต่ก็ยอมทำตาม พัยยังตามมาข้างหลังอีก พลางวิ่งตามสองคนอย่างว่าง่าย
ไฟนีออนเหนือศีรษะกะพริบถี่ เงาของทั้งสามทอดยาวบนพื้นซีเมนต์เปียกเป็นเส้นขาด ๆ

แล้วเสียงก้าวเท้าหนัก ๆ พร้อมไฟฉายแรงสูงก็กวาดเข้ามาตามช่องว่างของลังไม้
“โป้ง..โป้ง..”
เสียงปืนดังสะท้อนในโกดัง เศษกระสุนกระเด็นไปกระแทกผนังโลหะประกายไฟวาบ
พุ่งหลบหลังกองลังไม้สูง กลิ่นไม้ชื้นจากน้ำฝนผสมกลิ่นดินปืน
ชายชุดดำคนหนึ่งโผล่มุมมา
ไม่คิดแม้เสี้ยววินาที เขาคว้าแท่งเหล็กยาวข้างลังไม้ ฟาดเต็มแรงใส่มือที่ถือปืน
เสียงเหล็กกระทบกระดูกดัง “ปึ้ก!” ปืนร่วงกระแทกพื้น
เขากัดฟันกรอด “ฉันจะไม่ตายที่นี่!”
เขากระแทกหัวไหล่ใส่ศัตรูจนล้ม เสียงลมหายใจอีกฝ่ายขาดห้วง
ชายร่างสูงฉวยปืนที่ตกไว้ ยิงสวนใส่พวกชุดดำอีกสองคนที่พยายามล้อม เสียงกระสุนดังปะทะลังไม้ใกล้หู

เลือดเริ่มไหลจากแผลที่แขน แต่เขาไม่หยุด ทุกก้าวคือการพาตัวเองให้ห่างจากความตาย
เขาวิ่งเหยาะ ๆ ตามสองชายที่ไม่รู้จัก ที่ยามนี้มันน่าปลอดภัยมากกว่าทำอย่างอื่น
เขาคิดอย่างรวดเร็วว่า ….
หนนี้คงเอาชีวิตมาทิ้งมากกว่าที่จะมาล่ารางวัลติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มค้าของเถื่อน
ทั้งสามวิ่งมาถึงระเบียงไม้แคบ ๆ ที่โยงไปยังโกดังอีกฝั่ง
แสงไฟจากท่าเรือวาบเข้าตา แต่ยังไม่ทันถึงที่หมาย ชายชุดดำอีกคนก็พุ่งเข้าขวาง
ท่อเหล็กในมือฟาดลงมาอย่างแรง เขายกแขนขึ้นกัน แรงกระแทกทำให้แขนชา
เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายเหวี่ยงท่อเหล็กสวนใส่ท้องคู่ต่อสู้จนงอพับ แล้วใช้หัวเข่ากระแทกซ้ำจนอีกฝ่ายล้มลงไปกอง
“วิ่งเร็ว…ก่อนมันจะปิดทางอีก”
ชายร่างสูง เสียงดังฝ่าฝน
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งในความมืด
ชายผอมที่วิ่งตามหลังถูกยิงกลางหลัง ร่างเขากระแทกพื้นไม้ดัง “โครม” ก่อนนอนนิ่งไม่ไหวติง
เขาชงัก…หันหลังจะกลับไปช่วย
เหลือบมองแต่ไม่อาจหยุด เมื่อชายชึดดำหลายคนกำลังมาทางนี้
ใจหายเมื่อเห็นเลือดและความตายอยู่ข้างหน้า
เขารู้ว่าหากหยุดแม้ครู่เดียวจะไม่มีโอกาสรอด
ชายร่างสูงดึงแขนเขาวิ่งต่อไป
แต่เพียงสิบก้าวต่อมา เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกนัด
ชายร่างสูงชะงัก ร่างโอนเอนก่อนจะทรุดลง เลือดไหลทะลุเสื้อสีดำเป็นดวงใหญ่
เขายืนอึ้งเพียงเสี้ยววินาที ก่อนกัดฟันวิ่งต่อเพียงลำพัง
เหงื่อชุ่มหน้าและเนื้อตัว หัวใจกำลังอ่อนเปลี้ย
เขาจะรอดไหม !
เสียงฝนซัดแรงขึ้น กลบเสียงฝีเท้าผู้ไล่ล่า
เขาหยุดหลังท่อน้ำติดด้านข้างโกดัง ยืนหอบจนปอดแทบระเบิด เลือดอุ่น ๆ ซึมผ่านเสื้อ
เหลียวซ้ายหันขวา ยังเงียบ….
แต่ความเงียบอาจเป็นกำดักให้เขาเข้าไปติดแล้วพบกับความตายก็ได้
ตัดสินใจวิ่งข้ามไปอีกโกดังที่มีไฟริบหรี่ด้านหน้า
มันอาจมีทางรอดไปจากที่นี่
ไม่มีเสียงด้านนี้…!
เขาเริ่มเห็นแสงไฟจากโป๊ะไม้
วิ่งถลาไปตรงเงามืดริมน้ำจนล้มลง
เขาวิ่งตะคุ่ม ๆ ไปปลายโป๊ะ ขณะได้ยินเสียงอยู่ตรงโกดังที่คงตามมาติด ๆ
ชายในเรืองัวเงียร้องเอะอะ. กำลังลุกขึ้นหันมามอง เขารีบกระโจนลงเรือพุ่งเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงเหนี่ยวคอ สะบัดไปมา พลางตะโกนว่าเขาหนีมา เขาหนีมา
แล้วยื่นเงินที่มีให้ทันที
“พี่ชาย…เร็วเข้า ช่วยผมด้วย มันกำลังตามมาฆ่า”
เรือหางยาวติดเครื่องยนต์ทันที เสียงน้ำแตกกระเซ็นเมื่อหัวเรือแล่นออกจากฝั่ง
เสียงปืนหลายนัดยิงไล่หลังมาตกใกล้ ๆ น้ำกระเด็นจนต้องหลบ
เสียงเครื่องยนต์เร่งสุดกำลังแหวกน้ำตีโค้งออกไปได้อย่างน่าหวาดเสียว
เขาโผล่ศีรษะจากพื้นท้องเรือหันไปมอง มันคงตามมาเล่นงานแน่
เขายังไม่รู้จะให้หลบหนีไปทางไหนของท้องน้ำ
มองไปทางโป๊ะท่าเรือ ตกใจกับเงาคนชุดดำยืนอยู่ไกล ๆ ริมน้ำ กำลังลงเรือมาเหมือนที่คิดไว้
ชีวิตเขา…คงจบที่ผืนน้ำ
หน้าซีด ใจระทึก ยกสองมือเหนือศีรษะหันมาไหว้ขอบคุณ พร้อมทั้งยกมือและพยักหน้าให้เร่งเครื่องอีก
ชายขับเรือก้มรับ บิดคันเร่งก้มหัวลู่ลมเสียงกระหึ่มแรงขึ้น
จากนั้นเร่งเครื่องเต็มที่จนกลบเสียงคลื่นกระจายเป็นทางขาว
เขาใจชื้น เหลือบเห็นปืนวางข้างกราบเรือ
รีบหยิบมาถือให้กระชับ ส่ายไปทางคนขับเรือท่าทางตกใจ
แล้วหันหลังกลับไปทางฝั่ง ยกจ้องเรือกำลังบึ่งตามมาแล้วเหนี่ยวไกทันที
”แชะ…..แชะ ะ ะ!“
พลางหันมาทางคนขับเรืออีกครั้ง ที่ก้มหน้าพูดโทรศัพท์เบา ๆ
”หมูอยู่ในเล้าแล้วครับนาย กำลังต้อนกลับ !“